“สมศักดิ์” รอเอกสารเพิ่มเติมจากแพทยสภาก่อนพิจารณา ยัน ทำตาม กม.
“สมศักดิ์” รอเอกสารเพิ่มเติมจากแพทยสภาก่อนพิจารณา ยัน ทำตามกฎหมาย ชี้ หากไม่ทำผิด ม.157
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภามีมติ ลงโทษ 3 แพทย์ เกี่ยวกับการรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่ได้รับ หนังสือมติของแพทยสภา มีกรอบการพิจารณา 15 วัน ว่า ตนได้รับข้อมูล จากคณะกรรมการเสนอความเห็นให้สภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)วิชาชีพและเวชกรรม พ.ศ 2525 ซึ่งหมายความว่า คณะกรรมการดังกล่าว ได้ให้คำปรึกษากับตน โดยจะต้องมีการ พิจารณาผ่านคณะกรรมการทั้งหมด 4 ชุด คือ 1.คณะอนุกรรมการจริยธรรม แห่งวิชาชีพเวชกรรม ชุดเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นชุดเริ่มต้นที่รับเรื่องราวร้องเรียนที่ยื่นเรื่องเข้ามาและคณะกรรมการชุดนี้จะมีมติ ส่งให้ชุดที่ 2 คือ คณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ โดยมีคณะกรรมการทั้งหมด 5 คน คณะกรรมการชุดที่ 3 คือคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งจะทำหน้าที่รับเรื่องจากคณะกรรมการชุดที่ 2 โดยจะใช้เวลาพิจารณาไม่นาน ก่อนจะนำเข้า คณะกรรมการชุดใหญ่ คือคณะกรรมการแพทยสภา ที่มีคณะกรรมการ 70 คน ที่จะดำเนินการพิจารณาเรื่องโทษ ซึ่งตนก็ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมไปยังแพทยสภาในครั้งที่ 2 แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คำตอบมา หากได้ข้อมูลแล้วก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ เสนอความเห็นสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ที่ตนได้ตั้งขึ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากถามถึงความคืบหน้า ที่เห็นว่ามติแล้วจะดำเนินการอย่างไร จะยับยั้งหรือไม่ยับยั้ง เรื่องนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะข้อมูลยังไม่ครบถ้วน แต่หากได้เอกสารครบแล้วคณะกรรมการชุดที่ตนตั้งขึ้น ก็จะพิจารณาได้ทันที ส่วนข้อมูลที่ขอเพิ่มเติมไปยังแพทยสภานั้นเป็นข้อมูลในเรื่องใด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นข้อมูลในช่วงท้าย เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับที่ต้องทำงานในมาตรา 25 และจะขอฟังคณะกรรมการที่เสนอความเห็นให้กับตนเป็นหลัก ว่าสภานายกพิเศษมีอำนาจอย่างไร สามารถยับยั้งได้หรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีการตั้งคำถาม ว่าหากในอนาคตมี พ.ร.บ.ฉบับใหม่ นายกสภาพิเศษควรมีอำนาจในการยับยั้งมติของแพทยสภาหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ต้องเปลี่ยนกฎหมายใหม่ เพราะตนทำตามกฎหมาย ถ้าไม่ทำตามกฎหมายก็จะมีความผิด เหมือนกรณีแพทยสภาหากพิจารณาอะไรที่ทำให้ ผู้ที่ถูกพิจารณาโทษคิดว่าตนเองไม่มีความผิด มีการฟ้องร้องขึ้นมา จะเป็นปัญหา เหมือนกับที่ตนหากไม่ดำเนินการหรือทำอะไร ปล่อยเรื่องนี้ไว้เฉยๆ ก็จะถูกฟ้องร้องได้ หากเห็นว่านายกสภาพิเศษ ไม่มีประโยชน์กฎหมายก็ต้องเปลี่ยน แต่เรื่องนี้ตนถูกบังคับด้วยกฎหมายว่าต้องทำงาน
ส่วนกรอบระยะเวลาการพิจารณา 15 วันจะเริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากได้รับข้อมูลครบ ก็จะใช้เวลาในการพิจารณาแค่ 15 วัน ตั้งแต่ได้รับหนังสือจากแพทยสภา และพยายามจะไม่ขอขยายเวลาเพิ่มเติมเมื่อถามถึงกรณีที่แพทยสภาออกมาระบุว่ามีเอกสาร ที่บ่งบอกว่านายทักษิณ ป่วยไม่วิกฤต จะต้องขอเอกสารตรงนี้มาเพิ่มเติมหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่าในส่วนนี้ แพทยสภาได้พิจารณาไปทั้งหมดแล้ว และยังไม่ได้มีการเสนอมายังคณะกรรมการสภานายกพิเศษ และเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายมาตรา 157 ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการแต่ละชุด จึงต้องพิจารณาให้ดี อำนาจหน้าที่ของเรามีเท่าไหร่ก็ต้องทำเท่านั้น
เมื่อถามว่าเห็นคำร้องขอความเป็นธรรมของ 2 แพทย์ โรงพยาบาลตำรวจแล้วหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้ดูแล้วจึงได้มีการขอเอกสารเพิ่มเติมจากแพทยสภา ว่าตรงกับคำร้องขอความเป็นธรรมหรือไม่ ส่วนกรณีที่นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี ระบุว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมา อาจทำให้เสี่ยงการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ นั้นนายสมศักดิ์ ระบุว่า ทุกคนต้องถูกตรวจสอบโดยกฎหมาย คณะกรรมการแพทยสภาทุกชุดก็ต้องระมัดระวัง ว่าอะไรควรหรือไม่ควร ต้องดำเนินการไม่ให้ขัดต่อกฎหมายในมาตรา 157
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





