Home
|
บันเทิงไทย

มีวันนี้ซึ่งกันและกัน! แอนนา เล่าย้อนถึงเพื่อนรักที่ชื่อ แตงโม กับน้ำใจที่งดงาม

Featured Image

มีวันนี้ซึ่งกันและกัน! แอนนา เล่าย้อนถึงเพื่อนรักที่ชื่อ แตงโม กับน้ำใจที่งดงาม พร้อมเผยถึงโตมาด้วยแรงกดดันมหาศาล และรักที่อยู่กับปัจจุบันวันนี้มีความสุขก็พอแล้ว

นักสู้ตัวจริง แอนนา เมื่อมาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดแบบหมดเปลือกทุกเรื่องราวของชีวิตในเรื่องราวของชีวิต เล่าย้อนถึงเพื่อนรักที่ชื่อ แตงโม กับน้ำใจที่งดงาม พร้อมเผยถึงโตมาด้วยแรงกดดันมหาศาล และรักที่อยู่กับปัจจุบันวันนี้มีความสุขก็พอแล้ว

ถาม สำหรับเพื่อนรักที่ แอนนา รักมากนั่นก็คือ แตงโม
แอนนา : นานมากตั้งแต่ปี 2549 ค่ะ ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีแรกค่ะ ตอนแรกต้องบอกก่อนนะคะว่า แอนนา เนี่ยครั้งแรกก่อนที่จะเจอ โม แอนนา มีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนี้ คือ ตอนนั้นเราติดละครที่ โม เล่นชื่อเรื่อง ยัยใบบ้า แล้วคือเราชอบมากชอบเพราะว่าผู้หญิงคนนี้ทำให้เรารู้สึกสบายใจจังเลยเวลาที่ดูเขาเล่นเพราะเราก็ดูนางเอกไม่กี่คนที่เราชอบแล้วเราก็สาธุขอให้เราได้มีโอกาสได้เจอกับเขานะ แล้วพอดีไปเรียนเราไปลงเรียนศิลปะการแสดงประยุกต์นะคะ แล้วก็จังหวะทราบมาว่า โม ก็มาลงเรียนเหมือนกันเย็นวันนั้นก็ดีใจมากว่าเราจะมีคนเป็นดารามาเรียนในห้องเราแล้ววันที่เรียน แอนนา ก็จะนั่งอยู่หลังสุด โม เขาก็เดินเข้ามาแล้วก็แหวกๆแล้วบอกว่าขอนั่งด้วยนะก็เป็นความประทับใจว่าไม่น่าเชื่อเนอะว่าคนที่แบบ เป็นดาราดังสวยเขาจะมานั่งกับคนที่ ตอนนั้น แอนนา ไม่ได้ทีรูปลักษณ์อะไรแบบนี้นะคะ เป็นผู้ชายด้วยซ้ำออกเป็นแนวผู้ชายแล้วก็แต่งตัวเสื้อผ้าไม่ได้สวยงามเลยค่ะ ก็ตั้งแต่วันนั้นคือเราอยากสนิทกับเขาอยู่แล้วเราก็พยายามเสนอตัวเข้าไปเธอจะไปกินข้าวไหน เธอจะทำอะไรเหรอ ซึ่งเขาก็ให้ความสนิทสนมกลับมาค่ะ แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยมีชีวิตเราไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราส่งตัวเองเรียนก็อย่างที่บอกว่าเราไปทำงานอย่างว่าเพื่อจะหาเงินมาจ่ายค่าเทอม เพื่อจะหาเงินมาเรียนหนังสือต่อก็ระหว่างที่เรียน โม ก็รู้ว่าเราไม่ค่อยมี โม ก็จะซัพพอร์ตเราวันนี้เธอมาช่วยฉันนะ ฉันให้เธอ 500 บาท วันนี้เธอช่วยฉันนะ ฉันให้ 300 บาท เวลาไปกินข้าวบางวันเราไม่มีเงินเราก็พูดตรงๆสมัยก่อนเราจนมาก โม ก็จะบอกว่าเอาไป 200 บาท ไปซื้อกับข้าวมาซื้อเผื่อตัวเองด้วยนะแล้วเรามากินกัน เหมือนเวลาท่องหนังสือค่ะมันจะมีค่าซีตเยอะมากที่ต้องซีร็อกซ์ โม ก็บอกเลยว่าไปซีร็อกซ์มาเลย 5 ชุดทุกคนเอาไปหมดเลย อันนี้คือสาเหตุที่ทำให้เรามีวันนี้ซึ่งกันและกันแล้วเราก็ดีกับเขาเพราะเขาเคยดีกับเรามาก่อน เราช่วยเหลือกันมาตลอดสมัยก่อนคือตอนที่ยังไม่มีแซตใช่ไหมคะ คุยโทรศัพท์กันแต่ละครั้งนานมากๆคือ 5 ชั่วโมงกว่าคุยกับแบบกลายเรื่องมากเพราะว่าเราคุยกันแล้วเรารู้สึกว่าเราคลิกกันหลายๆเรื่องค่ะ

ถาม เห็นบอกว่าเกือบจะได้เป็นผู้จัดการ แตงโม ด้วย ??
แอนนา : ตั้งแต่สมัยนั้นเลยค่ะ โม ก็บอกว่าตอนนั้นรู้สึกว่า พี่วุฒิ จะดูแลอยู่แล้ว โม บอกว่าฉันอยากได้คนมาช่วยแบบนี้มาช่วยคอยติวหนังสือให้ฉันตอนที่ฉันถ่ายละครเพราะว่าเวลาถ่ายละคร ฉันจะไม่ได้มีเวลามามุ่งเน้นกับการเรียนแล้ว แอนนา เป็นเพื่อนเรียนที่ที่เพื่อนเรียนจริงๆค่ะ มานั่งติวให้ แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้ทำเพราะว่า โม เรียนถึงปี 3 โม มาลาออกแล้วเกรดเฉลี่ย โม ตอนนั้นก็ 3.2 กว่าด้วยเราเสียใจมากกว่า โอ้โห !! ตรากตรำเรียนมาตั้งนานแล้วทำไมอยู่ดีๆมาลาออกไม่ได้รู้ว่าเขาลำบาก โม เขาจะมีนิสัยแบบผู้ชายคือตรงๆชอบบอกชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบแล้วไม่มีมาพูดเรื่องใครลับหลังหรืออะไรแบบนี้ค่ะ แล้วก็ชอบช่วยเหลือเพื่อน อันนี้คือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่านี่คือเพื่อนที่ดีจังเลยแล้วเราไม่อยากทำเพื่อนแบบนี้หายไปเราอาจจะมีทะเลาะกันครั้งหนึ่งตอนที่ โม ลาออกเราไม่เข้าใจทำไมต้องลาออกจากเรียนเราก็บอกว่าเรียนมาตั้งเยอะแล้ว ทำไมมาลาออกแต่ โม ไม่อธิบายไงค่ะ เขาเป็นคนไม่อธิบายเขาเป็นคนที่มีปัญหาอะไรเขาจะไม่ค่อยอธิบายเขาจะบอกสั้นๆแค่ว่าฉันมีเหตุผลของฉันจน แอนนา เรียนจบไปเป็นนักข่าวถึงได้ทราบ ตอนหลังได้เปิดใจเคลียร์กันว่า ตอนนั้นเขามีภาระค่าใช้จ่ายเยอะแล้วถ้าเรียนก็จะไม่ได้รับงานแล้วเขาบอกว่าเขาเรียนตอนไหนก็ได้แต่สักวันเขาจะเรียนให้จบและเขาก็ทำได้จริงๆค่ะ

ถาม ซึ่งความเป็นเพื่อนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้นมา แอนนา เองเป็นหนึ่งในเพื่อนซึ่งต่อสู้สม่ำเสมอ คือ คำว่าต่อสู้อันนี้หมายถึง ความจริง เราอยากรู้ความจริง เหนื่อย ท้อ ร้องไห้จนกระทั่งถึงวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง เวลาได้เยียวยาหัวใจน้องบ้างหรือยัง
แอนนา : แอนนา พูดตรงๆว่าต้องเจอหลายอย่างมากเพราะว่าบางคนก็บอกว่าระวังนะทางฝั่งอีกฝั่งหนึ่งเขาก็อาจจะมีอิทธิพลบ้างเราอาจจะต้องระวังเรื่องอันตรายหรือว่าอย่างเรื่องล่าสุดก็ถูกฟ้องนะคะ เราก็ต้องยอมรับว่าบางอย่างข้อสงสัยบางเรื่องที่เราสงสัยในตอนนั้นเราก็ต้องถาม ถ้าเราไม่ถามแทนสังคมแล้วใครจะถามแล้ววันที่เกิดเรื่องที่มันมีปัญหาวันนั้น แอนนา ก็รีบไป แอนนา นั่งย้อมผมอยู่กับน้องพุดเดิล อยู่ที่ร้านทำผมบอกเขาล้างเลยพี่สีออกมาเป็นอย่างไรหนูล้างก่อนช่างก็บอกว่าอย่าเพิ่งๆเดี๋ยวมีปัญหาเราก็มองว่าไม่ได้เพื่อนเราอยู่ในเหตุการณ์นั้นนะคะ ก็รีบไป !! จนถึงวันนี้ แอนนา ก็บอกตรงๆว่าเราก็เหมือนมีอาการทางจิตเวชที่ต้องไปหาหมอเพราะเราเกิดอาการ แพนิก มันเหมือนตื่นมาอย่างนี้เราจะสะดุ้งตื่นๆเราก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร แต่หมอก็จ่ายยาที่นอนหลับให้

ถาม ก็พูดว่าเราเติบโตมากับแรงกดดันมหาศาลทุกด้านเลย ?? ต้องเรียนให้เก่ง แล้วยังมีเรื่องการไม่ยอมรับในการเป็นตัวตน ในยุคนั้นสังคมตอนนั้น และ แม้แต่คนในครอบครัว
แอนนา : ในอดีตไม่ได้รับการยอมรับค่ะ แล้วก็อย่าว่าแต่การแต่งตัวเป็นผู้หญิงเลยนะคะ แค่การแสดงออกว่าเป็นผู้หญิงเนี่ยในโรงเรียนก็ยังผิดนะคะ แต่อาจจะมีคุณครูบางคนเข้าใจแล้วก็เมตตาเอ็นดูเรา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเมตตาเรา เราก็ต้องสู้ สู้ตั้งแต่เพื่อนในห้องเลยค่ะ เพื่อนไม่เข้าใจล้อกันเราเคยโดนแรงสุดเพื่อนเอารองเท้าถอดมาแล้วก็เขวี้ยงใส่หน้าเราแล้วก็โดนหน้าเราเราก็ร้องไห้

ถาม ตอนนั้น น้องแอนนา ต้องบอกตัวเองอย่างไรบ้าง ตอนนั้นเป็นเด็กด้วย
แอนนา : ร้องไห้คือ เราร้องไห้ทุกวันเลย เวลากลับบ้านไปแล้วเรามีปัญหาเราไม่มีที่ปรึกษาเลยสักคน ไม่มีซ้ายขวา แต่เรามีคนข้างบ้านที่เป็นใครไม่รู้มานั่งคุยด้วยว่าเก่งจังเลยเรียนหนังสือเก่งจังแทนที่จะเป็นคนในครอบครัว คือ ไม่มีตรงนั้นเลย

ถาม แปลว่าต่อให้เราได้ที่หนึ่งเราก็ไม่เคยได้รับคำชมเลย ??
แอนนา : ไม่เคยค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้ (เสียงเริ่มสั่น) แต่คุณแม่เขารักเรานะคะ คือ คุณแม่เขาไม่แสดงออกกับลูกแล้วก็แบบเราก็จะไม่ค่อยได้ความรักเพราะว่า อย่างวันแม่ แม่เขาก็จะจ้างวินมอเตอร์ไซต์ให้มางานวันแม่ เป็นวินมอเตอร์ไซต์ผู้หญิงแล้วเราก็กราบ (เป็นสมมติว่าเป็นคุณแม่มางาน) วันพ่อก็ไม่มีพ่อ

ถาม วันไหนนะที่เราเดินออกไปแล้วเรารู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ซึ่งจริงๆ น้องแอนนา ไม่ผิดอะไรเลยนะเพราะตัวตนน้องเป็นแบบนี้และน้องก็พยายามทำทุกสิ่ง ทุกอย่างให้คนในบ้านของน้องยอมรับ ให้โลกยอมรับ แล้วมีตอนไหนเอ่ยที่ทำให้เรารู้สึกว่าฉันเจอที่ของฉันแล้ว
แอนนา : มัธยมค่ะ พอเราเรียนมัธยมเราเจอเพื่อนแบบเดียวกัน เราก็รู้สึกเรามีเพื่อนแล้วตอนประถมเราไม่มีเพื่อนเลยเพราะเราเป็นคนเดียวในห้องพอเราไปเรียนมัธยมเราเจอเพื่อนที่เขทเป็นแบบเดียวกับเรา ทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราเปิดมากขึ้น ชีวิตมีความสุขมากขึ้น เหมือนเราได้รู้สึกว่าเรามีใครรู้สึกว่าเนี่ยเพื่อนเรา

ถาม แต่สุดท้ายความพยายามและสิ่งที่ครอบครัวปลูกฝังว่าเธอต้องเรียนเก่งให้ได้สุดท้ายก็ทำให้ แอนนา สอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้พร้อมกันสองแห่งเลย
แอนนา : ตอนจบ ปวช. มีการเอ็นทรานซ์ซึ่งต้องเล่าแบบนี้ค่ะ การเอ็นทรานซ์แบบเก่าคือการสอบเป็นวิชาไปแล้วเอาคะแนนมาเทียบว่าเราได้คณะไหน ซึ่งตอนนั้นได้เกษตรศาสตร์ แล้วก็ได้ที่ เอแบค ซึ่งพอเราได้แล้วเราก็มาบอกกับที่บ้าน ที่บ้านแม่ก็พูดเหมือนประชดว่าถ้าอยากเรียนก็ขอพ่อ พ่อก็บอกว่าถ้าอยากเรียนก็ขอแม่ เราก็รู้สึกว่าสรุปเราต้องขอใคร ตอนนั้นคือ เรามองว่าอนาคตของเรากำลังจะดีแล้วเพราะเราก็ตั้งใจมาตลอด แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้มีค่าเทอมแต่แม่ก็ไม่ได้ไฟเนอร์ให้เราว่าสรุปว่าจะจ่ายให้เราหรือไม่จ่าย แล้วตอนนั้นเราก็มีปัญหาเรื่องที่เราแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วเราก็ไปเที่ยวบ่อยด้วยเพราะว่าเราติดเพื่อนเราเลยตัดสินใจหนีออกจากบ้าน ก็หนีไปอยู่กับเพื่อนค่ะ ไม่เรียนเลย เอ็นทรานซ์ ได้ก็ชั่งไม่เรียนแล้ว

ถาม ตอนนั้นตั้งใจแค่ประชด
แอนนา : ประชดค่ะ คือเราประชดครอบครัวเพราะเราคิดว่าเราทำดีขนาดนี้แล้ว รู้สึกว่าทำไมเขาไม่ส่งเราเรียนในเมื่อเราก็เรียนเก่งก็เลยประชดชีวิตออกไปข้างนอกเลยโดนที่ไม่บอกแม่ออกไปอยู่ข้างนอกเลยหนีออกจากบ้านไม่บอกแม่เลยค่ะ

ถาม แล้วสำหรับความรักของ แอนนา ตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้าง
แอนนา : ความรักสำหรับตัว แอนนา เอง แอนนา มองว่าไม่วางอนาคตไกลเราเอาแค่วันนี้แล้ววันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ค่อยว่ากันเอาวันต่อวันเลยค่ะ คือ อยู่กับปัจจุบันเลยว่า ปัจจุบันเรามีความสุขแฮปปี้พอไม่ต้องคิดว่าเมื่อวานเขาทำอะไรแล้วก็ไม่ต้องคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะเป็นอย่างไรคิดว่าวันนี้เราดีกับเขาแล้วรักเขาก็คือพอแล้วค่ะ

ถาม ในฐานะคนคนหนึ่งที่ผ่านความยากลำบากมาเยอะมากท้อใจก็หลายครั้ง วันนี้ น้องแอนนา มานั่งอยู่ในคลับฟรายเดย์โชว์และเชื่อว่ามีหลายๆคนที่นั่งดูอยู่ชีวิตของ น้องแอนนา อยู่มีอะไรอยากจะฝากบอกถึงคนที่ตอนนี้อาจจะอยู่ในจุดที่กำลังมืดมน จุดที่กำลังอยู่ในหลุม จุดที่กำลังดาวน์ที่สุดในฐานะของคนที่ผ่านจุดนั้นมาแล้ว
แอนนา : สำหรับใครที่ตอนนี้กำลังอยู่ในความมืดความทุกข์อยากจะบอกว่าเหล่านี้มันคือบททดสอบของชีวิต คนที่จะประสบความสำเร็จได้มักจะเจอปัญหาใหญ่ๆหนักๆมาก่อน เขาเลยกลายเป็นคนที่แก้ปัญหาเก่งสามารถผ่านเรื่องราวต่างๆไปได้ ดังนั้นถ้าวันนี้คุณเจอปัญหาจงจำไว้ว่าคุณคือคนที่โชคดีแล้วคุณผ่านมันไปได้วันข้างหน้าคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิต

ถาม จากวันหนึ่งที่เราบอกว่าทำดีแค่ไหนก็ไม่ได้รับคำชม วันนี้คุณแม่เคยพูดอะไรกับเราบ้างไหม
แอนนา : ถามแม่ค่ะว่าปลื้มใจบ้างไหมที่เราพาแม่มาถึงจุดนี้แม่บอกว่าแม่ภูมิใจมาก แต่แม่อาจจะไม่ได้แสดงออกเราเลยบอกแม่ว่าต้องแสดงออกนะเราจะได้รู้เพราะว่าเราไม่สามารถตัดสินใจคิดเองได้ว่าแม่ภูมิใจหรือเปล่า เหมือนกับคนดูทางบ้านถ้าเกิดว่าลูกจะรับรู้ไม่ได้หรอกถ้าแม่ไม่ได้บอกว่าแม่ภูมิใจในตัวลูกนะ คำพูดแบบนี้มันเป็นแรงขับเคลื่อนให้ลูกคนหนึ่งสามารถทำอะไรได้อีกมากมายเลยนะคะ กับคำว่า แม่ภูมิใจในตัวลูก

ถาม แล้วในมุมของความเป็นลูกด้วยวันนี้มีอะไรอยากบอกแม่หรือมีอะไรที่ยังถือโอกาสปลดล็อกอะไรในใจกับคุณแม่มีอะไรอยากใช้พื้นที่ตรงนี้บอกคุณแม่ที่ดูอยู่แน่นอน
แอนนา : ก็คือ ที่ผ่านมา แอนนา เต็มที่ เต็มที่มาตลอดมีหลายเรื่องมากที่แม่ไม่รู้ว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่อยากจะบอกว่าทุกๆอย่างที่ทำทุกวันนี้ก็คือเพื่อแม่ เพื่อแม่จริงๆ เพราะว่าถ้าเกิดเราจะต้องจากโลกนี้ไปก็มีคนเดียวที่เราห่วงก็คือแม่ค่ะ

ถาม กับคนที่อยู่ข้างๆหัวใจจากวันแรกก็เจอกันผ่านข้อความ ใครจะคิดว่าชีวิตจริงในวันนี้ คนที่ น้องแอนนา สามารถหันไปมีความสุขด้วยได้หรือคนที่น้องสามารถหันไปร้องไห้ด้วยได้เขายังอยู่กับน้องอยู่เลย มีอะไรอยากจะบอกกับ แม็ก บ้าง
แอนนา : กับ แม็ก อาจจะไม่ได้บอกรักกันบ่อยแต่ว่าก็พูดเสมอว่ารักเราอาจจะไม่ได้หวานกันมากแต่ว่า เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่รับเราไว้ในหัวใจค่ะ ซึ่งตัวเราก็ไม่ใช่ผู้หญิง 100 เปอร์เซ็นต์ เราอาจจะเป็นสาวประเภทสองคนหนึ่ง ซึ่งเขาอาจจะมีสิทธิ์เลือกคนอื่นก็ได้แต่เขาก็เลือกเรา ในที่เราลำบาก ในวันที่เราไม่มีอะไรเลยเขาอาจจะทิ้งเราไปหาผู้หญิงคนอื่นก็ได้แต่ว่าเขาก็ไม่ทำ ดังนั้น เราก็จะทำแบบนี้เช่นกันก็คือเราก็ไม่มีวันทิ้งเขา ไม่ว่าเขาจะต้องเจออะไรก็ตามค่ะ

สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :



htt

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube