จัดฟันดามอน คืออะไร? ต่างจากจัดฟันเหล็กอย่างไร
รอยยิ้มที่มั่นใจและบุคลิกภาพที่ดี คือใบเบิกทางสู่โอกาส หลายคนจึงมองหาการจัดฟันเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ แต่ก็มักจะกังวลกับภาพจำของการจัดฟันแบบเดิมๆ ที่อาจไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์ ด้วยเหตุนี้ การจัดฟันแบบดามอน (Damon System) จึงได้เข้ามาตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ด้วยเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดข้อจำกัดต่างๆ ทำให้การมีรอยยิ้มที่สวยงามเป็นเรื่องที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น
จัดฟันดามอนคืออะไร?
จัดฟันดามอน คือ เทคโนโลยีการจัดฟันแบบติดแน่นที่ไม่ต้องใช้ยางรัด (O-ring) เหมือนการจัดฟันเหล็กทั่วไป และระบบนี้ตัวแบร็คเก็ต (Bracket) ที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะพิเศษให้มีคลิปล็อกในตัว (Self-Ligating) ช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างลวดและแบร็คเก็ต ทำให้ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและนุ่มนวลมากขึ้น ส่งผลให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพสูง ใช้แรงดึงน้อยลง และรู้สึกสบายกว่าเดิม
จัดฟันดามอน VS จัดฟันเหล็กทั่วไป ต่างกันตรงไหน?

เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เราได้สรุปข้อมูลการจัดฟันดามอนและจัดฟันเหล็กทั่วไปจาก Teeth Talk Dental Clinic มาเปรียบเทียบให้ดูในแต่ละประเด็นสำคัญแบบชัด ๆ แล้ว สามารถเช็กความแตกต่างด้วยตัวเองได้เลย
กลไกการทำงานและเครื่องมือ
- จัดฟันดามอน : ใช้แบร็คเก็ตแบบ Self-Ligating ที่มีคลิปล็อกในตัว ทำงานร่วมกับลวดชนิดพิเศษ ทำให้เกิดแรงเสียดทานต่ำ ฟันจึงเคลื่อนที่ได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น
- จัดฟันเหล็ก : ใช้ยางรัด (O-ring) เพื่อยึดลวดให้อยู่ในร่องแบร็คเก็ต ซึ่งการรัดที่แน่นหนานี้ก่อให้เกิดแรงเสียดทานสูง ทำให้การเคลื่อนฟันเป็นไปได้ช้ากว่า
ความรู้สึกเจ็บ
- จัดฟันดามอน : รู้สึกเจ็บหรือตึงน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะใช้แรงกระทำต่อฟันที่เบาและสม่ำเสมอ ทำให้คนไข้รู้สึกสบายกว่าหลังการปรับเครื่องมือในแต่ละครั้ง
- จัดฟันเหล็ก : มักมีความรู้สึกเจ็บหรือปวดฟันมากกว่า โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรกหลังการปรับเครื่องมือ เนื่องจากมีแรงดึงที่สูงจากยางรัดฟัน
ระยะเวลาในการจัดฟัน
- จัดฟันดามอน : ด้วยกลไกที่ทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง จึงช่วยลดระยะเวลาการรักษาโดยรวมให้สั้นลงกว่าการจัดฟันแบบทั่วไปได้
- จัดฟันเหล็ก : อาจใช้ระยะเวลานานกว่า เนื่องจากแรงเสียดทานที่สูงและแรงดึงจากยางที่ไม่คงที่ ทำให้การเคลื่อนฟันต้องใช้เวลามากกว่า
ความถี่ในการพบทันตแพทย์
- จัดฟันดามอน : ไม่จำเป็นต้องพบทันตแพทย์ทุกเดือน โดยทั่วไปจะมีการนัดหมายเพื่อปรับเครื่องมือทุกๆ 6-8 สัปดาห์ ซึ่งสะดวกต่อผู้ที่มีตารางงานรัดตัว
- จัดฟันเหล็ก : จำเป็นต้องพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกเดือน (ประมาณ 4 สัปดาห์/ครั้ง) เพื่อทำการเปลี่ยนยางรัดฟันที่เริ่มเสื่อมสภาพและปรับเครื่องมือ
การดูแลความสะอาด
- จัดฟันดามอน : ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า เพราะการไม่มียางรัดช่วยลดพื้นที่ในการสะสมของเศษอาหารและคราบแบคทีเรีย ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดฟันผุระหว่างจัดฟันลดลง
- จัดฟันเหล็ก : ดูแลความสะอาดยากกว่า เนื่องจากยางรัดฟันเป็นแหล่งสะสมของเศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ได้ง่าย จึงต้องใส่ใจในการแปรงฟันเป็นพิเศษ
จัดฟันดามอนตอบโจทย์ใครบ้าง?

- ผู้ที่มีเวลาน้อย : ด้วยความถี่ในการพบทันตแพทย์ที่น้อยลง (6-8 สัปดาห์/ครั้ง) ทำให้ไม่ต้องลางานหรือเสียเวลาเดินทางมาคลินิกบ่อยๆ
- ผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บปวด : เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่กลัวเจ็บ เพราะกลไกการทำงานที่ใช้แรงนุ่มนวลกว่า ทำให้รู้สึกสบายตลอดระยะเวลาการรักษา
- ผู้ที่ต้องการให้การจัดฟันเสร็จเร็วขึ้น : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีรอยยิ้มสวยเพื่อทันใช้งานในโอกาสสำคัญ เช่น งานแต่งงาน การรับปริญญา หรือการสัมภาษณ์งาน
- ผู้ที่ต้องการสุขอนามัยช่องปากที่ดี : การที่ดูแลความสะอาดง่าย ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพช่องปากที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการจัดฟันได้เป็นอย่างดี
สรุป จัดฟันดามอน ทางเลือกที่คุ้มค่าเพื่อรอยยิ้มที่สวยงามและรวดเร็ว
โดยสรุป การจัดฟันดามอนเป็นนวัตกรรมที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการรอยยิ้มที่สวยงามในเวลาที่รวดเร็วขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการเลือกสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ การมองหาคลินิกที่มีทีมทันตแพทย์มากประสบการณ์และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการวางแผนการรักษาดังเช่นที่ Teeth Talk Dental Clinic จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการลงทุนเพื่อรอยยิ้มครั้งนี้ จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและปลอดภัย





