“ทราย สก๊อต” เปิดใจภาพยนตร์เรื่องแรก ยันไม่ทิ้งงานรักษ์โลก
“ทราย สก๊อต” เปิดใจภาพยนตร์เรื่องแรก บทบาทเทวดาอบอุ่นใน “เลี้ยงรุ่น” ชอบความท้ทาย ยันไม่ทิ้งงานรักษ์โลก เตรียมลงพื้นที่หลายจังหวัด
หลายคนคงรู้จักกับหนุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่าง “ทราย สก๊อต” ที่ก่อนหน้านี้คอยทำคอนเทนต์บอกกล่าวนักท่องเที่ยวเพื่อรักษาธรรมชาติ ทั้งยังเป็นทายาทสิงห์อีกด้วย และด้วยทัศนคติบวกกับนิสัยที่น่ารักทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้รับโอกาสที่หลากหลาย วันนี้ที่งานงานเปิดตัว ภาพยนตร์ “เลี้ยงรุ่น” จากค่าย GOLD FIGHT จึงได้จ่อไมค์พูดคุยกับเขาว่า
“การร่วมแสดงภาพยนตร์ครั้งนี้ ตนชอบทำอะไรที่ท้าทาย ลองวิธีใหม่ ๆ สื่อกับหนังเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าถึงคน ทำให้มีความอบอุ่น มันไม่ต่างกับที่ตนทำคอนเทนต์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เป็นอีกอย่างที่ตนลองทำ ไม่ได้ตัดสินใจยาก เพราะตนทำอะไรที่ยากกว่านี้มาแล้ว เหมือนแค่ลองทำงานสร้างสรรค์อีกแบบ ตนจบแอนิเมชั่น ด้านศิลปะคุ้นเคยอยู่แล้ว อ่านบทก็ดี ตนไม่ค่อยดูหนังผีเพราะไม่กลัว ตอนอ่านบทเกี่ยวกับเทวดาไม่ต้องเฟคอะไรเยอะ ตนคิดว่าเป็นบทเล็กที่สร้างความอบอุ่นเลยยอมทำ
เรื่องความกดดัน เดือนที่แล้วตนกดดันมากกว่า แต่อันนี้เป็นเรื่องสร้างสรรค์เลยไม่กดดัน โอเค และที่ร้องเพลงในร้องข้ามกำแพงหวังว่าทุกคนชอบ ตนร้องจากใจ วันนั้นคุยกับทีมงานตนบอกว่ารู้จักแต่เพลงยุค90 ตอนส่งเพลงมาเลยอยากร้อง ตอนหลอกไม่เก่ง เห็นแล้วเหมือนตรงกับความในใจมันจะง่าย เปิดโอกาสมีซิงเกิล
ทางด้านของการแสดงมีไอดอลเป็น “ทอม ครูซ” ชอบที่เขาเล่นบทพลังบวก มีความสามารถด้านร่างกาย ทัศนคติการดูแลร่างกาย ใช้ชีวิตสมดุล ส่วนนักแสดงไทยชอบ “พีพี กฤษฎ์” ตยรู้จักจาาเพลง ชอบเพลงคิดว่าเขาน่ารัก ตนเป็นคนขี้เขิน พอไม่ได้พูดเรื่องทะเล ก็พยายามที่จะเบา ๆ ตนมั่นใจที่สุดตอนพูดเรื่องสิ่งแวดล้อมมันไม่มีพื้นที่สีเทา
อนาคตหวังว่าอยากทำงานเกี่ยววงการบันเทิงที่โยงกับสิ่งที่ตนเคยทำ งานสิ่งแวดล้อมที่เคยทำในอดีตตนออกจากตำแหน่งนั้นมาแล้ว เพราะเป็นที่ตื่นเต้น มีอีกหลายอย่างที่อยากถ่ายทอดให้คนเข้าใจ เดือนนี้ตนไปหลายที่อบรมเด็ก ๆ เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ดูแลททรัพยากร การใช้เสียง จากนั้นมีงานเก็บขยะอีก 2-3 อัน
ตนเปลี่ยนเป็นคนที่ไม่ต้องอนุรักษ์แค่พื้นที่เดียว ตอนนี้ตนทำในทุกที่ได้ เดือนนี้ไปนราธิวาส เลย นครศรีธรรมราช ในเมื่อทรัพยากรไม่เหมือนเดิม สิ่งที่ดีที่สุดคือกระจายความรู้ เอาสิ่งที่เห็นถ่ายทอด ตนทำตนก็เป็นแค่คนคนนึง แต่ถ้าเอาประสบการฯไปกระจายให้เด็ก 200-300 คน ผลมันยิ่งกว่าตนลงพื้นที่ทำคนเดียว ตอนนี้มองถึงอนาคต”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
