สภาผู้บริโภคขอรัฐ เยียวยา ปชช. ได้รับผลกระทบเหตุถนนทรุด
สภาผู้บริโภค ชงรัฐแก้ปัญหา “ถนนทรุด” เยียวยาความเสียหายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมเสนอเปิดเผยข้อมูลมาตรฐานความปลอดภัยโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่
เหตุการณ์ถนนทรุดตัวครั้งใหญ่บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถนนสามเสน เขตดุสิต เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กันยายน 2568 กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สร้างผลกระทบต่อคนจำนวนมาก ไม่เพียงแต่ทำให้พื้นถนนพังเสียหาย การจราจรถูกปิดกั้นจนรถติดหนัก แต่ยังทำให้โรงพยาบาลต้องหยุดให้บริการผู้ป่วยนอก และอพยพผู้ป่วยกว่า 3,000 คนออกจากอาคารใกล้จุดทรุดตัวเพื่อความปลอดภัย โดยสาเหตุสำคัญของการทรุดตัวครั้งนี้เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน
นายพรพรหม โอกุชิ รองหัวหน้าฝ่ายนโยบายและนวัตกรรม สภาผู้บริโภค กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพียง “อุบัติเหตุจากการก่อสร้าง” แต่คือเรื่องสิทธิของประชาชนที่ควรได้รับการคุ้มครอง เพราะคนทุกคนมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการเดินทางอย่างปลอดภัย ซึ่งหากประชาชนได้รับบาดเจ็บ สูญเสียชีวิต หรือทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบชดเชยและเยียวยาอย่างเป็นธรรม รวมทั้งควรมีการกำหนดบทลงโทษหรือมาตรการทางแพ่งแก่ผู้รับเหมาหรือหน่วยงานที่ละเลยหน้าที่จนก่อให้เกิดความเสียหาย
ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ได้ก่อให้เกิดคำถามสำคัญว่า ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า มาตรฐานการป้องกันการเคลื่อนตัวของดินถูกกำหนดไว้อย่างไร มีมาตรการตรวจสอบที่ชัดเจนและต่อเนื่องเพียงพอหรือไม่ และหากพบความบกพร่องมีแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก
เพราะที่ผ่านมาไม่เพียงแต่กรณีถนนทรุดครั้งนี้ แต่ยังมีเหตุการณ์คนงานตกลงไปในหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่เป็นข่าวมาแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สะท้อนถึงช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งประชาชนมีสิทธิที่จะรับรู้ข้อมูลเหล่านี้อย่างโปร่งใส
“เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนให้หน่วยงานรัฐทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัยของโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และดำเนินการอย่างโปร่งใสเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย สร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะได้รับการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานในการเดินทางอย่างปลอดภัย” นายพรพรหม ระบุ
ดังนั้น สภาผู้บริโภคจึงขอเรียกร้องให้รัฐเปิดเผยข้อมูลที่ประชาชนควรได้รับ ดังนี้
1. มาตรฐานการก่อสร้าง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องชี้แจงว่ามีการกำหนดมาตรฐานด้านวิศวกรรม ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมอย่างไร รวมไปถึงการระบุหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบและบังคับใช้มาตรฐานเหล่านี้อย่างชัดเจน
2. มาตรการการป้องกันดินเคลื่อนและการทรุดตัวของพื้นผิว โดยต้องมีการอธิบายอย่างชัดเจนว่ามีมาตรการใดในการป้องกันดินไหล การทรุดตัว และการเกิดช่องว่างใต้ดินและต้องเปิดเผยวิธีการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการก่อสร้าง รวมถึงกลไกการแก้ไขเมื่อพบความผิดปกติ
เช่น การอัดดินเสริม การตรวจสอบด้วยเทคโนโลยี หรือการซ่อมเสริมทันทีที่พบความเสี่ยง ซึ่งประเด็นนี้มีความสำคัญยิ่ง เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีทั้งเหตุการณ์ถนนทรุด และกรณีคนงานตกลงไปในหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างในการป้องกัน
3. ผลการตรวจสอบและการติดตามความปลอดภัย ต้องมีการเผยแพร่รายงานการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ให้ประชาชนหรือองค์กรผู้บริโภคสามารถเข้าถึงรายงานได้ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลอย่างทันท่วงที และเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ก่อสร้างมั่นใจว่าจะไม่ถูกละเลยผลกระทบ เช่น เสียงดัง ฝุ่นละออง การสั่นสะเทือน รวมไปถึงความเสี่ยงต่ออาคารบ้านเรือนโดยรอบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





