เปิดเบื้องหลัง ”แฮ็กเกอร์ตี” ถอนชิงแชมป์โลก
ถือเป็นข่าวที่ทำให้แฟนมวยทั่วโลกต้องเสียดาย เมื่อ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135–145 ป.) วัย 28 ปี จากสหราชอาณาจักร ประกาศถอนตัวจากไฟต์ชิงบัลลังก์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต กับ “นาบิล อานาน” นักชกก้านยาวสายเลือดไทย–แอลจีเรีย ที่จะมีขึ้นในศึกใหญ่ ONE 173 วันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
หลังข่าวการถอนตัวเผยแพร่ออกไป แฟนมวยจำนวนมากต่างแสดงความผิดหวัง เพราะไฟต์นี้ถือเป็นหนึ่งในคู่ที่ถูกจับตามองมากที่สุดของปี อย่างไรก็ตาม “เดอะ เจเนอรัล” แฮ็กเกอร์ตี ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านคลิปวิดีโอในเฟซบุ๊กส่วนตัว Jonathan Haggerty เพื่อชี้แจงทุกประเด็น พร้อมอัปเดตอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในช่วงเก็บตัวที่เกาะสมุย ประเทศไทย
แฮ็กเกอร์ตีเล่าว่า ช่วง 2–3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เขาอยู่ในระหว่างการซ้อมอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับไฟต์สำคัญที่สุดในปีนี้ แต่โชคร้ายที่ระหว่างซ้อม เขาได้รับบาดเจ็บหลายจุดต่อเนื่องกัน
“ตอนนี้หลายคนน่าจะทราบแล้วว่าผมต้องถอนตัวจากไฟต์ชิงแชมป์โลกกับ นาบิล ซึ่งพูดตรงๆ ว่าผมเสียใจมากจริงๆ เพราะผมทุ่มเททุกอย่างเพื่อไฟต์นี้ ผมมีทีมงานที่ยอดเยี่ยม และซ้อมอย่างหนักเพื่อให้พร้อมที่สุด แต่โชคร้ายที่มือซ้ายของผมได้รับบาดเจ็บ ต้องเย็บถึง 8 เข็ม และหลังจากนั้นไม่นาน เอ็นหัวไหล่ก็ฉีกจนลามไปถึงกล้ามเนื้อหลัง ผมรู้ทันทีว่ามันไม่ปกติ และผล MRI ก็ยืนยันว่า ผมไม่สามารถขึ้นชกไฟต์นี้ได้”
ยอดกำปั้นวัย 28 ปี ยังฝากข้อความถึงแฟนๆ ทั่วโลกว่า“ผมอยากขอโทษแฟนๆ ทุกคนที่ตั้งตารอ รวมถึงสปอนเซอร์และทีมงานที่ทำงานหนักร่วมกัน ขอบคุณ ONE ที่เข้าใจสถานการณ์ และอยากบอกว่าไม่มีใครในรุ่นนี้ที่ผมอยากเจอมากไปกว่า นาบิล อีกแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการพักรักษาตัว และผมจะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมแน่นอน”
ด้าน ONE Championship ได้ยืนยันการปรับคู่ชกใหม่ โดย “ฮิโรมิ วาจิมะ” อดีตแชมป์ K-1 ชาวญี่ปุ่น ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเข้าร่วม ONE เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จะได้เสียบแทนในฐานะคู่ชกของ “นาบิล อานาน” เปลี่ยนกติกามาเป็น คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต เพื่อให้แฟนมวยยังคงได้ชมไฟต์สุดมันในค่ำคืนนั้น
การถอนตัวของ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” จากศึก ONE 173 นับเป็นเหตุการณ์ที่ส่งแรงสะเทือนพอสมควร ทั้งในมุมขององค์กรมวย ONE Championship เอง และในเส้นทางอาชีพของนักชกชาวอังกฤษคนนี้ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงพีคของอาชีพ หลังจากสร้างชื่ออย่างโดดเด่นในวงการคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยระดับโลก
ผลกระทบต่อ ONE Championship
เสียบิ๊กไฟต์ที่ดึงกระแสโลก แฮ็กเกอร์ตี ดวล นาบิล ถือเป็นหนึ่งในไฟต์ที่แฟนมวยทั่วโลกรอคอย เพราะเป็นการปะทะกันของสองสไตล์สุดขั้ว นักสู้ผู้ดีผู้แม่นยำทางเทคนิค กับดาวรุ่งก้านยาวเลือดไทย–แอลจีเรียที่กำลังมาแรง ไฟต์นี้ถูกโปรโมตอย่างหนัก และถูกมองว่าอาจกลายเป็น “ไฟต์แห่งปี” ของ ONE การต้องเปลี่ยนคู่ชกในช่วงโค้งสุดท้ายจึงส่งผลต่อแรงดึงดูดของรายการโดยตรง
ผลกระทบทางการตลาดและยอดขายบัตร
แม้ ONE จะรีบหาคู่แทนอย่าง “ฮิโรมิ วาจิมะ” มาเสียบแทนทันที แต่ชื่อชั้นและความเป็นที่รู้จักของวาจิมะในตลาดโลกยังไม่เทียบเท่าแฮ็กเกอร์ตี การโปรโมตช่วงสุดท้ายจึงต้องเร่งสร้างความน่าสนใจใหม่ให้กับผู้ชม โดยเฉพาะในตลาดตะวันตกที่แฮ็กเกอร์ตีมีฐานแฟนจำนวนมาก
ทดสอบระบบบริหารจัดการของ ONE
การรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้เป็นบททดสอบสำคัญของ ONE Championship ว่าสามารถจัดการวิกฤตได้รวดเร็วเพียงใด ซึ่งจากการประกาศคู่ใหม่ในเวลาอันสั้น แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและศักยภาพในการรักษามาตรฐานของรายการระดับโลก
ขณะที่ ผลกระทบต่อ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี”
โอกาสทองที่ต้องพักเบรกชั่วคราว
แฮ็กเกอร์ตีกำลังจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักสู้คนแรกที่มีลุ้นครองเข็มขัดทั้งมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งในรุ่นแบนตัมเวต หากคว้าชัยชนะเหนือ “นาบิล อานาน” ได้ เขาจะกลายเป็น “สองบัลลังก์” อย่างเต็มภาคภูมิ แต่การบาดเจ็บครั้งนี้ทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก และอาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวหลายเดือน
ผลกระทบต่อโมเมนตัมในอาชีพ
ช่วงหลัง แฮ็กเกอร์ตีอยู่ในฟอร์มร้อนแรงสุดขีด ทั้งชัยชนะเหนือ น้องโอ๋ และการป้องกันแชมป์ที่สวยงาม แต่การถอนตัวครั้งนี้อาจทำให้โมเมนตัมความต่อเนื่องของเขาสะดุด โดยเฉพาะในโลกมวยที่คู่แข่งในรุ่นเดียวกัน เช่น นาบิล หรือ ฟาบริซิโอ อานดราเดร ก็เริ่มขยับขึ้นมาแย่งพื้นที่สื่ออย่างรวดเร็ว
ด้านภาพลักษณ์และความเป็นมืออาชีพ
ในอีกมุมหนึ่ง การออกมาชี้แจงด้วยตัวเองอย่างตรงไปตรงมา และแสดงความรับผิดชอบต่อแฟนๆ กลับกลายเป็นจุดบวกสำคัญที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของแฮ็กเกอร์ตีในฐานะ “นักสู้มืออาชีพตัวจริง” แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นคุณค่าที่แฟนกีฬาทั่วโลกชื่นชม
ผลต่ออนาคตในเส้นทางแชมป์โลก
หากฟื้นตัวได้เร็วและกลับมาชกได้ในปีหน้า แฮ็กเกอร์ตี อาจยังมีโอกาสทวงคืนไฟต์นี้กับนาบิลในอนาคต แต่หากอาการไหล่และมือไม่หายสมบูรณ์ อาจต้องเปลี่ยนเส้นทางไปเน้นคิกบ็อกซิ่งชั่วคราว เพื่อถนอมสภาพร่างกายก่อนกลับสู่มวยไทยอีกครั้ง
แม้จะเป็นข่าวที่สร้างความผิดหวัง แต่การตัดสินใจของ “แฮ็กเกอร์ตี” ก็ได้รับเสียงชื่นชมในความมืออาชีพ และความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง รวมถึงแฟนกีฬาทั่วโลกที่ต่างรอวันที่เขาจะกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
