ประณามกัมพูชา! โจมตี รพ. ไร้มนุษยธรรมผิดอนุสัญญาเจนีวา

“สมศักดิ์” สรุปตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมประการโจมตี รพ. ไร้มนุษยธรรมผิดอนุสัญญาเจนีวาร้ายแรง
วันนี้(24 ก.ค. 68) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมด่วนติดตามสถานการณ์เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข
นายสมศักดิ์ เปิดเผยหลังการประชุมว่า เหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชาเปิดฉากโจมตีประชาชนคนไทยและโรงพยาบาลนั้นไม่เพียงแต่เป็นการคุกคามอธิปไตยของชาติแต่ยังเป็นการเหยียบย่ำคุณค่าความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง กระทรวงสาธารณสุขขอประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นซึ่งถือเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอนุสัญญาเจนีวาอย่างร้ายแรง โดยในบรรดาผู้เสียชีวิตมีเด็กผู้บริสุทธิ์รวมอยู่ด้วย
โดยโรงพยาบาลเป็นที่ปลอดภัยเสมอ การจงใจยิงอาวุธใส่สถานพยาบาล ถือเป็นการกระทำที่ข้ามเส้นแบ่งความเป็นมนุษย์ ดังที่มาตรา 18 แห่งอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า โรงพยาบาลพลเรือน จะต้องไม่ถูกโจมตีไม่ว่าสถานการณ์ใด แต่จะต้องได้รับความเคารพและคุ้มครองจากผู้ขัดแย้งตลอดเวลา และการกระทำของกัมพูชาในครั้งนี้เข้าข่ายการละเมิดอย่างร้ายแรงและถือเป็นอาชญากรรมสงครามอย่างชัดเจน ผู้สั่งการและผู้ลงมือจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำอันเลวร้ายนี้เป็นการส่วนตัว และในนามของกระทรวงสาธารณสุขขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาต้องแสดงความรับผิดชอบและหยุดการกระทำโดยทันที และรัฐบาลกัมพูชาต้องร่วมเยียวยาความสูญเสียทั้งหมด
สําหรับสถานการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อเวลา 14.15 น. ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ มีประชาชนเสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 8 ขวบ 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย บาดเจ็บปานกลาง 3 ราย ส่วนทหารบาดเจ็บสาหัส 3 ราย บาดเจ็บปานกลาง 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย ขณะที่จังหวัดอุบลราชธานี มีประชาชนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 4 ราย จังหวัดศรีสะเกษ มีประชาชนเสียชีวิต 8 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 15 ปี 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย บาดเจ็บปานกลาง 8 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย และมีทหารเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีประชาชนบาดเจ็บปานกลาง 1 ราย รวมมีประชาชนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 24 ราย ทหาร เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 7 ราย
ในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานีมีโรงพยาบาลเสี่ยง 3 แห่ง คือ รพ.น้ำยืน รพ.น้ำขุ่น และ รพ.นาจะหลวย โดยมีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม รพ.ทุ่งศรีอุดม และ รพ.บุณฑริก
จังหวัดศรีสะเกษมีโรงพยาบาลเสี่ยง 4 แห่ง คือ รพ.กันทรลักษ์ทรพ.ขุนหาญ รพ.ภูสิงห์ และ รพ.ขุขันธ์ โดยมีการส่งต่อผู้ป่วยไปยัง รพ.ศรีสะเกษ รพ.กันทรารมย์ รพ.ปรางค์กู่ รพ.อุทุมพรพิสัย รพ.ศรีรัตนะ รพ.พยุห์ และ รพ.โนนคูณ
จังหวัดสุรินทร์มีโรงพยาบาลเสี่ยง 4 แห่ง คือ รพ.บัวเชด รพ.สังขะ รพ.กาบเชิง และ รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยมีการส่งต่อผู้ป่วยไปยัง รพ.ปราสาท รพ.ศรีขรภูมิ รพ.ท่าตูม รพ.รัตนบุรี รพ.ลำดวน รพ.จอมพระ รพ.เขวาสินรินทร์ รพ.สำโรงทาบ รพ.โนนนารายณ์ รพ.สนม รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน และ รพ.กระสัง บุรีรัมย์
จังหวัดบุรีรัมย์มีโรงพยาบาลเสี่ยง 2 แห่ง คือ รพ.บ้านกรวด และ รพ.ละหารทราย โดยมีการส่งต่อผู้ป่วยไปยัง รพ.โนนดินแดง รพ.ประโคนชัย รพ.นางรอง และ รพ.บุรีรัมย์
โดยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ บางส่วนของจังหวัดเป็นชายแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชาในรัศมีอาวุธสงครามที่กัมพูชายิงลงมา อย่างที่จังหวัดศรีสะเกษ โรงพยาบาลกันทรลักษ์ ห่างจากชายแดน 50 กิโลเมตร ระเบิดมาตกใกล้โรงพยาบาล ประมาณ 3 กิโลเมตร และไปตกที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ปั๊มน้ำมัน มีความเสียหายมาก ในจังหวัดสุรินทร์ระเบิด RPG มาตกที่โรงพยาบาลพนมดงรัก ซึ่งห่างจากชายแดน 10 กิโลเมตร จุดที่ 3 อ.บ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ห่างจากชายแดน 30 กิโลเมตร จุดที่ 4 อำเภอน้ำยืน อุบลราชธานีห่าง 40 กิโลเมตร จึงจำเป็นต้องอพยพ ทั้งผู้ป่วยและประชาชนออกมาให้ห่างจากชายแดนในระยะ 50 กิโลเมตร ที่ถือเป็นพื้นที่ปลอดภัย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews