ถึงแม้จะดูเหมือนองค์ประกอบเล็ก ๆ ภายในห้องน้ำ ทว่า ‘ที่แขวนฝักบัว’ ก็ถือว่ามีความสำคัยไม่ใช่น้อย และเพื่อป้องกันความผิดหวัง ไม่ถูกใจที่อาจจะตามมา การเลือกอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อก็ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำถึง 5 ปัจจัยไว้ใช้ในการเลือกที่แขวนฝักบัว เพื่อให้ใครต่อไปก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อ จะไม่มีคำว่าพลาด
วัสดุ
วัสดุที่ใช้ในการผลิตที่แขวนฝักบัวนั้นมีด้วยกันหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พลาสติก, อลูมิเนียม, ไม้, หรือโลหะชนิดต่าง ๆ ซึ่งแต่ละอย่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป เช่นพลาสติก ข้อดีของมันคือน้ำหนักที่เบา และราคาที่ถูกกว่าวัสดุชนิดอื่น ๆ ในขณะที่ข้อเสียก็ชัดเจนว่าเป็นเรื่องของความทนทาน ในขณะที่อลูมิเนียม ถึงแม้ความทนทานจะมากที่สุด แต่น้ำหนักก็มาก รวมถึงราคาแพงกว่าด้วยเช่นกัน
สไตล์ของห้องน้ำ
เชื่อว่าคุณคงไม่ต้องการให้ที่แขวนฝักบัวที่ซื้อมาโดดเด่นสะดุดตา เนื่องจากมันไม่เข้ากับสไตล์และสุขภัณฑ์ชิ้นอื่น ๆ ภายในห้องน้ำเลย ดังนั้นในเรื่องของสไตล์ห้องน้ำก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาเช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากเป็นห้องน้ำสไตล์ลอฟท์ที่เน้นความมินิมอลหรูหรา วัสดุอะลูมิเนียมก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หรือถ้าเป็นห้องน้ำไม้ ก็ควรเลือกแบบเป็นไม้เช่นกันเพื่อความกลมกลืน
ขนาด
อีกหนึ่งปัจจัยที่คุณต้องพิจารณาเมื่อซื้อที่แขวนฝักบัวคือขนาดและเลย์เอาต์ของห้องน้ำ เนื่องจากขนาดที่เหมาะสมพอดีคือสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกสบาย หากคุณต้องการติดตั้งอ่างอาบน้ำ ฉากกั้นอาบน้ำ หรือถาดรองอาบน้ำ คุณต้องใส่ใจในรายละเอียดกับการวัดขนาดทั้งหมด โดยละเอียดในที่นี้ เพื่อให้สุดท้ายแล้วสิ่งที่ซื้อมาจะสามารถใช้งานได้อย่างตอบโจทย์และตรงจุดมากที่สุด
ฟีเจอร์พิเศษ
ในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวหน้าขึ้น ส่งผลให้ที่แขวนฝักบัวมีฟีเจอร์พิเศษติดมาด้วยมากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกการใช้งานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และหนึ่งในฟีเจอร์ที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกรณีที่สมาชิกภายในบ้านของคุณมีผู้ที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นพิเศษในตอนที่ใช้ฝักบัว นั่นก็คือฟีเจอร์เพื่อผู้พิการ ซึ่งถึงแม้จะต้องจ่ายในราคาที่แพงขึ้น แต่มันก็แลกมาด้วยความง่ายดายและตอบโจทย์ในการชีวิตประจำวันมากขึ้นเช่นกัน
