Home
|
ไลฟ์สไตล์

รู้จักภาวะหมดไฟ ปัญหายอดฮิตของมนุษย์ออฟฟิศ พร้อมแนวทางแก้ไข

Featured Image

ภาวะหมดไฟ ปัญหาที่มนุษย์ออฟฟิศต้องเผชิญ

           ถ้าพูดถึงหนึ่งในปัญหาที่มนุษย์ออฟฟิศหลายคนต้องเผชิญ เชื่อว่า “ภาวะหมดไฟ” จะต้องเป็นอีกปัญหาที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ทำงานมาเป็นระยะเวลานาน จนรู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจ จนแทบไม่อยากทำอะไร ซึ่งส่งผลให้ขาดความมั่นใจ และประสิทธิภาพการทำงานลดลง ในวันนี้จึงจะพามารู้จักกับภาวะหมดไฟ พร้อมวิธีรับมือเพื่อให้กลับมามีไฟอีกครั้ง

ภาวะหมดไฟ คืออะไร

          ภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) คือภาวะที่มักจะเกิดในคนที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเร่งรีบ และกดดัน จนเกิดความเหนื่อยล้าสะสม ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแรง มีทัศนคติในแง่ลบกับสิ่งที่ทำ จนรู้สึกไม่อยากทำอะไร รวมถึงทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอีกด้วย ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาว อาจทำให้เกิดโรคเครียด โรคนอนไม่หลับ หรือร้ายแรงถึงขั้นโรคซึมเศร้าได้เลย

 

ภาวะหมดไฟ เกิดจากอะไร

           หลายคนอาจเข้าใจว่าภาวะหมดไฟ เกิดจากการทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงภาวะหมดไฟสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

  • ความคาดหวังที่สูงเกินไป: ในการทำงาน หลายคนจะตั้งเป้าหมายเอาไว้สูง หรือต้องการให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ แต่เมื่อทำไม่ได้ตามที่ตั้งใจ จะก่อให้เกิดความเครียด และรู้สึกหมดไฟได้
  • สภาพแวดล้อมในการทำงาน: สภาพแวดล้อมในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน ถ้าหากเกิดความขัดแย้ง รู้สึกแปลกแยก อาจทำให้รู้สึกไม่อยากทำงาน และก่อให้เกิดภาวะหมดไฟได้ 
  • ภาระงานที่รับผิดชอบมากเกินไป: การจัดการภาระงานที่มากเกินไป จำเป็นต้องใช้เวลานาน และก่อให้เกิดความกดดัน และความกังวล และถ้าค่าตอบแทนไม่สมเหตุสมผล ก็ยิ่งก่อให้เกิดความรู้สึกขัดแย้ง และหมดไฟได้
  • ไม่ได้รับความเชื่อใจ: การไม่ได้รับการยอมรับและความเชื่อใจจากหัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงาน แม้จะทำงานมาเป็นระยะเวลานาน จนไม่มีการเลื่อนตำแหน่งแม้ทำงานออกมาได้ดี มักก่อให้เกิดความรู้สึกท้อแท้ และหมดไฟในการทำงานได้
  • งานที่ไม่เหมาะกับตัวเอง: การทำงานที่ไม่เหมาะกับความสามารถของตัวเอง จะทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่  และทำให้งานออกมาไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จนโดนตำหนิบ่อย ๆ และทำให้รู้สึกหมดไฟได้

อาการของภาวะหมดไฟ

          สำหรับอาการของภาวะหมดไฟ จะแบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ

  • อารมณ์เปลี่ยนแปลง: คนที่มีภาวะหมดไฟ จะรู้สึกเครียด เหนื่อยล้า อ่อนแรง ท้อแท้ สิ้นหวัง รวมถึง หงุดหงิดง่าย ไม่พอใจในงานที่ทำ รู้สึกไม่มีเป้าหมายในการทำงาน หรือทำงานอย่างไม่มีความสุข อาจรวมถึงการไม่อยากมาทำงาน และอยากลาออกจากงานด้วย
  • ทัศนคติแง่ลบ: ในแง่ของความคิด คนที่มีภาวะหมดไฟจะมีทัศนคติในแง่ลบ ทั้งต่องานที่ทำ และเพื่อนร่วมงาน มีความวิตกกังวล รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถ ไม่สามารถจัดการกับปัญหาจากการทำงานได้
  • พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง: มีพฤติกรรมแยกตัว ห่างเหิน ชอบอยู่คนเดียว ไม่มีสมาธิในการทำงาน มีการเข้างานสาย ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน รวมถึงไม่สามารถจัดการงานที่ทำได้

 

ผลกระทบจากภาวะหมดไฟ

          ผลกระทบจากภาวะหมดไฟ จะทำให้นอนไม่หลับ เพราะมีความกังวลตลอดเวลา มีอาการเจ็บป่วย เพราะภูมิคุ้มกันต่ำลง อาจมีการพึ่งแอลกอฮอล์ หรือสารเสพติดมากขึ้น จนทำให้เสี่ยงต่อการเสพติดได้

ดังนั้น ภาวะหมดไฟ จึงเป็นภาวะที่ไม่ควรละเลย และควรรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาว อาจทำให้เสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน รวมถึงโรคซึมเศร้าได้

แนวทางการแก้ภาวะหมดไฟ

           แนวทางการแก้ภาวะหมดไฟ สามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยอาจจะเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงความคิด และพฤติกรรมของตัวเอง ดังนี้

  • พูดคุยกับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน: ในเบื้องต้น แนะนำให้พูดคุยกับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับปัญหาตรง ๆ เพื่อหาทางออกร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปแบบการทำงาน ลดปริมาณงาน เพื่อให้สามารถไปถึงเป้าหมายร่วมกันได้
  • ยอมรับและแก้ไขปัญหา: บางครั้งอาจต้องหันกลับมาทบทวนตัวเอง และยอมรับในสิ่งที่ผิดพลาด เพราะในบางครั้งปัญหาส่วนหนึ่งอาจเกิดจากตัวเราเองก็ได้
  • หากิจกรรมที่ผ่อนคลาย: แนะนำให้หากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง หรืออาจหันมาออกกำลังกาย เพื่อจัดการกับความเครียด โดยในช่วงที่ทำกิจกรรมเหล่านี้อาจไม่ต้องคิดเรื่องงาน เพื่อให้ร่างกายสดชื่น และกระปรี้กระเปร่าขึ้น
  • พักผ่อนให้มากขึ้น: แนะนำให้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และพร้อมต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
  • หันมารักตัวเองให้มากขึ้น: ไม่กดดันตัวเอง และให้เวลากับตัวเองมากขึ้น เพราะในบางครั้งความคาดหวังหรือการตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไป อาจทำให้รู้สึกเครียดโดยไม่รู้ตัวได้
  • ปรึกษาแพทย์: ในกรณีที่แนวทางข้างต้นไม่ช่วยให้อาการหมดไฟดีขึ้น อาจปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหา และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงจนถึงขั้นมีโรคต่าง ๆ แทรกซ้อนได้

 

          ปัญหาภาวะหมดไฟ เป็นอีกปัญหาที่พนักงานออฟฟิศต้องเผชิญ ซึ่งจะส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาว อาจก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้ ดังนั้น แนะนำให้ปรับความคิดและพฤติกรรมของตัวเอง รวมถึงหันมารักตัวเองให้มากขึ้น หมั่นเติมไฟให้ตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

medparkhospital

thairath

ramhospital

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube