สส.เพื่อไทย จี้ แบงก์ชาติ ปรับเป้าเงินเฟ้อให้เหมาะสม
สส.เพื่อไทย จี้ แบงก์ชาติ ปรับเป้าเงินเฟ้อให้เหมาะสม เชื่อจะช่วยเศรษฐกิจได้มาก เพิ่มการจ้างงาน
นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปี 2567 (GDP) ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศวานนี้ GDP ไตรมาส 4 ของปี 2567 ขยายตัว 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งปี 2567 GDP ขยายตัว 2.5% เพิ่มขึ้น 0.5% จากปีก่อนหน้า
โดยมองว่า GDP ของไทยสามารถขยายตัวได้เต็มศักยภาพมากกว่านี้ หากมาตรการทางการเงิน และมาตรการทางการคลังเดินไปพร้อมกัน โดยทั้งปี 2567 นโยบายการเงินค่อนข้างเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดน้อย และช้ากว่าที่ตลาดต้องการความช่วยเหลือ และไม่ทันเวลา ดอกเบี้ยเงินกู้โดยเฉพาะดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิตที่สูงเกินไปและมากกว่าที่กฎกฎหมายกำหนดไม่ให้เกิน 15% รวมทั้ง ปริมาณเงินที่น้อยเกินไปทำให้สภาพคล่องในระบบไม่เพียงพอ
ทำให้เครื่องยนต์เศรษฐกิจทำงานได้ไม่เต็มที่ไม่เต็มศักยภาพการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์มีปัญหา เพราะความต้องการของตลาดลดลงจากอัตราดอกเบี้ยสูง การเข้าไม่ถึงสินเชื่อของประชาชนจนทำให้สภาพคล่องในระบบตึงตัว พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯ ที่ทำให้ความต้องการถืออสังหาริมทรัพย์ลดลง ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์อีวีขณะนี้เดินมาถูกทางด้วยนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หากเพิ่มการส่งเสริมเพื่อปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาปภายในไปพร้อมกันจะยิ่งทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมดีขึ้น
รวมถึงภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทของไทยที่แข็งค่ามากเกินไป ทำให้จากเดิมที่มูลค่าการส่งออกไทยจะมีปริมาณที่สูง ห่างจากมูลค่าการนำเข้ามาก แต่ปัจจุบันมูลค่าส่งออก – นำเข้า อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน โดยการส่งออกสูงกว่าเล็กน้อยและไทยยังได้ดุลการค้า
นายจิตติพจน์ กล่าวอีกว่า การปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ยังส่งผลต่อ GDP โดยเป้าหมายเงินเฟ้ออยู่ในกรอบ 1-3% เงินเฟ้อจริงอยู่ติดกรอบล่างเกือบ 1% ขณะที่เป้าหมายเงินเฟ้อในต่างประเทศ จะไม่ต่ำกว่า 2% หากธนาคารแห่งประเทศไทยปรับเป้าเงินเฟ้อให้เหมาะสม อยู่ที่ 2-3% จะช่วยเศรษฐกิจไทยได้มากและเพิ่มการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกด้วยจะทำให้รัฐบาลโดยเฉพาะนโยบายการคลังทำงานง่ายขึ้น GDP ที่เริ่มโตแล้วโตได้อีก
ทั้งนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ คือ ตัวเลขที่สามารถบ่งบอกได้ถึงกำลังซื้อ ความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน สุขภาพทางธุรกิจของภาคเอกชน และการลงทุนของภาครัฐและเอกชน โดยรวม เชื่อว่าการทำงานอย่างเต็มที่ทุกวิถีทางของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน
”ทั้งหมดเปรียบเสมือนขับรถคันเดียวกัน เท้าข้างหนึ่งเหยียบคันเร่ง คือ นโยบายการคลัง แต่อีกข้างเหยียบเบรก คือ นโยบายการเงิน GDP ปี 2567 มาดีแล้ว แต่จะดีกว่านี้ ถ้าฝ่ายนโยบายการเงินมองภาพประเทศเป็นภาพเดียวกันกับรัฐบาล เห็นประชาชนเป็นอันดับหนึ่งเหมือนกัน“ นายจิตติพจน์กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





