Home
|
ข่าว

“ณัฐพงษ์” แนะทบทวนใช้กม.พิเศษ ดึงท้องถิ่นพัฒนาศก.

Featured Image

 

“ณัฐพงษ์” แนะทบทวนใช้กฎหมายพิเศษ ดึงท้องถิ่นพัฒนา ศก.แก้ปัญหาชายแดนใต้ วอนฝ่ายความมั่นคงแจงเหตุคุมตัวนักข่าวอาสา จี้รัฐบาลชัดเจนเดินหน้ากระบวนการสร้างสันติภาพ

 

 

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนความเห็นในจังหวัดปัตตานีว่า บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเอง เมื่อช่วงเช้าได้ลงพื้นที่ไปยังชุมชนบาราโฮม ซึ่งประชาชนในพื้นที่ผลิตผ้าทำมือ ปริ้นด้วยดิจิทัล พร้อมกับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียมาจองจนเต็ม นอกจากนี้ จะมีการพูดคุยกับภาคประชาสังคมเรื่องสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนใต้ด้วย

 

 

จังหวัดชายแดนใต้มีหลายเรื่องที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เพราะที่นี่อากาศไม่มีฤดูฝุ่นเหมือนกับจังหวัดอื่น โดยการพัฒนาในพื้นที่เริ่มต้นได้จะต้องปักหมุดเรื่องกระบวนการสร้างสันติภาพและใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมด้วย หากดูจำนวนนักท่องเที่ยวหรือรายได้ต่อหัวก็มีแนวโน้มดีขึ้น แม้จะยังไม่เท่ากับก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยเมื่อวานนี้ได้ลงพื้นที่ไปดูตัวอย่างที่เทศบาลนครยะลา มีนโยบายในการทำครัวกลางให้กับเด็ก เป็นตัวอย่างที่ดีที่ท้องถิ่นพัฒนานโยบายที่ช่วยเสริมสร้างโภชนาการให้กับเด็ก

 

 

สำหรับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาภาคใต้ของรัฐบาล เรื่องความมั่นคงและเศรษฐกิจจะต้องสอดประสานกัน เราอยากให้ทบทวนการใช้กฎหมายพิเศษที่น้อยลง และใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งในวงประชุมร่วมกับ ศอ.บต. เมื่อวานนี้ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

 

 

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงควบคุมตัว นายอับดุลอาฟิร เซ็ง อายุ 21 ปี นักกิจกรรมและอาสาสมัครนักข่าว สำนักสื่อวาร์ตานี ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี เมื่อวานนี้นั้น คงต้องรอดูความชัดเจนของเจ้าหน้าที่ เราไม่อยากให้เกิดการใช้กฎหมายพิเศษหรืออำนาจพิเศษโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ไปคุกคามหรือกดทับการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงต้องรอคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ว่าเข้าจับกุมด้วยข้อหา หรือการกระทำอะไร ซึ่งพรรคประชาชนมีตัวแทนในพื้นที่เพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

 

 

ทั้งนี้ ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ออกมาชี้แจงว่า เป็นการคุมตัวโดยโปร่งใส และนายอับดุลอาฟิร มีการทำเพจโจมตีรัฐนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า จะต้องดูความชัดเจน หากเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีความโปร่งใส ตัวแทนของพวกเราจะเข้าไปขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ถ้ามีการชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา ก็ไม่น่าจะมีประเด็นอะไร

 

 

สำหรับการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง ซึ่งยืนยันว่าจะใช้กฎหมายพิเศษเท่าที่จำเป็น แต่กลับเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าประชาชนในพื้นที่ไม่ได้ไว้เนื้อเชื่อใจต่อเจ้าหน้าที่รัฐเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นหัวใจสำคัญในการเดินหน้ากระบวนการสันติภาพ โดยเราจะผลักดันความโปร่งใสในด่านตรวจ เนื่องจากแม่ทัพภาค 4 ยินดีให้คณะของเราเข้าไปสำรวจด้วยเช่นกัน

 

 

ขณะการแก้ไขปัญหาในระยะยาว กลไกสภาฯ เป็นกลไกสำคัญเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เข้าได้สะท้อนเสียงในพื้นที่ปลอดภัย ทั้งนี้เราต้องตั้งหมุดหมายแรกให้ตรงกันก่อน เพราะปัจจุบันยังขาดความชัดเจนจากรัฐบาล โดยเฉพาะการเดินหน้ากระบวนการสันติภาพ

 

 

อย่างไรก็ตาม อีกไม่นานนายกรัฐมนตรี จะจัด ครม.สัญจรมาในพื้นที่ภาคใต้ สิ่งที่น่าจับตา คือ รัฐบาลจะมีการสื่อสารเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน อย่างน้อยการแต่งตั้งตัวแทน หรือหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายไทย ซึ่งเป็นตัวแทนในการเจรจาสันติภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ เมื่อมีธงชัดเจนว่าเราจะมุ่งเป้าไปที่กระบวนการสร้างสันติภาพ การผลักดันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมก็สำคัญไม่แพ้กัน จึงต้องเดินคู่ขนานกัน

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube