“ไชยชนก” ยันรบ.ไม่นิ่งปราบสแกมเมอร์ สินบน40ล้าน ให้รอดูเร็ว ๆ นี้
“ไชยชนก” เปิดใจโดนถล่มทุกทาง แต่ไม่ถอย! ยันรัฐบาลไม่นิ่งปราบสแกมเมอร์ เตรียมเสนอ “ซูเปอร์บอร์ดไซเบอร์” เปิดช่องตอบโต้กลับภัยออนไลน์ ขณะคดีสินบน 40 ล้าน “ขอให้รอดูเร็ว ๆ นี้”
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงการเดินหน้าปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ หลังถูกวิจารณ์ว่ารัฐบาล “นิ่งเฉย” ต่อปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนนั้น ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้อยู่เฉย พร้อมชี้ว่าการตั้ง คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ถือเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” เพราะรวบรวมหน่วยงานหลักทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจ ทหาร และหน่วยความมั่นคง เข้ามาทำงานร่วมกัน โดยเรื่องนี้ไม่ใช่แค่โจรออนไลน์ แต่คือความมั่นคงของประเทศ การที่นายกฯ ตั้งคณะกรรมการใหญ่ถือว่าถูกทางและจะทำให้การปราบทรงพลังขึ้น
สำหรับเป้าหมายการปราบสแกมเมอร์ภายใน 4 เดือน นายไชยชนก ยอมรับว่า “ไม่ง่าย” เพราะเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งกัมพูชา แต่ไทยกำลังเตรียมแนวทางใหม่ โดยสั่งศึกษากฎหมาย “Active Cyber Defence 2025” ของญี่ปุ่น ซึ่งอนุญาตให้ทีมป้องกันไซเบอร์ “ตอบโต้กลับ” ผู้โจมตีได้อย่างถูกกฎหมาย
ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม เขาเริ่มใช้แล้ว เราจะเสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณานำมาปรับใช้กับไทย เพื่อให้ทีมไซเบอร์ของรัฐสามารถป้องกันและโต้กลับได้ ไม่ต้องรอให้โดนก่อน พร้อมเผยว่า ปลายเดือนนี้จะเดินทางไปลงนามความร่วมมือด้านไซเบอร์กับองค์การสหประชาชาติ (UN)
ส่วนกรณีฝ่ายค้านเปิดตัว “เบน สมิธ” เชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์และโยงถึงนักการเมือง นายไชยชนก ระบุว่า ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ทุกอย่างอยู่ในขั้นรวบรวมข้อมูลส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงดีอีเอสหรือตำรวจ พร้อมย้ำว่า “ใครมีหลักฐาน ต้องกล้านำออกมา เพื่อให้ดำเนินการเร็วขึ้น”
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ตนเปิดตัวมา โดนหมดทุกทาง ทั้งข่าว ทั้งแรงกดดัน แต่ก็ไม่หยุดทำงาน คนคิดดีทำดี กลับกลายเป็นเป้าโจมตี อันนี้ก็ต้องทำใจ แต่ยืนยันเดินหน้าต่อแน่นอน
ขณะคดีสินบน 40 ล้านบาท ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการจ่ายเพื่อไม่ให้รัฐบาลเดินหน้าปราบสแกมเมอร์ นายไชยชนก ตอบเพียงว่า “รอดูเร็ว ๆ นี้ ตอนแรกคิดว่า 30 วัน แต่ตอนนี้ข้อมูลมาไวกว่าเดิม ขอให้ติดตาม” พร้อมย้ำว่ากระทรวงดีอีเอสยังคงเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายเว็บต้องสงสัย และยืนยันว่าหากมีหลักฐานโยงใคร “ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน” จะดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





