จี๊บ เทพอาจ กวินอนันต์ จากผู้ผลิตเครื่องดื่มสู่หัวเรือใหญ่ค่าย LOVEiS ผู้ไม่เคยเห็นทางตันในชีวิต
เชื่อว่าตอนนี้หลาย ๆ คน ก็คงจะคุ้นหูชื่อ “จี๊บ เทพอาจ กวินอนันต์” ไม่มากก็น้อยกับหลายบทบาท จากผู้บริหารหลากหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจเครื่องดื่ม ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจคอมมิวนิตี้มอลล์ คลื่นวิทยุ และล่าสุด กับการมานั่งเป็นผู้บริหารค่ายเพลงชื่อดังอย่าง LOVEiS Entertainment โดยทาง “คุณจี๊บ” เผยว่า…
“สำหรับค่าย LOVEiS ครั้งแรกเลยคือพี่นภ พรชำนิ ชวนมาช่วยที่ LOVEiS พอทำๆ ไปก็สนุกดี เลยกระโดดเข้ามาทำเต็มตัวสัก 2-3 ปีที่แล้ว ตอนสมัยทำเครื่องดื่มทั้งในแง่ของอิมพอร์ทและโรงงานที่เราผลิตเอง ผมรู้สึกว่ากับเครื่องดื่มมันไม่มีชีวิต มันเป็นขวดๆ เราสามารถบอกได้ว่าราคาเท่าไหร่? ทำยังไงกับมัน Marketing ยังไงกับมัน PR ยังไงกับมันพอมาทำอะไรที่เกี่ยวกับศิลปินมีความแตกต่างเยอะมากๆ เราจะทำยังไงให้เพลงออกมาในเวลาที่กำหนด มันไม่เหมือนกับเครื่องดื่มที่เราสั่งผลิตวันนี้พรุ่งนี้ได้ ศิลปินพอเวลาจะเข้าห้องอัดก็บอกว่าร้องไม่ไหว ไม่มีอารมณ์อะไรอย่างนี้เราก็กำหนดไม่ได้”
“อย่างจริงๆ เพลงแรกที่ทำเพราะว่าตอนนั้นเข้ามาทำที่ LOVEiS อยู่พักหนึ่งและก็ยังมีความไม่เข้าใจอะไรบางอย่างอยู่ก็เลยบอกน้องๆ ว่าทำเพลงให้พี่เพลงนึง อยากรู้ Process ทั้งหมด อย่างตอนที่ผมทำร้านอาหารจริงๆ ผมก็ทำอาหารไม่เป็นเลย หุงข้าวไม่เป็นด้วยซ้ำ พอทำไปสักพักหนึ่งเราต้องคุยกับคนในองค์กร ผมก็ไปหัดเรียนกอร์ดองเบลอให้พอรู้ว่าอาหารทำยังไง เรียนการโรงแรมมานิดหน่อยเหมือนกันเวลาตอนเราทำเพลงถ้าเราทำเพลงหนึ่งเพลงนะเราจะเข้าใจมันแล้วก็เข้าใจจริงๆ ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่เราคิดเลยนะ มันยากพอสมควรเลยก็เป็นประสบการณ์ที่ดี”
“ค่าย LOVEiS ก็จะมียุคแต่ละยุคนะครับ ตั้งแต่แรกจนมาถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าแต่ละยุคก็มีความสุขมีความสวยงามวันนี้ผมรู้สึกว่าเราน่าจะเปิดโอกาสและสนับสนุนน้องๆ คนรุ่นใหม่เข้ามา ทั้งบางคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วหรือหน้าใหม่จริงๆ เลย ตอนนี้ก็มีหน้าใหม่จริงๆ เลยเยอะกว่าแล้ว ที่น่าสนใจก็คือ น้องๆ รุ่นใหม่ๆ มีความสามารถสูงมากไม่ว่าจะเป็นเนื้อเสียงเอง วิธีการร้องของเค้าเอง มีเอกลักษณ์มากๆ วันนี้ทุกอย่างมันเปิดกว้างมาก ทำให้เด็กๆ โชว์ศักยภาพของตัวเองได้ และการที่มาอยู่ใน LOVEiS มันก็มีเสน่ห์มีปัจจัยอะไรบางอย่าง เช่น ทีมแต่งเพลงของเรา วิธีการโปรโมทของเรา วิธีการสร้างคอมมิวนิตี้ขึ้นมา เราอยู่กันแบบ 50/50 นั่นคือ 50% แรกเราอยู่กันแบบ Family มากๆ อีก50% หลังเราก็อยู่กันแบบ Professional เล่นกันได้สนุกกันได้ เรียกพ่อเรียกพี่ได้ตลอดเวลา ถึงเวลาทำงานคือทำงานนะเวลาดุก็ดุจริงๆ เวลาเตือนก็เตือนจริงๆ”
ซึ่งทาง คุณจี๊บ ได้พูดถึงอนาคตของ LOVEiS อีกว่า “เรายังคงมุ่งเน้นการสร้างผลงานเรื่องเพลงมากๆ แน่นอนอนาคตอาจจะขยายเป็นเรื่องอื่น เรื่องอะไรบ้าง เดี๋ยวค่อยโผล่ออกมา เรื่องเพลง เรื่องคอนเสิร์ต เรื่องพัฒนาศิลปิน ศิลปินต่อให้เข้ามาทุกคนยังต้องถูกส่งไปเรียน Voice เรียนร้องเพลง เรียนเต้นอะไรต่างๆ เต็มไปหมด บางคนอยากเรียนทักษะดนตรีเพิ่ม บางคนเล่นกีต้าร์ไม่เป็นอยากเรียนอะไป บางคนอยากเล่นเปียโนอะส่งเรียน เราส่งกระทั่งเรียนภาษาอังกฤษเพราะเรารู้สึกว่างานที่เค้าทำอาจจะมีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์อะไรอย่างนี้ ซึ่งอาจจะมีคำถามที่เป็นภาษาอังกฤษบ้างแล้วเค้าไม่มั่นใจเราก็เชิญอาจารย์ฝรั่งมาเลยมานั่งสอน เพราะฉะนั้นการพัฒนาศิลปินยังเป็นหัวใจหลักของเราอยู่”
“สำหรับการบริหารงาน ผมไม่เคยเห็นทางตัน คนที่เห็นทางตันคือคนที่ไม่พยายามพอ ฉะนั้นผมทำงานมา 20 กว่าปีผมรู้สึกว่าทางตันมันไม่มีหรอก มีแต่เราที่ตัน ฉะนั้นเนี่ยพอเจอปุ๊บคุณอาจจะเลี้ยวซ้าย คุณอาจจะเลี้ยวขวา คุณอาจจะวนกลับมา หรือว่าถอยหลัง อะไรก็ได้ แล้วเดี๋ยวหาทางเดินหน้าไปใหม่ กับน้องๆ ทุกคนด้วย เรามักจะสอนน้องแบบนี้อย่าไปมองว่าผมตันแล้วพี่มันคือการบ่อนทำลายตัวเอง ทัศนคติหรือว่าคติของผมเนี่ย ก็คือผมไม่เคยเจอทางตันเพราะงั้นเราก็พยายามที่จะสอนน้องๆ แบบนี้ อย่าไปคิดว่ามันตันให้หาทางสู้ต่อไป คนที่ผมชอบที่สุดคือคนที่พยายาม” คุณจี๊บกล่าวทิ้งท้าย
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_ne