สกัดขบวนการโกงสิทธิ์รัฐ รวบร้านค้าทุจริต “ปิดเกม รับ–แลก–ลวง”
สกัดขบวนการโกงสิทธิ์รัฐ รวบร้านค้าทุจริตป่วนโซเชียลหลอกแลกเงินสด CIB โดย บก.ปอศ. ร่วมกระทรวงการคลัง เปิดปฏิบัติการปิดเกม “รับ–แลก–ลวง”
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. ร่วมกับ กระทรวงการคลัง โดย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการทุจริต ในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” หลังตรวจพบมีการใช้โซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อความหลอกลวง
เชิญชวนให้ประชาชนแลกเงินสดจากสิทธิโครงการ โดยไม่ต้องใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการจริง ซึ่งเป็นการบิดเบือนวัตถุประสงค์ของโครงการ และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
ปฏิบัติการครั้งนี้นำโดย พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและ พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สืบสวนตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย บนโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ได้แก่
หญิง วัย 24 ปี จับกุมได้ที่ ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
หญิง วัย 31 ปี จับกุมได้ที่ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
หญิง วัย 26 ปี จับกุมได้ที่ ต.เนินกว้าว อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน
“โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
รวมถึงเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1) และ (2) ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบของกลางหลายรายการ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง ซึ่งคาดว่าใช้ติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และติดต่อสื่อสาร กับเครือข่ายผู้ร่วมทุจริต รวมถึงเอกสารลงทะเบียนร้านค้า ข้อมูลเกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิ์ผิดวัตถุประสงค์
การสอบสวนเบื้องต้น น.ส.วันทนีย์ ให้การรับสารภาพว่าเห็นคนอื่นทำแล้วได้รายได้ จึงลองทำตาม ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 รายยังคงให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดี
ตำรวจสอบสวนกลางยืนยันจะเร่งปราบปรามขบวนการเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้กระทบต่อการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก ของโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูล จากช่องทางทางการก่อนเชื่อหรือแชร์ข้อความบนโซเชียล เพราะการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ อาจทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับความผิดโดยไม่รู้ตัว
ตำรวจเน้นย้ำว่า “อย่าหลงเชื่อช่องทางลัดเพื่อเงินส่วนต่างเล็กน้อย” เพราะนอกจากจะเสี่ยงถูกดำเนินคดีแล้ว ยังอาจถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมทุกโครงการของรัฐ และต้องคืนเงินให้รัฐบาลในภายหลัง
ทั้งนี้ หากพบเบาะแสหรือสงสัยว่ามีการทุจริตในโครงการ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที เพื่อร่วมกันปกป้องโครงการที่ตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





