ในโลกที่รุ่งเรืองด้วยความหลากหลายและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม วีรสตรีได้ถือกำเนิดขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก สร้างประวัติศาสตร์ บรรทัดฐานที่ท้าทาย และทำลายอุปสรรค รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นนับไม่ถ้วนด้วยความกล้าหาญ
ในอดีต ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ มีการบันทึกเรื่องราวของผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคซึ่งได้สร้างทั้งชื่อเสียงและการค้นพบที่โลกต้องจารึก ในอดีตมีเหล่าสตรีมากมายที่มีความสามารถในการรบไม่แพ้เหล่าบุรุษเลย ซึ่งด้วยความกล้าหาญของพวกเธอ นอกจากถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์โลกแล้ว ยังเคยถูกนำมาถ่ายทอดสร้างเป็นภาพยนตร์ร่วมสมัยอีกหลายต่อหลายครั้ง
มาดูกันว่า มีหญิงสาวคนใดบ้าง ที่จารึกชื่อตนเองไว้ในฐานะ วีรสตรีในหน้าประวัติศาสตร์
แม่ชีเทเรซา หรือ คุณแม่เทเรซา
มาเริ่มกันที่วีรสตรีหญิงคนแรก แม่ชีเทเรซา หรือที่หลายๆคนรู้จักในชื่อนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา เป็นแม่ชีนิกายโรมันคาทอลิกและเป็นบุคคลที่อุทิศชีวิตของตนเพื่อรับใช้คนยากจน เธอกลายเป็นบุคคลด้านมนุษยธรรมที่เป็นที่รักและได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ 20
ในปี 1950 แม่ชีเทเรซาได้ก่อตั้ง Missionaries of Charity ซึ่งเป็นกลุ่มศาสนาที่มุ่งให้การดูแลและช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะผู้ยากไร้ คนป่วย และคนที่กำลังจะตาย ด้วยการกระทำที่เสียสละของเธอ เธอกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก
ด้วยความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงในการช่วยเหลือผู้อื่น แม่ชีเทเรซาจึงได้รับรางวัลและเกียรติยศระดับนานาชาติมากมาย ในปี 1979 เธอได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากผลงานด้านมนุษยธรรมของเธอ ซึ่งทำให้ทั่วโลกหันมาสนใจชะตากรรมของผู้ยากไร้ แม่ชีเทเรซายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้ การอุทิศตนเพื่อรับใช้มนุษยชาติและความเชื่ออันแน่วแน่ในพลังแห่งความกรุณาและความเห็นอกเห็นใจทำให้เธอเป็นวีรสตรีแห่งโลกอย่างแท้จริง
Aung San Suu Kyi
วีรสตรีหญิงคนถัดมา ออง ซาน ซูจี นักการเมืองและผู้สนับสนุนด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในเมียนมาร์ ผู้ที่อุทิศชีวิตให้กับการส่งเสริมประชาธิปไตยและต่อสู้เพื่อสิทธิของประชาชน แม้จะถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านเป็นเวลาหลายปี แต่ความมุ่งมั่นและความเป็นผู้นำที่ไม่เปลี่ยนแปลงของซูจีก็ส่งผลให้ประเทศของเธอเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย
ทำให้เธอได้รับการยอมรับในระดับสากลจากการต่อสู้กับเผด็จการทหารในเมียนมาร์ นอกจากนี้เธอยังได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 1991 จากความพยายามในการส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
เรื่องราวของออง ซาน ซูจี เป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจในการเสียสละส่วนตัวเพื่อประชาธิปไตยในประเทศของเธอ แม้จะเผชิญกับความท้าทายและความพ่ายแพ้มากมาย แต่เธอยังคงแน่วแน่ในความมุ่งมั่นของเธอที่จะไม่ใช้ความรุนแรงและการเจรจาอย่างสันติ
คลีโอพัตรา ราชินีแห่งอียิปต์
วีรสตรีอีกหนึ่งคนที่เป็นที่รู้จักในเรื่องของความกล้าหาญ เป็นราชินีแห่งอียิปต์โบราณ คลีโอพัตรา ราชินีที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ปกครองคนสุดท้ายของอาณาจักร Ptolemaic แห่งอียิปต์ เธอเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ คลีโอพัตราไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในเรื่องของความงามที่โดดเด่นของเธอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเฉลียวฉลาด ความกล้าหาญทางการเมือง และเสน่ห์อันน่าหลงใหลอีกด้วย
คลีโอพัตรา ปกครองอียิปต์ในช่วงเวลาแห่งความโกลาหลครั้งใหญ่และสามารถรักษาอำนาจของเธอไว้ได้ผ่านการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และการซ้อมรบทางการทูต เธอยังมีชื่อเสียงจากความสัมพันธ์ของเธอกับผู้นำโรมันที่ทรงอิทธิพลที่สุดสองคนในยุคนั้น Julius Caesar และ Mark Antony ซึ่งมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของอียิปต์และโรม
เรื่องราวของเธอถูกถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี มีการนำไปสร้างเป็นหนังสือ บทละครโศกนาฏกรรมของเชกสเปียร์ ไปจนถึงภาพยนตร์ชีวประวัติของเน็ตฟลิกซ์ ตอกย้ำสถานะของเธอในฐานะหนึ่งในวีรสตรีที่ทรงกล้าหาญทางการเมืองและมุ่งมั่นใช้ประโยชน์จากทั้งความเป็นสตรีเพศและอำนาจอันมากล้นที่สุดในประวัติศาสตร์
Joan of Arc
หญิงสาวชาวฝรั่งเศสที่อ้างว่าได้รับนิมิตที่ได้ยินมาจากเสียงของพระผู้เป็นเจ้า เธอช่วยปลดปล่อยฝรั่งเศสจากการยึดครองของอังกฤษในช่วงสงครามร้อยปี Joan of Arc หรือที่รู้จักกันในชื่อ Maid of Orleans ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในวีรสตรีที่กล้าหาญสุดในประวัติศาสตร์
โจน ในวัยเพียง 17 ปี ได้สลัดภาพสาวชาวบ้าน กลายเป็นวีรสตรีผู้ปลุกขวัญและกำลังใจชาวฝรั่งเศสให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อขับไล่ชาวอังกฤษผู้รุกรานในช่วงปลายของสงคราม 100 ปี ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของเธอสามารถยึดเอาเมืองออร์ลีอองส์กลับคืนมาได้สำเร็จ และร่วมยึดดินแดนที่ถูกช่วงชิงไปกลับคืน จากนั้นในปี 1430 เธอพลาดท่าเสียทีถูกจับไปโดยกองทัพชาวฝรั่งเศสที่เป็นพันธมิตรกับอังกฤษ เธอก็ได้ตกเป็นนักโทษของฝั่งอังกฤษ และถูกเผาทั้งเป็นหลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด และจบชีวิตด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น
ซึ่งจากวีรกรรมที่กล้าหาญของเธอได้รับการยกย่อง และได้ถูกมาสร้างเป็นภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้งเช่นเรื่อง The Messenger: The Story of Joan of Arc (1999) ซึ่งในเรื่องนี้ เราจะได้เห็นว่า โจน ได้สลัดภาพความเป็นหญิง และแต่งตัวเป็นนักรบชายออกรบอย่างกล้าหาญ เรื่องราวของเธอเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังแห่งความเชื่อมั่น ความกล้าหาญ และจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อของวีรสตรีที่แท้จริง
สมเด็จพระสุริโยทัย
หญิงสาวที่เป็นที่เลื่องลือในฐานะวีรสตรีประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นมเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16 พระองค์มีชื่อว่า สมเด็จพระสุริโยทัย เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจากความกล้าหาญและความเสียสละของพระองค์ในระหว่างศึกสงครามกับพม่าที่เชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2091
พระองค์ถือเป็นวีรสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ไทยและเป็นที่รู้จักจากการเสียสละชีวิต เพื่อปกป้องสมเด็จพระมหาจักรพรรดิผู้เป็นพระราชสวามีให้พ้นจากอันตรายในสนามรบ แต่การกระทำของพระองค์เป็นที่จดจำและชื่นชมมานานหลายศตวรรษ สมเด็จพระสุริโยทัยจึงถือเป็นวีรสตรีที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย
ท้ายที่สุดแล้ว วีรสตรีที่เรานำมาให้ทุกคนได้อ่านเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แม้ความรุนแรงและสงคราม ไม่ใช่เรื่องที่ควรคู่กับสตรี แต่เรื่องราวของนักรบหญิงเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเธอสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกได้ และพวกเธอเองก็มีความสามารถในการรบไม่แพ้บุรุษและมีความกล้าหาญไม่แพ้ใคร
นั่นจึงทำให้เพศสภาพไม่ได้เป็นเครื่องชี้วัดคุณค่าของคน เรื่องความเสมอภาคทางเพศหรือความเท่าเทียมระหว่างเพศเป็นเรื่องของมนุษย์ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ ที่มีสิทธิในความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน เราทุกคนไม่ว่าเพศไหนจึงควรให้เกียรติ ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อช่วยกันสร้างสังคมที่มีความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้น และทำให้มนุษย์ทุกคนในโลกสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
Suzanne Plunkett – WPA Pool/Getty Images
พระราชพงศาวดาร ฝีพระหัตถ์สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
