fbpx
Home
|
บันเทิงสากล

สรุปเหตุการณ์หมัดคุณธรรม Will Smith บนเวที Oscars ที่เป็นดราม่าระดับฮอลลีวูด

Featured Image

          เริ่มสัปดาห์ด้วยเหตุการณ์สุดช๊อก ผ่านฝ่ามือหนักๆของ วิลล์ สมิธ (Will Smith) นักแสดงชายเจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ที่เปลี่ยนเวทีออสการ์ให้กลายเป็นสนามมวย ศึกแห่งการปกป้องครอบครัว จุดเริ่มต้นหมัดคุณธรรมนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร และผลพวงของหมัดจะเจ็บไปถึงใครบ้าง ปูพรมแดงไว้เลยเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

ค่ำคืนหมัดคุณธรรม Will Smith

ต้องบอกก่อนว่า ตามปกติแล้วการเล่นมุกตลกนับเป็นสีสันหนึ่งบนเวทีออสการ์ ซึ่งทุกๆปีทางผู้จัดก็จะเชิญนักแสดงหรือพิธีกรตลกๆ มาพูดบนเวทีเรียกเสียงหัวเราะแก่คนดู

และในปีนี้ คริส ร็อก (Chris Rock) ก็ได้รับเลือกเป็นพิธีกรบนเวที เนื่องจากผลงานต่างๆที่ได้รับตลอดเส้นทางการเป็น Stand-Up Comedy ทั้งชีวิต

รวมถึงเป็นสมัยที่ 3 บนเวทีออสการ์ที่ คริส ร็อก ได้หวนกลับมาเล่นมุกตลก ถัดจากปี 2005 และ 2016 โดยรอบนี้คริสได้รับเชิญให้มาประกาศรางวัลสารคดียอดเยี่ยม

ขณะที่ก่อนประกาศผลรางวัล เขาก็ได้เล่นมุกปกติสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนในงานผ่านการแซวคนดังคนนู้นที คนนั้นที เพื่อสร้างเสียงหัวเราะแก่คนดู

จนถึงตาที่ คริส ได้แซว เจด้า สมิธ (Jada Smith) ภรรยาของ วิลล์ สมิธ เกี่ยวกับทรงผมของเธอที่โกนหัวโล้นเข้าร่วมงานว่า “เจด้า ผมรักคุณนะ ผมรอดู G.I. Jane ภาค 2 ไม่ไหวแล้ว” 

โดย หนังเรื่อง G.I. Jane ที่คริสพูด เป็นหนังเกี่ยวกับทหารหญิงของหน่วยรบพิเศษสหรัฐอเมริกา และมีฉากตำนานคือฉากที่นางเอกในเรื่องโกนผมตัวเองนั่นเอง ซึ่งนั่นก็เหมือนเป็นการหยอกล้อ เจด้า สมิธ ว่า ที่เธอโกนผมต้องเป็นเพราะรับบทหนังทหารแน่นอน

แต่ในความเป็นจริงแล้วสาเหตุที่ เจด้า ต้องโกนผมออกหมดนั่นก็เป็นเพราะเธอป่วยเป็น โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areata) มีอาการผมร่วงหนักแบบสาเหตุไม่ได้

และจากภาพในงาน เจด้า เองก็ดูอึดอัดกับมุกแซวของ คริส จนถึงขั้น เหลือบตามองบนด้วยเช่นกัน

จนเป็นเหตุการณ์ระดับตำนานที่ วิลล์ สมิธ ทนไม่ไหวลุกจากที่นั่งบุกฟาดหมัด คริส ร็อก ถึงเวทีทันที

ด้านคนดูในงานก็ขำขันกับหมัดนี้ เพราะคิดว่าว่าเป็นเพียงสคริปของงานที่อาจเตี๊ยมกันไว้ แต่ท้ายที่สุดเสียงหัวเราะก็ต้องเงียบลง เมื่อ พระเอกวิลล์ สมิธ ตะโกนตอกกลับไปว่า “อย่าได้พูดชื่อเมีย(เจด้า)ของฉัน ออกจากปากของแกอีก ” เพราะงานนี้ฉุนจริงไม่มีนัดแน่นอน

ในช่วงพักเบรกโฆษณา ก็มีเพื่อนๆร่วมวงการหลายคนเข้ามาปลอบให้ วิลล์ ใจเย็นลงด้วยเช่นกัน

 

น้ำตาของนักแสดงชายยอดเยี่ยม

แม้หลังโดนตะโกนกลางงานไปอย่างงั้น แต่ คริส ร็อก ก็เก็บอาการและประกาศรางวัลต่อไปจนจบก่อนส่งให้พิธีกรับเชิญคนต่อไปมาประกาศรางวัลอื่นต่อไป

จนถึงรางวัล Best Actor นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ที่ปีนี้ วิลล์ สมิธ ได้เข้าชิงรางวัล ก็ถูกประกาศชื่อเป็นผู้ชนะ โดยเป็นออสการ์แรกของพระเอกเช่นเดียวกัน

ซึ่งในขณะเจ้าของรางวัลขึ้นไปรับและกล่าวคำขอบคุณมากมาย ก่อนจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ กล่าวคำในใจทั้งในฐานะนักแสดงคร่ำหวอดฮอลลีวูด และในฐานะพ่อที่เป็นคนปกป้องครอบครัว

โดยส่วนหนึ่ง ได้พูดว่า การเป็นคนดังต้องรับความกดขี่หลายๆอย่างจากการถูกแซวถูกล้อ แต่ก็ต้องยิ้มรับไว้เสมือนว่าเรากำลังโอเค 

รวมถึงบอกว่า น้ำตาที่ไหลนี้ไม่ได้มาจากการดีใจที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าทำให้ตัวเองดูเหมือนพ่อบ้าๆคนนึง แต่ก็เป็นเพราะความรักที่ทำให้คนเราทำเรื่องบ้าๆนั่นเอง

ทำให้คำว่า Will Smith เป็นคำยอดนิยมบนทวิตเตอร์โลก แซงหน้าคำว่า Oscars ชื่องานไปอย่างขาดลอย

และนำมาซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์ที่แบ่งเป็นหลายเสียงออกไป ทั้งกล่าวต่อว่าคำแซวของ คริส ร็อก ที่สมควรแล้วกับหมัด

ขณะที่อีกด้านก็แย้งว่าหมัดของวิลล์ครั้งนี้ มันเป็นความรุนแรงที่ควรเกิดขึ้นจริงหรือไม่

 

เหตุการณ์หลังเวทีดับไฟ

และจากข้อความหลายข้อความที่ต่อเหตุการณ์หมัดคุณธรรมนี้ ตามมาด้วยการโต้เถียงหลากหลายประเด็น

พร้อมกับที่ประเด็นด้านกฎหมาย คริส ร็อก ก็ไม่ได้ตัดสินใจแจ้งความเพื่อเอาเรื่อง วิลล์ สมิธ อีกด้วย

นอกจากนี้ ท่ามกลางกระแสขัดแย้ง ก็มีอีกเสียงที่ลือว่า นักแสดงหนุ่มคนนี้ อาจต้องส่งคืนรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมแก่ออสก้าแทน เพราะจากประวัติ ออสก้ามันเลือกคนที่ได้รางวัลที่ไม่ค่อยมีข่าวฉาวเช่นเดียวกัน

โดยทาง The Academy หรือ สถาบันมอบรางวัลออสการ์ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ทางสถาบันขอไม่ยอมรับความรุนแรงทุกรูปแบบ ที่ปล่อยให้แฟนๆลุ้นกันว่ารางวัลดังนี้จะหลุดมือจริงหรือไม่

รวมถึงเจ้าตัวเอง หลังจากวันเลิกงานก็ได้โพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดีย ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมา

โดยแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า 

“ความรุนแรงในทุกรูปแบบ เป็นพิษและอันตราย พฤติกรรมของผมในงานประกาศรางวัลออสก้าเมื่อคืนนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และไม่สามารถให้อภัยได้

มุกตลกเกี่ยวกับผมเป็นส่วนหนึ่งของงาน แต่มุขตลกเกี่ยวกับอาการป่วยของ Jada มันมากเกินกว่าที่ผมจะรับไหว ผมจึงแสดงออกไปโดยใช้อารมณ์

ผมอยากขอโทษ Chris ผมทำผิดกฏและผมผิดจริงๆ รู้สึกละอายใจต่อการกระทำของผมที่เป็นพฤติกรรมของผู้ชายที่ผมไม่อยากเป็น มันไม่มีที่สำหรับความรุนแรงในโลกแห่งความรักและความเมตตานี้

อยากขอโทษเวทีออสก้า โปรดิวเซอร์ของรายการ ผู้เข้าร่วมและทุกคนที่ดูจากทั่วโลก อยากขอโทษครอบครัว Williams และครอบครัว King Richard (ครอบครัวต้นฉบับของหนังที่วิลล์ล่นจนได้รับรางวัล)

ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งที่พฤติกรรมที่ทำให้การเดินทางที่แสนวิเศษต้องเปรอะเปื้อนลง”

ซึ่งผลสรุปดังกล่าวยังไม่มีผลแน่ชัด แต่ประเด็นที่ได้จากเรื่องนี้ คือเรื่องความรุนแรงและเสรีภาพในการพูด (Free Speech) ที่หลายคนจับกลุ่มพูดคุยกันและหาเส้นทางกึ่งกลางถึงความสมดุลของทั้งสองอย่างนี้นั่นเอง

แต่ก็อย่างคำสอนไทยโบราณที่ว่า “พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากระวังปากมีสี” คงช่วยเตือนใจหลายๆคนให้ระวังการบูลลี่ได้เป็นอย่างดี

ติดตามดราม่าร้อน ประเด็นดังแบบไม่ตกเทรนด์ต่อกับเราได้ที่ iNN

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube