Home
|
ข่าว

ทองเหวี่ยงมาก ขึ้นสุด ร่วงแรง

 

 

 

มีให้ลุ้นกันทุกๆวัน สำหรับราคาทองว่า “จะพุ่ง” หรือ “จะร่วง” หลังจากที่ผ่านมาราคาทองเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นว่าเล่น โดยคาดการณ์กันว่าราคาทองไทยจะขึ้นไปแตะ 50,000 บาทต่อบาททองคำ

 

 

 

ล่าสุด ราคาทองส่งท้ายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เปิดตลาดเมื่อเวลา 09.03 น. ราคาปรับลง 50 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งระหว่างวันราคาปรับขึ้นลงรวม 9 ครั้ง

 

ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ราคาทองปรับขึ้น 1,850 บาทต่อบาททองคำ ราคาสูงสุดอยู่ที่ 47,450 บาท ต่ำสุด 44,600 บาท

 

อย่างไรก็ตาม เริ่มต้นเดือนมีนาคม วันที่ 1 ราคาทองปรับขึ้น 100 บาทต่อบาททองคำ

 

ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 46,300 บาท ขายออกบาทละ 46,400 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 45,464 บาท 84 สตางค์ ขายออกบาทละ 47,200 บาท

 

ส่วนราคาทองโลก หรือ Gold Spot แตะ 2,859.50 เหรียญ/ออนซ์

 

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถาม “นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ถึงภาพรวมราคาทองในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดย “นพ.กฤชรัตน์” กลาวว่า ราคาทองกลับขึ้นมาทำ All Time High ใหม่ที่ระดับ 2,995 เหรียญ/ออนซ์ในเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อวันที่ 27 และ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ราคาทองมีการย่อตัวลง ซึ่งถ้าราคาไม่สามารถที่จะผ่านจุดนี้ ก็จะเข้าสู่ช่วงของการปรับฐาน

 

“โดยภาพรวมเดือนกุมภาพันธ์ ราคาทองคำกลับมาทำ All Time High ใหม่ได้ประมาณ 3-4 ครั้ง ที่บริเวณ 2,995 คราวนี้สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ก็คือ ราคาทองคำเริ่มมีการย่อตัวลง หลังจากขึ้นไปที่ 2,995 เหรียญ หมายความว่า ถ้าราคาทองคำ ไม่สามารถผ่านตรงนี้ขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสที่จะเข้าสู่โหมดของการปรับฐาน”

 

และเมื่อถามถึงแนวโน้มทิศทางราคาทองในเดือนมีนาคมจะเป็นอย่างไร “นพ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า ราคาทองอาจจะมีการปรับฐานลงไปบ้าง โดยแนวรับที่ 2,865 เหรียญ/ออนซ์ ถือเป็นแนวรับที่สำคัญ

 

“ในเชิงการวิเคราะห์ก็มองว่า ในเดือนมีนาคม ทองคำอาจจะมีการปรับฐานลงไปถ้าเกิดหลุดบริเวณ 2,865 ซึ่งบริเวณ 2,865 ต้องบอกว่าเป็นแนวรับสำคัญในเชิงเทคนิคอล ถ้าไม่หลุดตรงนี้ ราคาก็จะสามารถฟอร์มฐานบริเวณ 2,900 ได้ใหม่ แต่ถ้าหลุดตรงนี้ลงไป มีโอกาสที่จะลงได้ลึก ซึ่งจะลงได้ลึกได้ขนาดไหน ก็ต้องบอกว่า ในเชิงเทคนิคอลต้องบอกว่า มีโอกาสที่จะปรับตัวลงไปที่ระดับ 2,815-2,820 เหรียญ”

 

“นพ.กฤชรัตน์” ย้ำว่า ราคาทองที่มีการปรับฐาน ไม่ได้หมายความว่า ราคาทองเป็นขาลง เพราะเป็นเรื่องธรรมดา ที่ราคาทองสูงขึ้น ก็ต้องมีแรงขายทำกำไรออกมา

 

“ต้องบอกว่าในเชิงของการลงทุนเชิง Strategy Technical ก็จะต้องเข้าใจตรงนี้ว่า ตอนนี้อยู่ในบริบทของการปรับฐาน ซึ่งการปรับฐานไม่ได้หมายความว่า เป็นขาลง แต่หมายความว่า เป็นการที่ราคาเหวี่ยงขึ้น ก็มีแรงเทขายทำกำไรเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นนักลงทุนในช่วงต้นเดือนมีนาคม ก็ให้ใช้ความระมัดระวังสูงหน่อย เพราะว่าทองคำ มีสิทธิที่จะเหวี่ยงลงก่อนที่จะขึ้น”

 

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในเดือนมีนาคม ก็คือ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ รวมทั้งสงครามการค้า ที่ล่าสุด ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์”จะเรียกเก็บภาษีนําเข้าแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25 % จะมีผลในวันที่ 4 มีนาคมนี้ และจะเรียกเก็บภาษีจีนเพิ่มอีก 10 % มีผลในวันเดียวกัน รวมทั้งสงครามระหว่างรัสเซีย ยูเครน

 

ขณะที่ นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า YLG ยังมองว่าปีนี้ราคาทองคำจะยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยังยึดเป้าหมายเดิมไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และหากผ่านเป้าหมายนี้ไปได้จะไปที่แนวต้านถัดไปที่ 3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แม้ว่าสถาบันการเงินต่างประเทศจะเริ่มออกมาขยับเป้าหมายราคาทองคำเพิ่มขึ้นจากเดิม แต่ YLG ยังให้เป้าหมายเดิม ส่วนทองคำในประเทศให้เป้าหมาย 48,000 บาทต่อบาททองคำ และเป้าหมายถัดไป 49,500-50,000 บาทต่อบาททองคำ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube