Home
|
ไลฟ์สไตล์

ข้อควรปฏิบัติเมื่อไข้เลือดออกระบาด: เพื่อปกป้องตนเองและคนที่คุณรัก

Featured Image

หากจะกล่าวว่าโรคไข้เลือดออกยังคงเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของคนไทยก็คงไม่ผิดนัก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มักเกิดการระบาดในหลายพื้นที่ การป้องกันตนเองและคนในครอบครัวจากโรคไข้เลือดออกจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะมาแนะนำถึงข้อปฏิบัติที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และห่างไกลจากโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย: หัวใจของการควบคุมโรค

ยุงลาย เป็นพาหะหลักของโรคไข้เลือดออก และมีพฤติกรรมวางไข่ในน้ำนิ่งและใส โดยเฉพาะตามภาชนะที่กักเก็บน้ำต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกบ้าน การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์จึงเป็นมาตรการสำคัญที่สุดในการควบคุมการแพร่ระบาด

  • คว่ำน้ำทิ้ง/เทน้ำทิ้ง: ตรวจสอบและเทน้ำทิ้งจากภาชนะที่อาจมีน้ำขังทุก 7 วัน เช่น จานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์เก่า แจกันดอกไม้ ขวดน้ำ พลาสติก หรือภาชนะอื่นๆ ที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
  • ปิดฝาภาชนะเก็บน้ำให้สนิท: โอ่งน้ำ ถังน้ำ หรือภาชนะเก็บน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ควรมีฝาปิดที่สนิทมิดชิด เพื่อป้องกันยุงลงไปวางไข่
  • เปลี่ยนน้ำในภาชนะที่ต้องมีน้ำขัง: แจกันดอกไม้ อ่างบัว หรือภาชนะอื่นๆ ที่จำเป็นต้องมีน้ำขัง ควรเปลี่ยนน้ำและล้างภาชนะทุก 7 วัน หรือใส่ทรายอะเบท (ทรายเคมีกำจัดลูกน้ำ) หรือสารเคมีกำจัดลูกน้ำชนิดอื่นๆ
  • ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมรอบบ้าน: ตัดหญ้า ทำความสะอาดบริเวณบ้านและสวนให้โล่งเตียน ไม่ให้มีมุมอับที่ยุงหลบซ่อน และจัดการกับขยะที่อาจเป็นแหล่งน้ำขังได้ เช่น กระป๋อง แก้วพลาสติก ถุงพลาสติก

2. ป้องกันตนเองไม่ให้ยุงกัด: สร้างเกราะป้องกันส่วนบุคคล

แม้จะกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์แล้ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกยุงกัดจากพื้นที่อื่น ๆ การป้องกันตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

  • สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด: ในช่วงเวลาที่ยุงลายออกหากิน (ส่วนใหญ่คือช่วงกลางวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็น) ควรสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หรือกระโปรงยาว เพื่อลดพื้นที่ผิวหนังที่ยุงจะกัดได้
  • ทาโลชั่นกันยุง: ลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันยุงที่มีส่วนผสมของสารที่ออกฤทธิ์ไล่ยุง เช่น DEET, PicardiN, หรือ IR3535 โดยเลือกความเข้มข้นที่เหมาะสมกับวัยและสภาพผิว และปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด
  • นอนในมุ้ง: หากเป็นไปได้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือผู้ป่วยที่มีไข้ ควรนอนในมุ้งทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นหากป่วยเป็นไข้เลือดออก
  • ติดตั้งมุ้งลวด: ติดตั้งมุ้งลวดที่ประตูและหน้าต่าง เพื่อป้องกันยุงไม่ให้เข้ามาในบ้าน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงในบ้าน: เช่น สเปรย์ไล่ยุง, ยาจุดกันยุง, เครื่องไล่ยุงไฟฟ้า หรือเครื่องดักยุง อย่างไรก็ตาม ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

3. สังเกตอาการและรีบไปพบแพทย์: เมื่อมีไข้ต้องสงสัย

การสังเกตอาการป่วยและเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงทีมีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดความรุนแรงและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

  • อาการเบื้องต้น: หากมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว มีผื่นแดง หรือมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่ ไม่มีน้ำมูก ไอ หรือเจ็บคอ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
  • ไม่ควรซื้อยากินเอง: โดยเฉพาะยาในกลุ่มลดไข้ประเภท Aspirin, Ibuprofen หรือยาแก้ปวดข้อปวดกระดูกชนิดอื่นๆ (NSAIDs) เนื่องจากยาเหล่านี้อาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้นและเพิ่มความรุนแรงของโรคได้ ควรใช้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
  • สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที: หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะช็อก
    • ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย ซึม เหงื่อออก มือเท้าเย็น ปวดท้องกระสับกระส่าย
    • อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ
    • ปวดท้องอย่างรุนแรง
    • มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน

4. มีส่วนร่วมในการรณรงค์และให้ความรู้

การควบคุมโรคไข้เลือดออกไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบของทุกคนในชุมชน

  • ให้ความรู้คนรอบข้าง: อธิบายและสาธิตวิธีการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และการป้องกันตนเองให้แก่สมาชิกในครอบครัว เพื่อนบ้าน และเพื่อนร่วมงาน
  • เข้าร่วมกิจกรรมชุมชน: หากมีการจัดกิจกรรมรณรงค์กำจัดยุงลายในชุมชน ควรเข้าร่วมและให้ความร่วมมือ
  • แจ้งข้อมูล: หากพบแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายขนาดใหญ่ หรือมีผู้ป่วยไข้เลือดออกจำนวนมากในพื้นที่ ควรแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อดำเนินการควบคุมโรค

การเผชิญหน้ากับการระบาดของโรคไข้เลือดออกจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเริ่มจากการปฏิบัติของแต่ละบุคคลอย่างเคร่งครัด ด้วยการหมั่นสำรวจและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างสม่ำเสมอ ป้องกันตนเองไม่ให้ยุงกัด และที่สำคัญที่สุดคือการสังเกตอาการป่วย และรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีไข้หรือมีอาการน่าสงสัย การปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้เลือดออกได้

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube