ทองแจ่มมาก !
ไม่แผ่วเลยจริงๆ สำหรับราคาทองปี 2568 เพราะเพียงแค่ 16 วันแรกของเดือนมกราคม ราคาทองปรับขึ้นทุกวัน มีเพียงแค่วันที่ 4 และ 14 มกราคมเท่านั้น ที่ราคาทองปิดตลาดราคาปรับตัวลง 150 บาท และ 300 บาทต่อบาททองคำตามลำดับ
โดยภาพรวมราคาทองในช่วง 16 วันดังกล่าว ราคาปรับขึ้นมาแล้ว 1,650 บาทต่อบาททองคำจากปี 2567
ทั้งนี้ วันที่ 16 มกราคม 2568 ทองคำแท่ง รับซื้อ 44,200 บาท ขายออก 44,300 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 43,403 บาท 8 สตางค์ ขายออก 44,800 บาท
ขณะที่ ราคาทองโลก หรือ Gold Spot ยืน 2,717.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ “นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก ถึงภาพรวมราคาทองคำ โดย “นพ.กฤชรัตน์” กล่าวว่า ราคาทองดีดขึ้นมาแล้ว 120 เหรียญ หลังจากราคาได้ปรับลงในช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงทำให้ภาพรวมของราคาทองหลุดพ้นจากสภาพของการปรับฐาน
“ราคาทองคำดีดขึ้นมาแล้ว ประมาณ 120 เหรียญ หลังจากที่ปรับตัวลดลง ในช่วงปลายปีที่แล้ว ลงมาประมาณ 160 เหรียญ ดังนั้นเลยทำให้ภาพรวมหลังจากที่ราคาทองคำร่วงลงมาในช่วงปลายปีที่แล้ว เมื่อประมาณ 20 วันที่แล้ว ทำให้ภาพรวมหลุดพ้นจากสภาวะการปรับฐาน”
“นพ.กฤชรัตน์” กล่าวอีกว่า ราคาทองในระยะสั้นเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาขึ้น หลังจากราคาสามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 2,700 เหรียญได้สำเร็จ “การที่ราคาทะลุขึ้นมาได้ในช่วง 5 วันที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 12-16 มกราคม ทำให้ภาพรวมของการลงทุนในทองคำเปลี่ยนเป็นทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น โดยมีสภาวะที่เราเห็นได้ชัดเจนก็คือ เรื่องของการที่ราคาทองคำกลับมายื่นเหนือ 2,700 เหรียญได้ จากสภาวะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าเริ่มอ่อนลงมาบ้างเล็กน้อย”
ดังนั้นในเชิงของการลงทุนทองคำ “นพ.กฤชรัตน์” ชี้ว่า เป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนที่สุดในช่วงนี้ เพราะราคาทองมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น”ดังนั้นในเชิงของการลงทุนหรือการออมยังแนะนำว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนที่สุดในช่วงนี้ แล้วก็มีสภาวะที่น่าจะมีการปรับฐานแล้วไปต่อ หมายความว่าไปต่อในทิศทางแนวโน้มขาขึ้น ดังนั้นในเชิงของคำแนะนำ ถ้าราคามีบางช่วงที่ปรับอ่อนลงมา ถ้าทองไทยที่บริเวณ 43,900 ให้ทยอยเข้าซื้อได้ แล้วก็ทองตลาดโลกบริเวณ 2,680 เหรียญ ก็คิดว่าทยอยเข้าซื้อได้เช่นเดียวกันเพื่อเป็นการลงทุนในระยะกลาง และระยะยาว”
นอกจากนี้ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก ยังได้กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้ โดยให้น้ำหนักไปที่การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของ “นายโดนัลด์ ทรัมป์” วันที่ 20 มกราคม 2568 โดยเฉพาะกับนโยบาย
“ปัจจัยเสี่ยงที่ยังคิดว่า ยังมีอยู่ ก็คือเรื่องของทรัมป์ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม หมายความว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทรัมป์จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆ ตามที่หาเสียงนั้น อาจจะทำให้ดอลลาร์แข็ง ซึ่งอาจจะเป็นแนวโน้มที่จะกดดันราคาทองคำในทิศทางขาลง ฉะนั้นก็ต้องบอกว่า ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ คนรู้หมดแล้วหรือยัง
ต้องบอกว่านักลงทุนโดยส่วนใหญ่ทราบหมดแล้ว รวมทั้งนักวิเคราะห์ แต่ทีนี้บางส่วนก็รับรู้ข่าวไปแล้ว บางส่วนก็ต้องรอความจริงว่าเกิดขึ้นมาแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง อันนี้เป็นความเสี่ยงเดียวที่ตลาดทองคำอาจจะถูกกดดันในสัปดาห์หน้า แต่อย่างไรก็ตาม ในภาพหลักแล้ว ระยะยาว ยังแนะนำว่า ทองคำเป็นทิศทางขาขึ้น”
ด้าน นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ในช่วงต้นปี 2568 นี้ ราคาทองคำได้ค่อยๆปรับตัวขึ้นโดยสิ่งน่าสังเกตคือ การแกว่งตัวของราคาทองคำในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ไปในทิศทางเดียวกันกับดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งกลายมาเป็นกำลังซื้อหลักในการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วงนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





