สภาฯ รับหลักการร่าง พรบ.คุ้มครองแรงงาน 2 ฉบับ
สภาฯ รับหลักการร่าง พรบ.คุ้มครองแรงงาน 2 ฉบับ ตั้ง กมธ.พิจารณาทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ลาพักร้อนไม่น้อยกว่า 10 วัน และให้สิทธิ์ลูกจ้างหญิงลาปวดประจำเดือน 3 วัน ไม่รวมในลาป่วย พร้อมลาดูแลคนใกล้ชิดและจัดมุมให้นมบุตร
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (24 ก.ย.68) ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ร่วมกัน จำนวน 2 ฉบับ โดยฉบับแรก นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กับคณะ เป็นผู้เสนอ ส่วนฉบับที่ 2 นางสาววรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กับคณะ เป็นผู้เสนอ โดย สส.ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนให้คุ้มครองแรงงานเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตเป็นจริงและได้รับความเป็นธรรม เพราะหากแรงงานได้รับการพักผ่อน ที่เพียงพอจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งผลดีกับเศรษฐกิจ โดยหลังการอภิปรายที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับ และกำหนดแปรญัตติในชั้นคณะกรรมาธิการ 15 วัน
สำหรับร่างฯ ฉบับของนายจรัส มีสาระสำคัญ คือ เสนอให้เวลาทำงานของลูกจ้างใน 1 สัปดาห์ ต้องไม่เกิน 40 ชั่วโมง ยกเว้นงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างให้ภายในสัปดาห์ต้องไม่เกิน 35 ชั่วโมง รวมถึงให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ ไม่น้อยกว่า 2 วัน ต่อสัปดาห์ โดยวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องมีระยะห่างกันไม่เกิน 5 วัน นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ลูกจ้างที่ทำงานต่อเนื่องครบ 120 วัน มีสิทธิลาหยุด พักผ่อนประจำปี ไม่น้อยกว่า 10 วัน ทำงาน และในปีต่อมานายจ้างอาจกำหนดวันลาหยุดพักผ่อนประจำปี ให้มากกว่า 10 วัน ก็ได้ ส่วนลูกจ้างซึ่งยังทำงานไม่ครบ 120 วัน อาจกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้าง โดยคำนวณให้ตามส่วน
ขณะที่ ร่างฯ ฉบับของนางสาววรรณวิภา เน้นคุ้มครองลูกจ้างสตรี โดยเสนอให้การจ้างงานมีความเท่าเทียมในทุกด้าน กำหนดให้การลาเนื่องจากมีประจำเดือนไม่ให้ถือว่าเป็นวันลาป่วย โดยลาได้ไม่เกิน 3 วันต่อเดือน ไม่นับรวมวันหยุดที่ มีในระหว่างลา ทั้งนี้ ต้องจัดให้มีสถานที่ที่เหมาะสมในการให้นมบุตรหรือบีบเก็บน้ำนมในที่ทำงานไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ตลอดระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปีหลังคลอด รวมถึงให้ลูกจ้างมีสิทธิลาไปดูแลบุคคลในครอบครัวหรือบุคคล ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด
ที่รักษาอาการป่วยในฐานะผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยที่มีความต้องการการดูแล ทางร่างกายและจิตใจปีละไม่เกิน 15 วันทำงาน หากลาตั้งแต่ 5 วัน ทำงานขึ้นไป นายจ้างอาจให้ลูกจ้างแสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบัน ชั้นหนึ่งหรือใบรับรองของสถานพยาบาลของทางราชการ หรือใบมรณบัตรของบุคคลที่ลูกจ้างลาไปดูแล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





