“ทักษิณ” ผมแก่แล้ว…ยังไม่สิ้นมนต์ขลัง
อดีตนายกฯทักษิณ เป็นพยานจดทะเบียนสมรส จักรภพ เพ็ญแข ที่สำนักงานเขตบางรัก พร้อมสัมภาษณ์ประเด็น พรรคเพื่อไทยพลาดเป้า เลือกตั้ง นายก.อบจ. ไม่ได้มองว่าสิ้นมนต์ขลังรอการเมืองสนามใหญ่เพื่อไทย ได้ไม่ต่ำ 200 ที่นั่ง แน่นอน
โดย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าผลไม่เข้าเป้าตามที่คาดหวังไว้ และชื่อ “ทักษิณ” อาจจะเสื่อมมนต์ขลังแล้วว่าตนแก่แล้ว อายุ 76 ปีแล้ว คนที่อายุต่ำกว่า40 ไปแล้วนั้น มักจะจำผลงานของตนไม่ได้ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าแน่นอนสักพักคนจะเข้าใจมากขึ้น
ตนก็เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็ชนะมาหลายเขต ที่ผิดคาดมีอยู่3 เขต โดย2 เขตเกิดจากความไม่สามัคคีกันของสส. อีก1 เขตนั้น เกิดจากความประมาทของผู้สมัคร ถือว่าไม่ได้ผิดเป้ามากมาย คงไม่ต้องบอกว่าเป็นเขตไหน ตนพูดแค่นี้เจ้าตัวก็สะดุ้งหมดแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าหลายคนมองว่าท่านทักษิณ เสื่อมมนต์ขลังแล้ว นายทักษิณ ตอบไปยิ้มไป ว่า “ผมไม่มีมนต์ขลังอะไร แก่ขนาดนี้สาวๆยังไม่มองเลย คนส่วนใหญ่เกิน40 ปีถึงจะจำผมได้ ส่วนการเลือกตั้งสส. ครั้งหน้าจะทำให้พรรคเพื่อไทยลำบากขึ้นหรือไม่ นายทักษิณ มองว่าแย่ๆเลยคงมี 200 ขึ้น
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าจะไม่ใช่รัฐบาลพรรคเดียวใช่แล้วหรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า ไม่อยากเป็นพรรคเดียวแล้ว เพราะนกไม่มีขนคนไม่มีเพื่อนไม่ดี ต้องมีเพื่อน แต่เยอะมากก็ไม่ดี ปวดหัว
และสำหรับ กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ตนเองได้คุยกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ บอกว่าทุกวันนี้ทำงานร่วมกัน ไม่มีปัญหา อาจมีขัดข้องบางกระทรวงที่ทำงานช้า หรือไม่ค่อยกระตือรือร้นแต่ยังอยู่ในภาวะที่คุยกันได้ จึงยังไม่เห็นความจำเป็น ส่วนจะมีการปรับ หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น นายทักษิณกล่าวว่า ยังไม่น่าจะมี เพราะนางสาวแพทองธาร บอกว่ายังทำงานร่วมกันได้ดีอยู่
ขณะที่กระแสข่าวว่าจะนำชื่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนั้น นายทักษิณ ระบุว่า ยังไม่มีข่าว คุยกันดี โดยเฉพาะเรื่องคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ นายกบอกว่าบางครั้งได้ก็มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ ทำหน้าที่ประธานแทนด้วย ย้ำว่าไม่มีปัญหาอะไร ส่วนการทำงานก็ขอให้ไปตามที่นายกรัฐมนตรีเอง ว่าอึดอัดตรงไหน แต่เท่าที่ทราบคือ ทำงานร่วมกันได้มีบางครั้งช้าไปบ้าง แต่ก็กระตุ้นได้
อย่างไรก็ตาม วันนี้นายทักษิณได้เดินทางมาที่สำนักงานเขตบางรัก เพื่อเป็นเถ้าแก่ และเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนสมรสของจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก และสุไพรพล ช่วยชู
โดยอดีตนายกรัฐมนตรี บอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่สภามีมติเห็นชอบ โดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ต้องขอบคุณนักการเมือง สส. ทุกคนที่เห็นชอบ ให้มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมเกิดขึ้นในประเทศไทย ทำให้นายจักรภพกลับมาประเทศไทยอย่างมีความสุข ได้อยู่ร่วมกันกับคนรักโดยไม่มีข้อกำจัดทางกฎหมายใดๆ ซึ่งตนเองเชื่อในการเคารพสิทธิเสรีภาพในจิตใจของคน ถ้าไม่เดือดร้อนคนอื่น วันนี้จึงเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ประเทศไทยมีสมรสเท่าเทียม และเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่มีความสุข พร้อมกล่าวอวยพรให้ร่วมมือร่วมใจสร้างอนาคตที่ดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
