ชีวิตคือเหรียญสองด้าน เก๋ ชลลดา เปิดมุมความลับจริงเป็นคนอารมณ์ร้อน
ชีวิตคือเหรียญสองด้าน เก๋ ชลลดา เปิดมุมความลับจริงเป็นคนอารมณ์ร้อน พร้อมแนะวิธีมารยาร้อยเล่มเกวียนที่ผู้หญิงควรมีติดตัว
นับเป็นผู้หญิงที่ตั้งเก่งและแกร่งรอบด้านจริงๆ สำหรับ เก๋ – ชลลดา เมฆราตรี เมื่อได้มาแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 เจ้าตัวก็ได้เล่าเรื่องความรักที่ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตได้เคยได้เรียนรู้ และเล่าผู้ชายในฝันที่ตอนนี้กลายมาเป็นผู้ชายตัวจริงที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พร้อมแนะวิธีมารยาร้อยเล่มเกวียนที่ผู้หญิงควรมีติดตัว แถมยังเปิดตัวตนอีกมุมหนึ่งของ เก๋ ชลลดา ที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น
ถาม เป็นผู้หญิงที่จิตใจเมตตา แต่เห็นบอกว่าอีกมุมหนึ่ง เก๋ ชลลดา เป็นผู้หญิงที่ใจร้อนมาก
เก๋ ชลลดา : จริงค่ะ ถอยไปก่อนที่จะมีมูลนิธิ The Voice นะคะ เก๋ ว่า เก๋ เป็นคนใจร้อนมากคือ เก๋ เป็นคนทำอะไรคือพูดปั๊บ ทำเลย คิดแล้วก็ทำเลย คิดแล้วก็พูดเลยเป็นคนใจร้อน ใจเร็ว ไม่ชอบการรอคอยคน แต่เราเป็นคนใจร้อนที่ไม่ได้เป็นคนขี้โมโห ไม่ได้เหวี่ยง วีน นะคะ คือ เก๋ เนี่ยเป็นคนทำอะไรเร็วก็จริงแต่ว่าชอบอะไรเร็วแล้วตัดสินใจได้เลยพูดง่ายๆไม่ชอบการลังเล ทำแล้วก็ทำเลย กล้าได้กล้าเสียและก็ไม่ชอบคนที่งึกงัก ไม่โมโหง่ายดีกว่า ไม่เหวี่ยง ไม่วีน ไม่ทะเลาะ แต่ไม่ชอบการถูกเอาเปรียบ หรือแซงคิวคือบางที เก๋ ก็รู้ว่าเป็นแบบนี้ทำให้เราเป็นคนอยู่ยากเหมือนกันนะคะคือ เก๋ ไม่ชอบการไม่ถูกต้องเลย คือ ต้องเป็นเส้นตรงเลย
ถาม เป็นคนที่ชอบอะไรเร็วๆแต่บางสิ่งบางอย่างช้า เป็นสาวรักนวลสงวนตัวในเรื่องความรักมาก
เก๋ ชลลดา : อาจจะเป็นเพราะว่าเรารู้เยอะ เห็นเยอะ เพื่อนแยะ เก๋ เห็นเพื่อนผิดหวังเรื่องความรักมาเยอะ เห็นคนดีๆที่เคยกินข้าวมีความสุขอยู่ดีๆก็เสียหลัก กินข้าวไม่ได้ ลุกขึ้นมาแต่งตัวไม่ได้ ออกจากบ้านไหว เก๋ ก็เลยตั้งปณิธานกับตัวเองว่าคนที่จะมาทำร้ายเราเนี่ยต้องเลือกคนที่เข้ามาทำร้ายด้วยนะ หนึ่งก็คือคนในครอบครัวเขาอาจจะทำร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้เราเป็นห่วง ไม่สบายใจนะคะ อันที่สอง เชื้อโรค โรคภัยไข้เจ็บซึ่งมันบังคับไม่ได้ สามก็คืออุบัติเหตุ เก๋คิดแค่ 3 อย่างนี้ เพราะฉะนั้นเนี่ยใครหน้าไหนก็ตามที่ไม่ใช่ 3 ข้อนี้ เขาไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายเราทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้น เก๋ เลยคิดว่าความรักของ เก๋ ใช้หัวใจมาพร้อมสมองเสมอ คือ ไม่อยากผิดหวัง ไม่อยากร้องไห้ ไม่อยากเสียใจ เพราะฉะนั้นก็เลยเพลย์เซฟมาตลอดชีวิต จนกระทั่งแต่งงานเนี่ยค่ะ คือ ทุกคนจะแซวว่า เก๋ แต่งงานช้า เก๋บอกว่า เก๋ ไม่แปลกใจเลยเพราะว่าเหมือนกับ เก๋ กำหนดชีวิตตัวเองไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า เก๋ ต้องรอบคอบ ตอนที่ เก๋เข้าวงการใหม่ๆแล้วไปเล่นมิวสิกวีดีโอจำได้เลยผู้กำกับบอกเราว่าร้องไห้สิ ผู้ชายทำอย่างนี้กันเรา เราก็สวนเลยว่าไม่มีทาง ผู้ชายหนูไม่ทำอย่างนี้กับหนูหรอก หนูไม่ยอม เถียงผู้กำกับ ผู้กำกับบอกให้เปิดฝักบัวแล้วร้องไห้ ไม่มีโมเมนต์ร้องไห้ และเคยปฏิเสธบทหลายบทมากตอนที่เข้าวงการมาแรกๆเพราะว่ามันต้องถึงเนื้อถึงตัว ซึ่งก็เป็นภาพยนตร์หลายเรื่องมากๆทุกวันนี้ยังแซวน้องๆหลายคนว่า เนี่ย ถ้าวันนี้พี่เล่นไป หนูไม่ได้เกิดแล้วนะเป็นโจ๊กกันไป(หัวเราะ)
ถาม ชีวิตของ เก๋ ชลลดา ครั้งหนึ่งเคยเจอแฟนขี้หึงมาก
เก๋ ชลลดา : โดยส่วนตัวถ้าได้ไว้ใจแล้วจะไว้ใจเลย เชื่อใจเลยแล้วเป็นคนไม่ขี้หึง แต่ปรากฏว่าความรักของ เก๋ ค่อนข้างตรงข้ามมากเลย เพราะ เก๋ ไปเจอผู้ชายที่ขี้หึงมาก คือ เช็กโทรศัพท์เราแบบสุดๆดู recent call ถ้าเบอร์ไหนไม่ได้ขึ้นชื่อ ไม่ใช่เพื่อนเราโทรมาได้ยังไง เขาก็จะโทรกลับไปถาม อย่างถ้าสมมตินะคะ อย่าง เก๋ ใส่ชุดอย่างนี้ตายแน่นอนไม่ให้เราใส่แขนกุด สายเดี่ยว เกาะอกคือไม่ต้องพูดถึง คือ แต่งหน้าทาปากได้ แต่ว่าไม่รู้เป็นอะไรกับตอนนั้นนะคะ คือเขาไม่ชอบให้ เก๋ ทาปากสีแดงเพราะรู้สึกว่ามันคือการเย้ายวนและเซ็กซี่ แล้วก็ไม่ชอบให้ใส่กระโปรงสั้น กระโปรงผ่าก็ไม่ได้ แล้วก็รองเท้าส้นสูงคือถ้าเป็นรองเท้าที่เปิดเห็นนิ้วเท้าเขาบอกว่าเป็นรองเท้าที่โป๊มาก ยิ่งคบกันไปคบกันมา เก๋ก็จะใส่ชุดแบบอีกนิดเดียวก็จะเข้าข่ายเป็นนุ่งขามห่มขาวแล้ว
ถาม แล้วตอนเริ่มต้นกับคนนี้ไปคบกันได้ยังไง
เก๋ ชลลดา : ก็คือเหมือนเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย คือ ก่อนที่เราจะคบกัน เก๋ ก็งง เพราะว่าเราก็เป็นคนที่แต่งตัวอยู่แล้ว(แบบเพราะว่าตอนที่เขาชอบเรา เขาชอบที่เราเป็นเรา แต่พอคบกันเขาอยากให้เราเป็นแบบที่เขาอยากให้เป็น) แต่ถามว่า เก๋ รู้สึกอึดอัดหรืออะไรไหม เอาจริงๆนะคะ ไม่รู้สึกอะไรสารภาพเลยแบบพอมันเป็นความรักครั้งแรก มันจะมีความสุข อยากจะทำให้ อยากจะประคองให้ดีที่สุดก็เลยเข้าใจ เราก็เปลี่ยนให้เขา แล้วเขาเองก็เปลี่ยนหลายๆอย่างให้เรา มันก็เลยเหมือนแลกกันโดยที่ไม่ได้รู้สึก แต่พอนานๆวันเข้าด้วยความที่ตอนนั้นจังหวะที่ เก๋ เพิ่งเข้าวงการบันเทิงเต็มตัวด้วยก็มาทำงาน เขามาดูเบื้องหลังการถ่ายแฟชั่น เก๋ เขาก็แบบไม่พอใจกลับไปก็ทะเลาะกันเขาก็บอกเราว่าไม่ถ่ายได้ไหม ยกเลิก รูปอันนั้นไม่เอาได้ไหม ถ่ายไปแล้ว ไม่เอาไม่ได้นะ มันต้องลงหนังสือแล้วมันก็เลยมีปัญหา ส่วนเรื่องอะไรอีกบ้างที่เขามีกฎกติกากับเราก็จะมีเรื่องการขับรถยนต์ ซึ่งสำหรับเรื่องรถยนต์เป็นอะไรที่เป็นปัญหากับแฟนเก๋ 2-3 คนแรกมากเพราะว่ารถของ เก๋ เปลี่ยนฟิล์มบ่อยมาก คุณพ่อคุณแม่ เก๋ บอกว่ารถติดฟิล์มกลางๆก็พอเพราะว่ากันแสงกันแดด แต่ว่าอย่ามืดหมดเพราะอันตราย แล้วพี่เขาก็บอกว่าไม่ได้เป็นผู้หญิงขับรถติดฟิล์มมืดๆเดี๋ยวเราโดยทำร้ายหรือเกิดอะไรขึ้นคนไม่เห็นจะทำอย่างไร เราก็ลอกฟิล์มออกขับรถกระจกใสแว้บ แล้ววันดีคือดีก็จะมีข่าวปล้นนู่นนี่นั่น เขาก็เป็นห่วงเราก้ขับรถจากบางนา แล้วมาหาเราที่ปิ่นเกล้าเพื่อที่จะขับรถตามกันไป 2 คันไปมหาวิทยาลัยเพื่อที่เขาจะขับคอยคุ้มครองคอยดูแลให้เรา แล้วต่อมาอีกคนให้ติดฟิล์มมืดไปเลยมืดจนขนาด เก๋ ขับเองตอนกลางคืนยังมองไม่เห็นเลยค่ะ เพราะจะได้ปลอดภัยเพราะเขาเป็นห่วงไม่อยากให้คนที่มองเข้ามาว่าเห็นเป็นผู้หญิงขับรถคนเดียว
ถาม แต่ในบรรดาการห้ามของแต่ละคนจะสงสัยตอนที่เราบอกว่าก็ได้ เดี๋ยวฉันทำแบบนั้นให้ ซึ่งในตอนนั้นเองเราก็รู้สึกว่าเราทำได้
เก๋ ชลลดา : เราทำได้ค่ะ เพราะว่าทุกคนขอเราแบบน่ารักมากค่ะ แบบผมรักคุณนะ ฉันรักเธอนะ พี่รักน้องนะ พี่เป็นห่วงน้องนะ ทำให้พี่สบายใจได้ไหมมันจะเป็นคำพูดที่น่ารักค่ะ คือ มันจะเป็นคำพูดดีๆ เก๋ เป็นคนที่ถ้าพูดดีๆจะทำให้
ถาม แล้วอย่างคนที่ขี้หึงจัดมากคนนั้นเลิกกันยังไง
เก๋ ชลลดา : คือ ตอนนั้น เก๋ รู้สึกว่ามันคือการตีกรอบมากๆค่ะ คือพอเราอนุญาตให้เขาเข้ามามีบทบาทในการตัดสินของเราในทุกเรื่องมันเป็นความพลั้งเผลอ เหมือนเราไปสปอยล์เขา เก๋ ไม่อยากโทษเขา เก๋ โทษตัวเองนะคะ คือ เก๋ ไปอนุญาตให้เขามีสิทธิ์มีเสียงขนาดนี้ เขาก็เลยย่ามใจเข้ามาทำทุกอย่าง มาจัดการชีวิตเราจนกลายเป็นการมาบงการชีวิตเรา เราก็เลยรู้สึกอึดอัดและรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ บังคับทุกเรื่องเลย เก๋ ว่าความเชื่อใจมันไม่มากพอ


ถาม แล้ว เก๋ ชลลดา ตอนอกหักเป็นยังไง
เก๋ ชลลดา : ทุกการเลิกรา เก๋ เสียใจทุกครั้งนะคะ เสียใจมีน้ำตาทุกครั้งพูดเลยแล้วก็พยายามอยู่ให้ได้ เคยเหมือนกันนะคะที่แบบ เราเลิกกันแล้วเหรอ เดี๋ยวจะไม่มีโทรศัพท์สายนี้เข้ามา จะไม่มีคำพูดแบบนี้แล้วเหรอ จะไม่มีอะไรแบบนี้แล้วเหรอ คือ เก๋ ก็จะปล่อยให้ตัวเองเศร้านะคะ ไม่ฝืน แต่ว่าจะเป็นการเศร้าที่ไม่นานมาก เก๋ ก็จะส่องกระจกสะกดจิตตัวเองแล้ว ว่าเราอยู่มาได้ขนาดนี้แล้ว สมมตินะคะ เลิกกันตอนอายุ 25 ปี เราอยู่มา 25 ปีแล้วเรายังอยู่มาได้เลยโดยที่ไม่มีเขาคนนั้น พ่อแม่เพื่อนเราที่มีพอไหม แล้วหนทางข้างหน้าเป็นอย่างไร แล้วถ้าเรากลับไปเป็นแบบเดิมมีความสุขจริง มีเขาอยู่แต่เป็นแบบนั้นเอาไหม คือ เก๋ จะมีเหตุผลตลอดเลยค่ะ
ถาม เคยไหมที่เหตุผลเอาอารมณ์ไม่อยู่
เก๋ ชลลดา : ก็มีบางนะคะ มีพลาดพลั้ง มุทะลุไป เหมือนกับพลาดไปมีค่ะมี แต่ว่า เอาก็เอา อีกสักตั้งหนึ่งแล้วก็ที่จะกระโดดกลับเข้าไปใหม่ในความสัมพันธ์นั้นก็รู้สึกเลยว่าถ้าต้องเสียใจเนี่ยต้องเตรียมสมน้ำหน้าตัวเองนะ ก็คือบอกตัวเองไว้เลยว่าต้องเสียใจ เขาเปลี่ยนไม่ได้หรอกคือทุกอย่างของการเลิกรา เก๋ รู้สึกว่าคนเราถ้าเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราคิดว่าเราเปลี่ยนเขาได้ไม่ได้ว่าเขาไม่ดีนะคะ แต่เราจะเปลี่ยนให้เขาเป็นอย่างที่เราถูกใจให้ได้ ซึ่งจริงๆแล้วในโลกนี้มันไม่มีความพอใจนั้นหรอก ซึ่งมันก็ไม่ได้อยู่ดี คือ เขาไม่มีทางเปลี่ยนให้เรามันก็จะเป็นความสัมพันธ์ที่ยื้อกันไปอย่างนี้ และมันก็จะเสียเวลา เก๋ รู้สึกว่ายิ่งนาน ยิ่งเจ็บนาน ยิ่งเสียเวลางั้นตัดเลยเถอะ
ถาม เป็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ แต่ก็เป็นผู้หญิงที่มีมารยาร้อยเล่มเกวียนเล่าหน่อยว่าจะต้องมีต้องทำอะไรบ้าง
เก๋ ชลลดา : คือ เก๋ ว่าจริงๆแล้วมนุษย์เราทุกคนไม่ชอบการสั่ง แต่ชอบการขอหรือการโน้มน้าวใจ มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่งด้วยพูดให้เขาทำตามกับเราแทนที่เราจะบอกว่าทำอันนี้ๆสั่งๆมาด้วยกันเถอะอะไรอย่างนี้ มาด้วยเถอะหรืออะไรอย่างนี้ คือ ต้องให้เราเห็นด้วยกันเราก่อนค่ะ รู้จักการพูดแบบพี่ค่ะแบบนี้ใครๆก็ทำกัน มันเป็นเรื่องปกติเลยนะคะจริงๆแล้วคู่เราไม่ได้ทำก็ไม่เป็นไรนะ แต่ถ้าเราทำแล้วเราก็จะพิเศษขึ้นมาจากคนอื่น พี่ต้องทำแบบนี้กับ เก๋ คนก็จะมองคู่เราด้วยความรักและชื่นชม พี่ไม่อยากจะไปไหนแล้วเป็นที่รักและเป็นที่ชื่นชมเหรอ เนี่ยเพื่อนๆเก๋ ทุกคนก็จะอิจฉา เก๋หมดเลยว่า เก๋ ได้ผู้ชายโชคดีแบบนี้ ทีมงานถามว่ามีมารยาร้อยเล่มเกวียนไหมบอกว่าถ้าเรียกว่าวิธีการคิดแบบนี้คือมารยาร้อยเล่มเกวียน เราคงมีเป็นพัน หมายความว่าเราต้องคิดแล้วค่ะ คิดและรู้จักพูดและก็เสนอให้เขาเห็นต่าง และเก๋ พยายามจะพูดเป็นภาพสวยงามค่ะ ว่าคนเราเนี่ยคือ จูงใจไปด้วยกันว่า พี่คะ เราไปด้วยกันกับความรักครั้งนี้เถอะค่ะ ทำให้โลกเห็นว่าความรักของเรามัน 99 เปอร์เซ็นต์ ทองคำยัง 99.99 เปอร์เซ็นต์เลย หนูไม่ได้ขอ 100 เปอร์เซ็นต์ก็ได้นะคะพี่ แต่ว่าเราต้องไปด้วยกันนะคะพี่ คือเราเป็นคนพวกนโยบายเยอะ พูดแยะ
ถาม อีกเรื่องของ เก๋ ชลลดาคือ จากชายในฝัน กลายเป็น รักแท้ เรื่องราวเป็นอย่างไร
เก๋ ชลลดา : คือ เก๋ นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้วที่มีข่าวไม่ดี แล้วอยู่ดีๆเราก็ฝันวันที่ 20 พฤศจิกายน ฝันดีมากอันนี้ในฝันนะคะ ในฝันเหมือนเราไปล่องเรือเหมือนเรือสำเภา เป็นเจ้าชายแล้วไม่รู้คิดอะไร ทำไมเอาไปฝัน เป็นเจ้าชายประเทศสเปน 3 คน อยู่ในเรือลำนี้แล้วเรากำลังจะขึ้นเรือไป แต่ขอโทษนะคะ ผู้ชาย 3 คนนี้ หน้าเหมือนกันหมดเปลี่ยนแค่ทรงผม แต่เขาเป็นคนที่เราไม่รู้จักไม่คุ้นหน้าเลยนะคะ ผู้ชายในฝัน ก็คือฝันเป็นเหมือนลูกครึ่งหน้าคมๆเมดิเตอร์เรเนียนค่ะหน้าเขาจะเข้มๆและในฝันผู้ชายกำลังบอกเชิญขึ้นเรือ เดี๋ยวเราจะพาไปท่องเที่ยวเมืองเราแล้ว เก๋ กำลังจะก้าวขึ้นเรือ ก็มีเสียง.. ตื่นได้แล้วแก เดี๋ยวตกเครื่อง เก๋ ก็โอ๊ย !! อย่าปลุกจำเรื่องนั้น เชื่อไหมคะระหว่างทางนั่งรถจากบ้านไปสุวรรณภูมิพูดกับเพื่อนที่มาปลุกเราตลอดเลยว่าแกไม่น่ามาปลุกเลย เมื่อกี้กำลังจะเอื้อมมือ กำลังจะเลือกคนไหน แต่เราก็จำหน้าเขาไว้นะคะ แล้วเราก็บินไปเชียงใหม่ งานคือวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่เราจะทำงานเป็นพิธีกร จำได้เลยพี่เจนนิเฟอร์ คิ้ม อยู่ในเหตุการณ์ด้วย กำลังประกาศว่าลำดับต่อไปนะคะ ขอเชิญคุณพร้อม สิริสันต์ ขึ้นมาบนเวที ก็คือ เก๋เป็นพิธีกรเชิญผู้บริหารเพราะเป็นบริษัทอินเตอร์ พร้อม เดินมาจะขึ้นเวที ไฟก็จับไปที่เขาเราหันไปปุ๊บ เก๋ ตอนนั้นอึ้งแล้วเดินลงจากเวทีไปเลย คือตกใจมากเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่ผู้ชายหน้าแบบนี้คือ ผู้ชายที่อยู่ในฝันเรา แล้วเราก็เดินลงมาจากเวทีแล้วบอก พี่คิ้ม หนูเจอผู้ชายในฝัน พี่คิ้ม เขาก็บอกเราบ้าเปล่า กลับขึ้นไปมาบ้าผู้ชายอะไรตอนนี้ กลับขึ้นไปทำงานก่อนตั้งสติๆ เราก็บอกว่าไม่ใช่พี่คิ้ม หนูไม่ได้บ้าผู้ชายเพราะเราอยู่ในวงการบันเทิงมาเจอคนหน้าตาหล่อเราไม่ได้ตื่นเต้น แต่คือ เขาใช่คนที่อยู่ในฝันของเรา คือ ถ้าเอาจริงๆสเปกของ เก๋ ไม่ได้ชอบคนตัวใหญ่ ล่ำเหมือนพร้อม นะคะ เก๋ ชอบผู้ชายบางๆมือสวยๆดูการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ว่า พร้อม เขารูปหล่อดูดีในสไตล์เขา แต่ว่าไม่ใช่คนที่เป็นสเปกที่กรี๊ดกร๊าด แต่เพราะเราเห็นเขามาก่อนในฝันของเราจริงๆ เชื่อไหมค่ะ อีเวนต์เนี่ยตื่นเต้น สมอง ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อ่านสคริปต์ งง เบลอ คือ งง แล้วขอโทษนะคะ ดูเป็นคนหิวมาก คือ เราอ่านสคริปต์ไปแล้วก็มองเขาไปทำไมมันเหมือนมาก ถามว่ามันใช่รักแรกพบไหม ความรู้สึกมันผสมผสานค่ะ คือ ตอนนั้น เก๋ จำแนกอารมณ์ไม่ถูกคือเราตื่นเต้นมาก
ถาม รอเวลาถึง 10 แล้วค่อยแต่งงาน ทำไมต้องใช้เวลานานขนาดนั้น ???
เก๋ ชลลดา : การเดินทางของความรัก คือ เก๋ อยากจะเก็บช่วงเวลาการเป็นแฟน พอเป็นแฟนกันแล้วมันมีความสุขมากจริงๆเพราะพอเราเจอคนที่ใช่ คนที่พร้อมมันจะไม่มีปัญหาเลย ไม่เคยทะเลาะ ไม่เคยหึง ไม่เคยนอกใจ คือ เก๋ ขอบคุณเขาทุกปีนะคะทุกวันครบรอบของเราที่เรารู้จักกันก็คือ ทุกวันที่ 21 พฤศจิกายน ก็จะพูดตลอดเลยว่าขอบคุณมากเลยการ์ดทุกปีจะเขียนบรรยายความรู้สึกตลอดหนึ่งปีของการเดินทางของความรักก็จะบอกเขาทุกวันว่าขอบคุณมากเลยนะ เขาเป็นของขวัญจากพระเจ้าจริงๆเป็นของขวัญจากฟ้าจริงๆที่มาให้ เก๋ ความดีที่คนชอบพูด เก็ ได้ของขวัญแล้วเลยเป็นคู่ชีวิต คู่คิด เป็นเพื่อนแท้ยามแก่เฒ่าให้ เก๋ จริงๆ คือ เขาพร้อมมากในทุกอย่างดีกับครอบครัว รักเพื่อนฝูง แล้วพร้อมเขาเป็น A few good man แบบในภาพยนตร์เลย คือ เขาเป็นคนดีของสังคมด้วยคือ ไม่แซงคิว ไม่เอาเปรียบ ไม่ชอบอภิสิทธิ์ชน เขาน่ารักในทางของเขามากๆ ถามว่าทำไมถึงแต่งงานช้าเพราะว่าลึกๆในใจ เก๋ กับ พร้อม ค่อนข้างจะสมัยใหม่นิดนึง คือ เก๋ ไม่ได้ต้องการแต่งงาน แต่ว่าเป็นการแต่งงานที่พอเราถึงจุดหนึ่งของชีวิต รู้สึกว่าเราควรจะมีความสุขบนความสุขของคนรอบข้างด้วย ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆและครอบครัวได้มายินดีกับเรา เพราะ เก๋ คิดว่าการแต่งงานไม่ใช่บทพิสูจน์ทุกอย่างในความรัก ซึ่งโมเมนต์ในการขอแต่งงานของ พร้อม คือ เกินความคาดหมายทุกอย่างเลยค่ะ พี่ฉอด ที่เราดูจากเพื่อน จากอะไรมาไม่คิดว่าจะเกิดกับเรา พร้อม เขาจะมีบางอย่างคือ เขาจะมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง เก๋ ว่าความรักส่วนหนึ่งที่เราดำรงมาได้ 9 ปีเต็มเพราะว่ามันไม่ได้หวือหวาด้วยค่ะ เหมือนกับราบเรียบมั่นคง และ มันสวยงามในแบบของมัน จนกระทั่งวันหนึ่ง เก๋ คิดว่าเขาคงไม่มีทางที่จะคุกเข่าขอแต่งงานเด็ดขาด แล้วคือเขาก็บอกกับเราว่าไม่มีนะ ไม่ทำนะ เพราะเขาจะพูดไว้ก่อนแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งมันเกิดกับเราคืออะไรที่ไม่คาดหวังพอได้มามันเหมือนเป็นของแถม เหมือนถูกรางวัลที่ 1 เป็นเซอร์ไพร์สที่ยิ่งใหญ่ แล้วก็ปี 2017 เราไปเที่ยวกัน แล้วเขาพูดประมาณว่า วิวแบบนี้มันจะสวยมาก ต่อเมื่อเราจะรู้ว่าเราจะดูมันไปจนวันสุดท้ายชีวิตกับใคร แล้ว เก๋ ก็หันไปว่าตกลง เขาบอกว่า ผมยังไม่ได้ขอ (หัวเราะ) เขาก็บอก เก๋ ว่า ผมก็บอก เก๋ แล้วว่าผมไม่ทำแบบนั้นหรอก ซึ่งทริปนั้นก็เที่ยวกันไปมีความสุขไปจบไปไม่มีอะไร จนกระทั่งเหตุการณ์จริง ทุกอย่างที่บอกว่าผมไม่เซ็ต ผมไม่เซอร์ไพร์ส ผมไม่นัดแนะ ทุกอย่างเลย เกิดขึ้นที่ Lake Como ที่ อิตาลี ที่ปราสาทหนึ่งที่เขาถ่ายเรื่อง Star Wars และ ปี 2019 ก็คือวิลลาคือ ปราสาท ที่เขาเปิดให้นักท่องเที่ยวจอง พร้อม เขาก็จองเข้าไป ซึ่งวันที่พร้อมเขาจะขอเรา เก๋ ก็รู้สึกแปลกใจที่สำคัญเก๋ คิดว่ามันไม่ใช่เพราะว่าทริปนี้มีพี่แพร และหลานๆของพร้อมเขาไปด้วย เราก็คิดว่า พร้อม เขาไม่มีทางที่จะขอเราต่อหน้าเด็กหรอก ซึ่งทริปนั้นคือราบรื่นมากเลยนะคะ แล้วเก๋ ก็เอากล้องไปถ่ายรายการลงยูทูปด้วย ซึ่งระหว่างที่เราถ่ายอยู่ พร้อม เขาก็เดินมาจับแขนค่ะแ แล้วเขาก็พาเราเดินไปแล้วคุกเข่า แล้วก็มีคนอยู่ดีๆมาถ่ายรูปเรายังไม่ได้ขออนุญาตเลย เราก็บอกว่าขออนุญาตยังคะ แล้วเราก็บอก พร้อมว่าคุกเข่าทำไม คือ ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเลย แล้วพร้อม เขาก็หยิบแหวนจากสูทเขาออกมาขอเราแต่งงาน ซึ่งตลอดทริปเรายังพูดกันเลยว่าเมืองนี้เป็นเมืองของ จอร์จ คูลนีย์ นะ เขาเป็นผู้ชายที่เป็นหนุ่มโสด เขายังลงเอยกับผู้หญิงที่เขารักเลย ซึ่งในบทที่พร้อม เขามาพูดขอเราแต่งงานคือเขาบอกว่า เขาไม่ใช่ จอร์จ คูลนีย์ นะ แต่เขาแค่ พร้อม สิริสันต์ คุณจะแต่งงานกับผมไหม ทุกการเซอร์ไพร์ส ทุกความรู้สึกที่ เก๋ ได้ยินเพื่อนผู้หญิงที่โดนขอแต่งงาน ทุกความรู้สึกมันเกิดขึ้นหมดเลยกับตัวเราวันนั้น น้ำตาคือออกมาเป็นเม็ดๆ
สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :


ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news





