Home
|
ข่าว

ทองขึ้นแรง ใกล้แล้ว 5 หมื่น

 

 

ราคาทองยังคงปรับขึ้นอย่างร้อนแรงทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงวันที่ 22 ก.พ. ราคาทองไทยปรับขึ้นมาแล้ว 4,300 บาทต่อบาททองคำ ส่วนราคาทองโลกในปีนี้พุ่งขึ้น 11.5%

 

 

 

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ได้คุยกับ นายกสมาคมค้าทองคำ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” ถึงภาพรวมทิศทางราคาทองคำล่าสุด โดย “นายจิตติ” เชื่อมั่นว่า ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาทองโลก หรือ Gold Spot จะขึ้นไปแตะระดับ 3,000 เหรียญต่อออนซ์ได้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 ส่วนไตรมาส 3 มีโอกาสที่จะได้เห็นราคาทอง 3,200 เหรียญต่อออนซ์ได้ ส่วนราคาทองไทยนั้น ก็มีโอกาสที่จะได้เห็น 5 หมื่นบาทต่อบาททองคำด้วยเช่นกัน

 

“ยังน่าจะเป็นขาขึ้นอยู่ แต่ว่าระยะสั้นอาจจะต้องดูหน่อย แต่ดูระยะยาวคงอาจจะมีโอกาสสูงขึ้นมาได้อีก”

 

“นายจิตติ” กล่าวอีกว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ดังนั้นการลงทุนในทองคำ จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลงทุน

 

“ยังมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เพราะฉะนั้นเงินเย็นๆ ถ้าแบ่งพอร์ตถือเงินดอลล่าร์ หรือว่าทรัพย์สินอะไรต่างๆ ก็แบ่งบางส่วน น่าจะเป็นทองคำ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี”

 

และเมื่อถามว่าราคาทองที่ปรับตัวสูงขึ้นใกล้ 5 หมื่นบาทต่อบาททองคำ บรรยากาศการซื้อขายทองตามร้านทองเป็นอย่างไร เรื่องนี้ “นายจิตติ” ให้คำตอบที่น่าสนใจว่า ราคาทองแม้ว่าจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็มีคนมาซื้อมากกว่านำทองมาขาย

 

“ช่วงที่ราคาทองลงมา กลายเป็นว่าคนมาซื้อ มากกว่ามาขาย ไม่ว่าราคาทองจะสูงขึ้นมา ส่วนใหญ่ทุกคนก็คิดเหมือนกันว่า เก็บเป็นทองคำจะมั่นคงกว่า ตอนนี้กลายเป็นว่าที่ราคาสูงขึ้นมา ก็ไม่ค่อยมีคนขาย มีคนมาซื้อมากกว่าขาย”

 

ปัจจุบันราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ล่าสุด วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568

 

ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 46,600 บาท ขายออก 46,700 บาท

 

ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 45,768 บาท 4 สตางค์ ขายออก 47,200 บาท

 

ส่วนราคาทองโลกอยู่ที่ 2,937 เหรียญต่อออนซ์

 

ขณะที่ “ฮั่วเซ่งเฮง” มีมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับราคาทองคำ โดยระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงสร้างความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า จึงหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ถึงแม้ว่าจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมาบ้างในช่วงวันศุกร์ และราคาทองคำถูกกดดันด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อย

 

แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำสำรองรวมเกือบ 1,045 ตัน ในปี 2567 โดยที่ธนาคารกลางโปแลนด์เข้าซื้อสูงสุดถึง 90 ตัน

 

ทั้งนี้ แม้ว่าธนาคารกลางยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำในปี 2567 แตะระดับ 1,044.6 ตัน แต่ก็มีปริมาณลดลงจากปี 2566 ที่ระดับ 1,050.8 ตัน และในปี 2565 จำนวน 1,080.01 ตัน ซึ่งจากสถิติแสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่ในช่วงปี 2022 เป็นต้นมา ธนาคารกลางทั่วโลกมีการเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็บเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างนัยสำคัญเป็นระยะเวลาถึง 3 ปีแล้ว

 

ดังนั้น ทองคำซึ่งเป็นตัวแทนสินทรัพย์ปลอดภัย และสามารถป้องกันความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อได้ดี ยังคงได้รับความสนใจจากธนาคารกลางต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะจากสงครามการค้าที่ สหรัฐฯ พร้อมจะปะทุกับหลายประเทศพันธมิตรที่เกิดดุลการค้ากับสหรัฐฯ  อีกทั้งปัจจัยทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ในปี 2025 ก็เป็นอีกปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางต่างๆ มีความต้องการสำรองทองคำเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube