ม็อบชาวนา-ญัตติ7พรรค-สว.รุมยำ “รัฐบาลอิ๊งค์”บาน?
ไม่แต่โหมดการเมืองที่เกิดภาพความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลแบบทีใครทีมัน ในโหมด “การบ้าน”การบริหารบ้านเมือง จู่ๆ เมื่อวาน (20ก.พ.) ก็เกิดปรากฏการณ์ที่นานๆ จะเห็นกับการที่ 7 พรรค
ทั้งจากฝ่ายค้านและรัฐบาลรวมถึงคนจากพรรคเพื่อไทยเอง พร้อมใจกัน ยื่นญัตติลุกขึ้นอภิปรายรุมถล่ม2รัฐมนตรี พาณิชย์-เกษตร “พิชัย” และ “อ.แหม่ม” จากพรรคเพื่อไทย และ กล้าธรรมที่ปล่อยให้ข้าวราคาตกต่ำจนชาวนาทนไม่ไหวเริ่มมีการชุมนุมในหลายจังหวัด และยังมีชาวนาภาคกลางหลายจังหวัดบุกมาประชิดทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานซืน (19ก.พ.)
ทำเอา “นายกฯอิ๊งค์” เครียดนั่งไม่ติดรีบเรียก 2 รัฐมนตรีประชุมด่วน ก่อนจะรีบออกมารายงานประชาชนว่า ผ่าน ทวิตXและ FB ทำนองไม่นิ่งนอนใจเรียกคุย2 รมต.และสั่งการให้ไปแก้ปัญหาด่วนทั้งระยะสั้นและยาวโดยส่วนหนึ่งคือการแก้ปัญหาการปลูกพันธ์ข้าวที่ไม่ได้รับการรับรอง ทำให้ข้าวไม่ได้คุณภาพ และ ราคาต่ำกว่าปกติ ส่งผลต่อราคาข้าวในภาพรวม
โดย “นายกอิ๊งค์” บอกว่า ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตร เร่งพัฒนาพันธ์ข้าวและแจกจ่ายให้เกษตรกรให้เพียงพอส่วนมาตรการระยะสั้นเรื่องการพยุงราคาข้าวที่ประชุม นบข.จะออกมาตรการที่ชัดเจนนำเข้าสู่ครม.เพื่ออนุมัติต่อไป ในขณะที่ “พิชัย” รมว.พาณิชย์ ได้กลับไปที่ กระทรวงพาณิชย์และมีการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)
ด้านการตลาดทันทีก่อนจะมีการ สรุปมี 3 มาตรการออกมาเพื่อเคลียร์ม็อบชาวนา คือ 1.สินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวนาปรัง2. ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการเข้ามาซื้อข้าว 3.เปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือก ที่มาตรการดังกล่าวมีเสียงสะท้อนจากแกนนำชาวนาภาคกลางมาแล้วว่า รัฐบาลยังแก้ไม่ตรงจุดเพราะเป็นโครงการเก่าที่ทำอยู่แล้ว
เรียกว่าประเด็นราคาข้าวตกต่ำที่กดดันไปยัง 2 รัฐมนตรี “เพื่อไทย-กล้าธรรม”มาในจังหวะที่การเมืองเข้าสู่ฤดูกาลตรวจสอบ ฝ่ายค้านนำโดยพรรคเด็ก-ประชาชนที่วันนี้เริ่มมีการไปรายงานตัวรับทราบข้อหากับ ปปช. นำโดยตัวตึงอย่าง “วิโรจน์” ที่กำลังมัดรวมประเด็นเพื่อ” ซักฟอก” รัฐมนตรีโดยคาดกันว่าจะเป็น “รายบุคคล” ที่จะยื่นกันราวๆ วันที่ 27 ก.พ.ก่อนที่สภาฯจะเปิดให้
“ซักฟอก”ในช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ก็เริ่มมีการพูดถึงกระแสข่าวการปรับครม.กันไว้ล่วงหน้ากันแล้วทั้งการปรับครม.แบบ “แลกกระทรวง” ของ2 พรรคเบอร์1-2 เพื่อไทย-ภูมิใจไทยและข่าวการปรับแบบ “พลิกขั้ว” เทพรรค3ร่วมรัฐบาลเดิม ที่นำโดย ภท.ท่ามกลางการปล่อยข่าว“ดีลลับบรูไน” ของ “ทักษิณ” กุนซือตัวพ่อของ “นายกอิ๊งค์”
โดยปรากฏการณ์ข้างต้น ที่แม้ “ประเสริฐ” รองนายกฯจากเพื่อไทย จะปฏิเสธปฏิบัติการ7พรรคร่วมเป็นการเขย่าให้ “พิชัย” หลุดเก้าอี้พาณิชย์ แต่ถูกโยงภาพเชื่อมต่อกับกระแสการประบครม. ขณะเดียวกัน ก็ยังมีสการเชื่อมไปถึง ปรากฏการณ์ก่อนหน้านี้ กับปฏิบัติการตรวจสอบที่ดินสปก.โซนเขาใหญ่ที่ไปเฉียดสนามกอล์ฟของครอบครัว “หัวหน้าหนู-อนุทิน” แห่งพรรคภูมิใจไทย
โดย “มืองาน” ของ “ผู้กองนัส” แห่ง “พรรคกล้าธรรม” ที่ถูกมองว่าเป็น “มืองาน” ให้กับ” ทักษิณ” อีกชั้นและถูกนำมาสู่ “สัญญาณ” การ “ย้อนศร” ที่ปรากฏผ่าน “สภาสูง” ที่ไปสัมมนากันที่หัวหินที่นัดตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วนนำโดยประธานสว. ทั้งตีโต้ ‘คดีฮั้วเลือกตั้ง สว. 67’ ที่สว.ทั้งหมดเชื่อว่าเป็นเกมการเมือง หวังให้เกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญ เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับและ ขู่ ใช้ช่องทางกฎหมายถึงที่สุด
หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีสภาสูง โดยพุ่งเป้าไปที่ ‘พ.ต.อ.ทวี’ รมว.ยุติธรรมและ ดีเอสไอ.ที่รับคดีนี้ ที่มากล่าวหาว่าอั้งยี่ ซ่องโจร ทำวุฒิสภาเสื่อมเสีย โดยวุฒิสภาจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของDSI กระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษในกรณีนี้เพื่อแสวงหาความจริง ในกรณีที่พบว่ามีเจตนาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงซึ่งสร้างความเสื่อมเสียแก่วุฒิสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





