กรีฑาไทยสุดปัง! โกย รวม 13 ทอง ครองบัลลังก์เจ้าเหรียญทองซีเกมส์ 2025
กรีฑาไทยสุดปัง! วันสุดท้ายโกยเพิ่ม 2 ทอง รวม 13 เหรียญทอง ครองบัลลังก์เจ้าเหรียญทองซีเกมส์ 2025 อย่างยิ่งใหญ่
การแข่งขันกรีฑา ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เดินทางมาถึงวันสุดท้ายของการชิงชัย เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ณ สนามศุภชลาศัย ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของแฟนกีฬาไทยที่หลั่งไหลเข้ามาให้กำลังใจนักกีฬาอย่างล้นหลาม และเป็นอีกครั้งที่ “ทัพลมกรดไทย” ไม่ทำให้แฟน ๆ ต้องผิดหวัง เมื่อสามารถปิดฉากวันสุดท้ายด้วยผลงานยอดเยี่ยม คว้าเพิ่มอีก 2 เหรียญทอง พร้อมสรุปผลงานครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกรีฑา ด้วยผลงานรวมทั้งสิ้น 13 เหรียญทอง
ไฮไลต์สำคัญในวันสุดท้ายเริ่มต้นจากการแข่งขันวิ่ง 1,000 เมตรชาย ซึ่งเป็นรายการที่แฟนกีฬาไทยต่างจับตามอง โดย “คีริน ตันติเวทย์” นักวิ่งลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง คุมจังหวะการแข่งขันตั้งแต่ช่วงต้น ก่อนเร่งสปีดในรอบสุดท้ายเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มสนาม นับเป็นเหรียญทองที่ 3 ของคีรินในซีเกมส์ครั้งนี้ หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าตัวกวาดเรียบมาแล้วทั้งในระยะ 1,500 เมตร, 5,000 เมตร และ 10,000 เมตร ตอกย้ำสถานะ “ราชาระยะกลาง-ไกลแห่งอาเซียน” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อีกหนึ่งความสำเร็จที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนกีฬาไทย คือการแข่งขันวิ่งผลัด 4×400 เมตรชาย ทีมชาติไทยส่งชุดผสมประสบการณ์และพลังหนุ่มลงสนาม ประกอบด้วยไม้แรก “เบสท์” ศราวุฒิ นวลศรี, ไม้ที่สอง คุณภัทร ไกรจันทร์, ไม้ที่สาม จิรายุ ปลีนารัมย์ และไม้สุดท้าย จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน ซึ่งรับหน้าที่ปิดจ็อบได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้ง 4 คนช่วยกันเร่งฝีเท้าอย่างสุดความสามารถ ก่อนเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 3.03.07 นาที คว้าเหรียญทองมาครอง พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำลายสถิติซีเกมส์เดิมที่ทีมไทยเคยทำไว้ตั้งแต่ปี 1995 ด้วยเวลา 3.05.47 นาทีลงอย่างขาดลอย
จากผลงานในวันสุดท้าย ส่งผลให้ทัพกรีฑาไทยปิดฉากซีเกมส์ 2025 ด้วยการคว้าเหรียญทองรวมทั้งสิ้น 13 เหรียญ ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมและเกินเป้าหมายที่สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยตั้งไว้ พร้อมรักษาตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกรีฑาในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ได้อีกสมัย
เมื่อไล่เรียงผลงานเหรียญทองของกรีฑาไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ “คีริน ตันติเวทย์” ถือเป็นกำลังหลักสำคัญ ด้วยการคว้าไปถึง 3 เหรียญทอง จากวิ่ง 1,500 เมตร, 5,000 เมตร และ 10,000 เมตร ขณะที่ “บิว” ภูริพล บุญสอน ดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการลมกรดไทย ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน หลังคว้า 3 เหรียญทองจากการวิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร และเป็นหนึ่งในทีมวิ่งผลัด 4×100 เมตรชาย ที่ผนึกกำลังกันคว้าแชมป์มาครองได้อย่างสง่างาม
นอกจากนี้ กรีฑาไทยยังประสบความสำเร็จในหลายรายการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวิ่งผลัด 4×100 เมตรหญิง ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของนักวิ่งสาวไทยบนเวทีอาเซียน, สุเบญรัตน์ อินแสง ที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันขว้างจักรหญิง, จอชชัว แอทคินสัน ที่ระเบิดฟอร์มคว้าแชมป์วิ่ง 400 เมตรชาย, จริยา วิชัยดิษฐ์ จากพุ่งแหลนหญิง, ตะวัน แก้วดำ ในประเภทกระโดดสูงชาย, กิตติพงษ์ บุญมาวัน จากขว้างค้อนชาย และเหรียญทองจากวิ่งผลัด 4×400 เมตรชาย ที่ปิดฉากการแข่งขันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ผลงานอันยอดเยี่ยมของทัพกรีฑาไทยในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพของนักกีฬาแต่ละคนเท่านั้น หากยังเป็นผลลัพธ์ของการวางแผนพัฒนาอย่างเป็นระบบ การสนับสนุนจากสมาคมกีฬา บุคลากรโค้ช และทีมวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานนักกีฬาไทยให้สามารถแข่งขันได้อย่างสูสีและเหนือกว่าชาติคู่แข่งในภูมิภาค
การคว้า 13 เหรียญทอง พร้อมทำลายสถิติซีเกมส์หลายรายการ คือบทพิสูจน์ชัดเจนว่า “กรีฑาไทย” ยังคงยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดของอาเซียน และพร้อมต่อยอดความสำเร็จสู่เวทีที่ใหญ่กว่านี้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเอเชียนเกมส์ หรือการแข่งขันระดับโลก โดยซีเกมส์ครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงบทสรุปแห่งความสำเร็จ แต่เป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนากรีฑาไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





