Home
|
ไลฟ์สไตล์

ขจัดเพนพอยท์ของการส่งของออนไลน์ ส่งยังไงให้ดีทั้งผู้ส่ง-ผู้รับ

Featured Image

ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การส่งของออนไลน์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทว่าเบื้องหลังความสะดวกสบายนี้ ยังมี “เพนพอยท์” หรือปัญหาที่สร้างความหงุดหงิดใจให้ทั้งผู้ส่งและผู้รับ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจปัญหาเหล่านั้น พร้อมแนวทางแก้ไข และเทคนิคที่ช่วยให้การส่งของออนไลน์ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น

เพนพอยท์ (Pain Point) ของการส่งของออนไลน์ในปัจจุบัน
ปัญหาที่พบได้บ่อยในการส่งของออนไลน์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้า ความเสียหาย หรือความไม่พึงพอใจ มีดังนี้
  1. ความล่าช้าในการจัดส่ง
    ส่วนใหญ่เกิดจากปริมาณพัสดุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, การจัดการคลังสินค้าที่ไม่ดีพอ, ปัญหาการขนส่ง (รถติด, สภาพอากาศ), หรือแม้กระทั่งการให้ข้อมูลที่อยู่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดผลกระทบ เช่น ผู้รับได้รับของช้ากว่ากำหนด, ผู้ส่งเสียโอกาสทางธุรกิจ, ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น
  1. พัสดุเสียหายหรือสูญหาย
    เกิดการบรรจุหีบห่อไม่แข็งแรงพอ, การจัดเรียงพัสดุที่ไม่เหมาะสมในระหว่างขนส่ง, การจัดการที่ไม่ระมัดระวังของเจ้าหน้าที่, หรือการโจรกรรม ส่งผลให้ผู้รับไม่ได้รับสินค้าตามสภาพที่ควรจะเป็น, ผู้ส่งต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการชดเชย รวมไปถึงการเสื่อมเสียชื่อเสียง
  1. การติดตามสถานะพัสดุที่ไม่แม่นยำ
    สาเหตุเกิดจากระบบติดตามที่ล้าสมัย, การอัปเดตข้อมูลล่าช้าหรือไม่ครบถ้วน, การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการขนส่งกับแพลตฟอร์มที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ผู้รับไม่ทราบสถานะที่แท้จริงของพัสดุ, ผู้ส่งไม่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกค้าได้
  1. ปัญหาการติดต่อประสานงาน
    เกิดจากเบอร์โทรศัพท์ผู้รับไม่ถูกต้อง, ผู้รับไม่รับสาย, พนักงานส่งของไม่สามารถติดต่อผู้รับได้, ช่องทางการสื่อสารระหว่างผู้ส่งและผู้ให้บริการขนส่งไม่สะดวก ทำให้พัสดุถูกตีกลับ, ความล่าช้าในการจัดส่ง, ผู้รับเสียโอกาสในการได้รับสินค้า
  1. ค่าบริการที่สูงและซับซ้อน
    สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโครงสร้างราคาที่แตกต่างกันไปในแต่ละผู้ให้บริการ ค่าบริการเสริมที่ไม่ชัดเจน รวมถึงการคำนวณน้ำหนัก/ขนาดที่อาจคลาดเคลื่อน จึงส่งผลกระทบให้ผู้ส่งแบกรับต้นทุนที่สูง, ผู้รับอาจต้องจ่ายค่าส่งที่ไม่คาดคิด
วิธีแก้ไขปัญหาและเทคนิคสำหรับผู้ส่ง-ผู้รับสินค้าออนไลน์
การขจัดเพนพอยท์เหล่านี้ ต้องอาศัยความร่วมมือและการปรับปรุงจากทั้งสองฝ่าย เช่น
สำหรับผู้ส่ง
  1. เทคนิคลดความเสี่ยงพัสดุเสียหายระหว่างขนส่ง
    ด้วยการบรรจุหีบห่อที่แข็งแรงและเหมาะสม เลือกกล่องที่แข็งแรงและมีขนาดพอดีกับสินค้า, ใช้วัสดุกันกระแทก (กันกระแทกแบบบับเบิ้ล, โฟม, กระดาษฝอย) ให้เพียงพอ, ปิดผนึกกล่องด้วยเทปอย่างแน่นหนา, สำหรับสินค้าเปราะบางควรติดสัญลักษณ์ “ระวังแตก” ให้ชัดเจน
  1. เทคนิคเปรียบเทียบผู้ให้บริการหลายเจ้าเพื่อเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เชื่อถือได้
    โดยควรเปรียบเทียบผู้ให้บริการส่งของออนไลน์ทั้งเรื่องความน่าเชื่อถือ, ราคา, ความเร็วในการจัดส่ง, ระบบติดตามสถานะ และบริการลูกค้า โดยควรอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของสินค้าและลูกค้า
  1. เทคนิคลดโอกาสพัสดุส่งผิดหรือพนักงานติดต่อผู้รับไม่ได้
    โดยให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ตรวจสอบชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของผู้รับอย่างถี่ถ้วน ระบุจุดสังเกตหรือข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็น (เช่น ชื่ออาคาร, ชั้น, ห้อง, ซอยย่อย) หากเป็นไปได้
  1. เทคนิคสร้างความสบายใจให้ผู้รับ และลดคำถามเกี่ยวกับสถานะพัสดุ
    โดยการใช้ระบบติดตามสถานะพัสดุให้เกิดประโยชน์ ส่งหมายเลขพัสดุให้ผู้รับทันทีที่ส่งของ และแนะนำช่องทางการตรวจสอบสถานะ ให้ข้อมูลอัปเดตหากเกิดความล่าช้าที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
สำหรับผู้รับ
  1. เทคนิครับสินค้าได้รวดเร็วและถูกต้อง
    ก่อนสั่งซื้อสินค้า ควรตรวจสอบข้อมูลการจัดส่งให้ถูกต้อง และยืนยันชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของตนเองทุกครั้ง เพื่อป้องกันการส่งผิดหรือล่าช้า
  1. เทคนิควางแผนการรับสินค้าได้ล่วงหน้า และแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
    โดยติดตามสถานะพัสดุอย่างสม่ำเสมอ ใช้หมายเลขพัสดุที่ผู้ส่งให้มา ตรวจสอบสถานะผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการขนส่ง หากพบความผิดปกติควรรีบติดต่อผู้ส่งหรือผู้ให้บริการทันที
  1. เทคนิคลดโอกาสพัสดุถูกตีกลับ หรือเกิดความล่าช้าในการจัดส่ง
    เตรียมพร้อมสำหรับการรับพัสดุ โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะมีคนอยู่บ้านหรือที่ทำงานเพื่อรับพัสดุในช่วงเวลาจัดส่งที่คาดการณ์ไว้ หากไม่สะดวก ควรแจ้งพนักงานส่งของหรือผู้ส่งล่วงหน้าเพื่อตกลงวิธีการรับ เช่น ฝากเพื่อนบ้าน, นัดวันเวลาใหม่
  1. เทคนิคการเคลมหรือแจ้งผู้ส่งได้รวดเร็วหากสินค้าภายในเสียหาย
    ควรตรวจสอบสภาพพัสดุเมื่อได้รับทันที โดยตรวจสอบสภาพกล่องภายนอก หากพบร่องรอยความเสียหายที่ชัดเจน ควรแจ้งพนักงานส่งของและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเซ็นรับ

จะเห็นได้ว่า การส่งของออนไลน์ให้ดีทั้งผู้ส่งและผู้รับ ไม่ใช่เรื่องยาก หากทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน ใส่ใจในรายละเอียด และนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ การขจัดเพนพอยท์ต่าง ๆ จะทำให้ประสบการณ์การซื้อขายออนไลน์เป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และสร้างความพึงพอใจให้กับทุกฝ่ายในที่สุด

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube