สถานการณ์โควิด-19 เป็นเหตุ !!! เกือบจะทำให้ ก้อง ปิยะ เป็นโรคซึมเศร้า
สถานการณ์โควิด-19 เป็นเหตุ !!! เกือบจะทำให้ ก้อง ปิยะ เป็นโรคซึมเศร้า และความในใจสุดซึ้งของสองเพื่อนซี้ ก้อง & ท็อป ที่มอบให้แก่กัน
เข้าใจและรู้เรื่องราวของชีวิตและหัวใจของกันทุกเรื่อง สำหรับ ก้อง ปิยะ และ ท็อป ดารณีนุช ที่มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 งานนี้สองเพื่อนซี้ที่นอกจากจะเปิดความในใจที่มอบให้แก่กันแล้ว ท็อป ดารณีนุช ยังได้เผยว่าในช่วงที่ตัดสินใจเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ยากเท่ากับทำให้ลูกเข้าใจ ส่วน ก้อง ปิยะ เปิดใจหลังจากที่เจอสถานการณ์โควิด-19 เป็นเหตุ !!! เกือบจะทำให้ตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า
ถาม คนที่กลัวโควิดมาจนกระทั่งภาวะจิตเริ่มแบบว่าไม่ปกติสุข พี่ก้อง คือจุดนั้น พี่ก้อง เกือบเป็นซึมเศร้าเพราะการกลัว โควิด – 19
ก้อง ปิยะ : มันคือโรคที่มันอุบัติใหม่แล้วก็งงกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นงานก็หยุดหมด อันนั้นครั้งที่เป็นตอนนั้นก็ยังมีจิตใจฮึดสู้อยู่เมื่อปี 2564 เดือนมีนาคมเริ่มดีขึ้นแล้วมันดีมากอยู่ๆโควิด – 19 ระลอก 4 มาอีกแล้ว คนที่อยู่ใกล้ๆตัวเราที่เป็นลูกน้องเราบางคนนี่ก็คือมีญาติมาพัวพันคนนี้ๆก็เลยพัวพันหมด แล้วเราเป็นคนเครียดแทนคนอื่นอยู่บ้านก็สวดมนต์ไหว้พระก็เห็นคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่รูปในห้องพระก็คิดในใจว่า ท่านก็ดีเนอะท่านไม่ต้องมาเจอผจญภัยกับโรคอะไรอย่างนี้ไง ก็นึกในใจครั้งแรกก็อยากไปอยู่กับท่านจังเลยคงมีความสุขเนอะ วันที่สองไปก็รู้สึกอีกคราวนี้ก็เริ่มน้ำตาไหลเวลามองรู้สึกเศร้าๆรู้สึกแบบอิจฉาเลยอย่างนี้ ก็เป็นแบบนี้อยู่ 3-4 วัน เสร็จปุ๊บก็ได้โทรหาท็อปกับชุ ก็บอกท็อปว่าฉันว่า ฉันอาจจะเป็นซึมเศร้ารู้สึกว่ามันแปลกๆอะไรอย่างนี้ เขาบอกว่าต้องระวังนะเพราะว่าไม่อย่างนั้นเนี่ย คือ อาการแบบนี้มันอาจจะเป็นซึมเศร้าได้ก็เลยบอกว่าให้พยายามอัพจิตใจหน่อย หาอะไรทำหน่อยหรือว่าเราก็ต้องต่อสู้ต่อนะอนาคตชีวิตอะไรอย่างนี้ เราก็ต้องทำต่อเพราะเราเริ่มดีขึ้นอย่างนี้ จริงๆทุกอย่างอยู่ที่ใจเรานะ ถ้าใจเราสามารถที่จะมีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อแล้วฮึดสู้ต่อไม่มีอะไรทำเราได้นะคะพี่
ท็อป ดารณีนุช : เขากดดันตัวเองหลายเรื่อง แม่บ้านทุกคนจะต้องออกไปจากบ้าน ห้ามใครมาทำอะไรให้เขาทั้งสิ้นขนาดนั้นเลยค่ะ เขาทำเองทุกอย่างหมาก็ส่งไปให้น้องเลี้ยง ก่อนเข้าบ้านเขาจะต้องล้างรองเท้าเขามีเครื่องอบชุดเขาซื้อมาเป็นหมื่นบาทเลยนะคะ
ก้อง ปิยะ : ตอนนี้ทำเองหมดค่ะ ถูบ้าน รีดเสื้อ เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ล้างห้องน้ำไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนในชีวิตล้างจาน คือ เพิ่งรู้ว่าเป็นแม่บ้านมันไม่สนุกเหนื่อยเหลือเกิน
ถาม พี่ก้อง กลัวขนาดนี้ไม่น่าออกไปทำงานได้เลย
ก้อง ปิยะ : ก็กักตัวอยู่บ้าน 3 เดือน
ท็อป ดารณีนุช : เราก็ไปเยี่ยมเขานะ ซื้ออะไรไปให้เขากินแต่ไม่กล้าเข้าไปอยู่ใกล้ๆเขารู้ว่าเขากลัวเรา เราก็บอกเขาว่าเราฉีดแอลกอฮอล์แล้วแขวนไว้ตากแดดด้วย
ก้อง ปิยะ : เค้ก มีคนส่งเค้กให้กิน เค้ก ตากไว้ละลายไหลเลยตายแล้วฉันอดกินเลย อย่าง อั๋น ให้ครัวซองต์พี่มา la baguette อร่อยมากค่ะ แต่ อั๋น เชื่อไหมว่าพี่ต้องตากแดดก่อนแล้วก็ฉีดแอลกอฮอล์กล่อง แล้วพี่ก็วางกล่องไว้พี่ก็เอาของ อั๋น ไปใส่ในกล่องอาหารพี่
ถาม แต่ถ้าเราเจอแบบนี้มันก็ดีนะพี่ แต่ถ้าแบบมันมากเกินไปมันก็บ้าได้นะพี่
ท็อป ดารณีนุช : ก็นี่ไง เขาถึงเอาทุกอย่างมารวมกัน ไหนจะกังวลเรื่องตัวเอง ไหนจะกังวลลูกน้อง ไหนจะรู้สึกว่าโรคนี้ไม่มีที่สิ้นสุดเขาเลยกลายเป็นโรคซึมเศร้า
ก้อง ปิยะ : เกือบจะเป็น


ถาม ส่วนพี่ท็อป ก็เคยผ่านช่วงเวลาที่เรียกว่ายากที่สุดในชีวิตมาเหมือนกัน
ท็อป ดารณีนุช : ตอนที่ตัดสินใจเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันไม่ได้ตัดสินใจด้วยอารมณ์ในช่วง 1-2 วัน มีการวางแผนเป็นปีนะคะหลักสำคัญคือลูกนะคะ ใจของลูกเป็นใจที่สำคัญก่อนเหมือนเราจะดูว่าลูกโอเคไหม แต่ตัวเราเราบอกว่าไม่แล้วเราไม่โอเคแล้ว การที่ครอบครัวมาอยู่รวมกันแล้วคนหนึ่งที่เป็นหลักแล้วไม่โอเคมันส่งผมกระทบถึงกันอย่างแรงแน่นอน เราวางแผนเป็นปีเลยนะว่าถ้าเกิดจะถอยออกดูช่วงวัยของอายุว่าเราจะต้องคอยให้เขาเข้าใจได้อย่างไร อีกอันคือเรามั่นคงกันตัวเราเองมากพอหรือยังเพราะว่าเราเป็นลักษณะนิสัยเรามันเลิฟเบิร์ด หมายถึงเราจะชอบมีคู่ค่ะ แต่มันเป็นคู่ชีวิตที่มันเป็นเหมือนเฟืองที่มันไม่ลงร่องกันมันขัดกันตลอดๆมันก็ไม่สามารถจะขับเคลื่อนอะไรในชีวิตได้ เพราะฉะนั้นเราก็เลยแบบว่าไม่เอาดีกว่าเราอาจจะคิดต่างกับเขาซะจนมันตามกันไม่ติด เราได้ปรับความเข้าใจกันนะคะ พี่ฉอด ก็เคยคุย แต่เรารู้แล้วแหละว่าแนวความคิดเขามันไม่แล้วมีบางอย่างที่เราก็ไม่รักมากพอในสิ่งที่เขาเป็น เพราะฉะนั้นเราก็ออกมาดีกว่า คือจริงๆแล้วการที่บอกว่าเรารักใครสักคนมันไม่ได้หมายความว่าเราเห็นแต่ข้อดีค่ะ ความรักคือเราต้องทนกับข้อเสียของเขาได้ด้วยว่า เขาก็มีอะไรที่มันไม่ถูกใจเราแต่พอมันเก็บแต้มมาเรื่อยๆแล้วเราชั่งน้ำหนักแล้วไม่เอาทนไม่เอาแล้ว ไม่เอาดีกว่าอยู่คนเดียวก็ได้แต่คนที่มันจะเป็นผลพวงก็คือการมีลูกก็ต้องดูก่อนว่าลูกจะอย่างไร กำลังใจจากเพื่อนนี่สำคัญมากเลยนะ เพื่อนไม่ได้มายืนยันกับเราว่าคนนั้นดีหรือคนนั้นไม่ดี แต่เพื่อนที่ดีคือเพื่อนที่ฟังเราพูดเรื่องอะไรต่างๆเราบางเรื่องเขาไม่ได้สะท้อนอะไรกลับมาที่มันเป็น เหมือนอย่างเขาให้ผัวไม่สู้กับงูจงอางมันทำให้เราสบายใจจังเลย มันไม่ได้แบบอะไรก็ตามใดๆก็ตาม หรือเพื่อนคนนั้นก็ไม่ได้ต้องมานั่งวิเคราะห์ฉันเป็นอย่างนั้นแบบนี้ แต่เราแฮปปี้ มันทำให้เรามั่นคงข้างใน แล้วเราก็เลย มีอยู่วันหนึ่งไปญี่ปุ่นด้วยกันคุณเจนนิดฟอร์ คิ้ม ก็ไปด้วยลูกก็เริ่มโต สิ่งหนึ่งที่มันเป็นเรื่องที่ยากที่สุดคือ ลูกรู้แล้วแหละว่าบรรยากาศมันเป็นอย่างไร แต่ใครจะเป็นคนบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่เราบอกลูกว่าแม่กับพ่อมันไม่ค่อยอะไรนะอย่างนี้ๆ คือในทริปนั้นมีลูกเราไปแต่พ่อเขาไม่ได้ไปเราไปกับเพื่อนเรา จู่ๆในวงแล้ว คิ้ม ก็บอกถ้าพ่อกับแม่เขาหย่ากันจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อไหมค่ะ ว่าวันนั้นมันก็เป็นการเปิดจุกเลยนะค คือ ในขณะที่ทุกคนหนีตลอดเราเองก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับลูกไปพูดแบบนั้นตรงๆเพียงแต่บอกให้รู้สถานการณ์ว่ามันเราไม่ลงล็อคกันลูกเขาพอจะรู้ เราจะไม่ทะเลาะกันในบ้าน แต่ก็รู้ว่าไว้นี่มามุมนั้น แล้วไปมุมนี้หนีไม่อยากจะพูดด้วยอะไรอย่างนี้ค่ะ ลูกก็ช็อกมันอึ้งไปเลยแล้วคนหนึ่งก็ไปร้องไห้ คือ เขาก็มีอะไรของเขา แล้วคนโตเขาก็เลยเริ่มคิดคือ คำถามนี้มันยิ่งมาแล้วทำให้ทุกคนย้อนเข้ามาดูตัวเอง
ถาม พี่ตกใจไหม ที่พี่คิ้ม เปรี้ยงออกมา
ท็อป ดารณีนุช : ก็ตกใจ แต่ก็ดีนะเหมือนลูกเขาก็เริ่มรู้แล้วว่ามันจะต้องมีวันนี้เข้าสักวันนะ แล้วเราก็ค่อยๆเริ่มใส่ๆแล้วเรารู้เลยว่าครอบครัวแตกแยกสิ่งที่เขากังวลคืออะไรความไม่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตใจว่าพ่อแม่รักฉันไหม สิ่งหนึ่งที่เด็กที่บ้านแตกรู้สึกแย่คือ เป็นเพราะเราหรือเปล่า
ถาม เราเป็นเพื่อนกันมานานวันนี้ได้มานั่งใน Club Friday Show ตรงนี้แล้วมีอะไรอยากบอกกันและกันบ้าง
ท็อป : พี่หนูเดินทางในชีวิตมานะคะ ตอนนี่อายุ 54 ปี มีก้อง อยู่ 30 ปี เพราะฉะนั้นต้องบอกว่าในชีวิตที่เดินทางจากการเริ่มต้นที่เริ่มเกิดมาเนี่ย ต้องบอกว่าเรามีหลายคนที่หายไปจากชีวิตเรา แต่ ก้อง คือ เดินมากับเราตลอดทุกข์สุขก็จะบอกว่าฉันไม่ทิ้งแกหรอกนะ แล้วเราก็ทำแบบนั้นจริงๆคือจะไม่ทิ้งเขา เพราะฉะนั้นถามว่าวันหนึ่งถ้าไม่มีเขาเราก็ร้องไห้กับลูก อุ้ย !! ถ้าเป็นอะไรหรือเพื่อนอีกคนเป็นอะไร (น้ำตาคลอ) เราแย่แน่เลย เพราะว่ามันรักเขาเราก็พยายามจะไม่ยึดเขานะคะ แต่รู้ว่ารักเขามากมันก็คงเป็นเหมือนชาติภพที่เราสร้างกันมา เราก็เชื่อว่าเขาจะเป็นเพื่อนร่วมทางในชีวิตของเราไปจนกระทั่งวันหนึ่งมันจะต้องจากกันด้วยเหตุใดก็ตาม จะต้องไม่ด้วยความสัมพันธ์หรอกมันจะต้องเกิดจากธรรมชาติจากพรากไป ก็คบกันไปจนตายค่ะ
ก้อง ปิยะ : ก็เหมือนกันค่ะ อยู่กับ ท็อป อยู่กับเพื่อนๆในกลุ่มก็มีความสุขที่สุดอยู่แล้วนะคะ ชอบอย่างหนึ่งคำว่าเป็นเพื่อน เพื่อนมันไม่ได้คาดหวังจากเราเขาจะรู้ว่าเราเป็นอย่างไร เขาจะให้อภัยเราทุกอย่าง ทุกครั้งที่เราทำอะไรไป ถ้าคำว่าเพื่อนให้อภัยกับเราได้นั่นคือ เพื่อนแท้
ท็อป : เชื่อไหมมองตาก็รู้ใจแล้วอีปิยะ
ก้อง ปิยะ : คือไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรแล้ว เพราะเวลาพูดมันเขินเนอะ บอกว่าฉันรักเธอ ก็เขิน
ท็อป : ฉันก็รักเธอ
สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :


ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news





