Home
|
อาชญากรรม

“อัจฉริยะ” นำหลักฐานร้อง DSI สอบ ผบ.ตร.ปมซื้อขายตำแหน่ง

Featured Image
“อัจฉริยะ” นำแชทไลน์ อ้างเป็นของ ผบ.ตร. โยงปมการซื้อขายตำแหน่งตำรวจมอบให้ ดีเอสไอ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง

 

วันนี้ (19 พ.ย.68) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำ เอกสารหลักฐาน เกี่ยวกับแชท ข้อมูลการสนทนาผ่านแอพพลิเคชันไลน์ ซึ่งนายอัจฉริยะ อ้างว่าเป็นการพูดคุยระหว่าง คุณหญิงซึ่งแอบอ้างเบื้องสูงรายหนึ่ง กับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

รวมถึง การพูดคุยของนายตำรวจยศใหญ่อื่น ๆ ซึ่งภาพรวมมีเนื้อหาอาจจะเข้าข่ายเป็นการซื้อขายตำแหน่งหน้าที่ เพื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ 4 คน มายื่นให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พิจารณาดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติตำรวจ มาตรา 87 วรรคท้าย ซึ่งเทียบเท่ากับมาตรา 157

 

"อัจฉริยะ" นำหลักฐานร้อง DSI สอบ ผบ.ตร.ปมซื้อขายตำแหน่ง

 

 

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ข้อความทั้งหมดที่ตัวเองบันทึกมาเป็นหลักฐานนั้น คือเหตุการณ์ที่เกิดในปี 2567 โดยปัจจุบันนายตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้เข้ารับราชการในตำแหน่งที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งนอกจากบันทึกข้อความการสนทนาแล้ว ยังมีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่างตัวเอง กับ ภรรยาของนายตำรวจระดับผู้บังคับการในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นผู้ร้องให้ตนเอง นำพยานหลักฐานเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

ซึ่งผู้ร้องอ้างว่าถูกคุณหญิงซึ่งแอบอ้างเบื้องสูงได้เข้ามาแอบอ้างกับตัวเองว่า สามารถช่วยให้ตำรวจ ได้รับตำแหน่งต่าง ๆ ได้ โดยจะต้องแลกกับค่าตอบแทนซึ่งเป็นเงินสดหรือทรัพย์สินราคาแพงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น นาฬิกา และ กระเป๋าแบรนด์เนม โดยเนื้อหาที่ปรากฏเกี่ยวข้องกับนายตำรวจ 4 คน ซึ่งต้องการจะเลื่อนตำแหน่ง ขึ้นเป็นผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกนำมาใช้สำหรับแลกเปลี่ยนในการแต่งตั้งทั้งหมด 24 ล้านบาท

 

"อัจฉริยะ" นำหลักฐานร้อง DSI สอบ ผบ.ตร.ปมซื้อขายตำแหน่ง

 

ในส่วนนี้จึงต้องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องตาม พระราชบัญญัติตำรวจมาตรา 88 วรรคท้าย ซึ่งระบุว่า

 

ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือแอบอ้างอำนาจของบุคคลใดหรือเรียก รับ ยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือกระทำการใดอันมิชอบ เพื่อให้มีการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งผู้ใดให้ดำรงตำแหน่งใด ไม่ว่าการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งนั้นจะชอบด้วยหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube