สภาฯ ลงมติ 183 เสียง คุมเข้มนิรโทษฯเยาวชน – คดี ม.112 แบบมีเงื่อนไข
มติสภาฯ 183 เสียง ปิดช่องนิรโทษกรรม เยาวชน – ผู้ต้องคดีม.112 แบบมีเงื่อนไข หลังพักประชุมไป 1 ชั่วโมง ให้วิปตกลงกัน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ… ซึ่ง คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จในวาระ 2 โดยในช่วงหนึ่งของการอภิปรายในมาตรา 3 ว่าด้วยเงื่อนไขของการไม่นิรโทษกรรมให้กับผู้ที่มีคดีสำคัญติดตัว
คือ ความผิดฐานทุจริตหรือประพฤติมิชอบ การกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 การกระทำความผิดที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การกระทำผิดต่อส่วนตัว หรือการกระทำที่ต้องรับผิดต่อบุคคลที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐเป็นการเฉพาะรายหรือเฉพาะกลุ่ม
ทั้งนี้ พบว่า กมธ. แก้ไขเนื้อหา โดยเพิ่มเงื่อนไข ห้ามนิรโทษกรรม ในคดีที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297
โดยการอภิปราย พบว่า กมธ.เสียงข้างน้อย ได้สงวนความเห็นให้ปรับแก้ไขเนื้อหา เช่น น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน ขอให้ปรับแก้เนื้อหาโดยมีสาระให้ เยาวเชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีที่กระทำความผิดนั้นได้รับการนิรโทษกรรม
ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน กมธ.เสียงข้างน้อย ที่ได้สงวนความเห็น โดยเสนอให้นิรโทษกรรม คดี 112 อย่างมีเงื่อนไข คือ เฉพาะผู้ที่ยอมรับมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำที่ให้อำนาจแก่กรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุขกำหนด เพราะตนได้พยายามพูดคุยกับหลายฝ่ายที่เห็นต่างกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ กลุ่มบุคคลที่แสดงออกทางการเมืองและดำเนินคดีมาตรา 112 หลายครั้ง จำนวนมากนั้น เข้าอกเข้าใจมากขึ้น
และไม่ปฏิเสธเสียทีเดียวต่อการปรองดองสร้างเสริมสังคมสันติสุข ด้วยการนิรโทษกรรมคดี 112 เพียงแต่ว่าประเด็นร่วมที่สำคัญ คือ ความกังวลเมื่อนิรโทษกรรมผู้ทำผิดหรือถูกกล่าวหาว่าทำผิด คดี 112 ว่าจะกลับมาทำมาแสดงออกทางการเมืองกับสิ่งที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยหรือพึงประสงค์อีก
มีสส.พรรคประชาชน รวมถึง นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้าอภิปรายสนับสนุนกมธ.เสียงข้างน้อย อย่างไรก็ดีในการอภิปรายของ กมธ.เสียงข้างมาก รวมถึงสส. พรรคภูมิใจไทย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติและสส.พรรคเพื่อไทย เห็นแย้ง
เนื่องจากมองว่าเป็นการขัดกับหลักการ และเสี่ยงต่อที่ร่างกฎหมายจะไม่ผ่านในชั้นการพิจารณาของวุฒิสภา โดยช่วงหนึ่งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) หารือต่อที่ประชุมว่าขอให้พักการประชุม เพื่อให้กมธ.ทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน
ภายหลังพักการประชุมไปประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากมีข้อเห็นแย้งระหว่างกรรมาธิการ ในร่างมาตรา 3 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานกมธ. ได้แจ้งว่า ที่ประชุมมีข้อยุติว่า ร่างมาตรา 3 นั้น จะเป็นไปตามที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอ แต่ในร่างมาตรา 9/1 นั้น ได้ปรับแก้ไขเนื้อหาดังนั้นเชื่อว่าสภาจะเห็นชอบ
อย่างไรก็ตาม น.ส.ศศินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย ยืนยันการปรับแก้เนื้อหาที่เพิ่มการนิรโทษกรรมให้เยาวเชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะเชื่อว่า ไม่ขัดต่อหลักการ อีกทั้งการกำหนดประเด็นเยาวชนไม่จำเป็นต้องดูรายละเอียดขนาด ว่าการถูกดำเนินคดีอยู่ในขั้นตอนใด จากที่กมธ.พิจารณาคดีปิดสนามบิน คืนสิทธิล้มละลาย ระงับค่าเสียหายหรือการกระทำของผู้ใหญ่ที่หนักกว่ามาก ไม่ต้องถกเงื่อนไขต่างๆ
“รู้สึกผิดหวังว่าต้องหาทางออกแบบอ้อมๆ เลียบๆ เคียงๆ และไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าคนที่ได้รับประโยชน์ต้องการอะไรกันแน่ แม้โหวตวันนี้จะไม่ชนะ แต่ฝากที่ประชุมว่า พ.ร.บ.นี้ สร้างเสริมสันติสุขไม่ได้ หากมองคนอีกกลุ่มเป็นคนตรงข้าม หาวิธีเลี่ยงบาลี นิรโทษกรรมกับเยาวชน” น.ส.ศศินันท์ อภิปราย
ทำให้ที่ประชุมได้ลงมติตัดสิน โดยพบว่า มติเสียงข้างมาก 184 เสียง เห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก ขณะที่ 133 เสียงเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างน้อย และที่ประชุมได้พิจารณาในรายละเอียดของมาตราต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





