ครม.อิ๊งค์1 ปิดสวิทช์3ป. สู่ขอปชป.
รู้ว่าเสี่ยงแต่ขอลอง เหมือนเพื่อความสะใจ หรือสาแก่ใจของใครบางคนที่อยู่เบื้องหลัง“สมการการเมืองพิสดาร”สูตร “ผสมพันธุ์การเมือง”แบบ “ไม่ยึดอดีต” ไมมีมิตรแท้ศัตรูถาวร ทั้งที่เคยเป็น “ศัตรูการเมือง”กันมากว่า 2 ทศวรรษใน “ศึกชิงเมือง” ถึงขนาด “มวลชน”ของแต่ละฝ่ายสีออกมาห้ำหั่นปะทะแบบเลือดตกยางออก ถึงขั้นสูญเสีย อย่างที่วันนี้(28ส.ค.)ปรากฏฉาก “เทียบเชิญ”จาก “พรรคเพื่อไทย”พรรคแกนนำ “รัฐบาลอิ๊งค์1”ถึง “พรรคประชาธิปัตย์”ที่ถูกมองว่าตั้งแต่หัวหน้าถึงเลขาพรรคแต่งตัวรอขันหมากไว้ตั้งแต่ไก่โห่ถึงขนาดมีการพูดถึง โควตารัฐมนตรี 2 ที่นั่ง กันตั้งแต่เรื่องยังไม่ทันเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ปชป. พรุ่งนี้ (29ส.ค.)
โดยหลังจากที่เพื่อไทยมีมติ “ปิดสวิสต์3ป.” “เผาป่าไล่ลุง”สลัดทิ้ง “พรรคลุงป้อม”พลังประชารัฐ(พปชร.) “พี่ใหญ่”แห่ง “3ป.”ที่เคยร่วมกัน “รัฐประหาร” รัฐบาลยิ่งลักษณ์ น้องสาว “ทักษิณ” เมื่อปี2557 เหตุเพราะเพื่อไทย เชื่อว่า “คนบ้านป่า”พกมีดคอยปักหลัง อยู่เบื้องหลังฉากให้ “40สว.” ชงเรื่องไปยัง “ศาลรัฐธรรมนูญ”สอย “เศรษฐา”นายกฯคนที่30 ด้วยความผิดจริยธรรมร้ายแรงจากการตั้ง “ทนายถุงขนม”เป็น รมต. ที่กลายมาเป็น “มาตรฐานรัฐมนตรีคนดี”ที่ คนจัดโผ“ครม.อิ๊งค์1” ตั้งแต่ “ศูนย์อำนาจจันทร์ส่องหล้า”ถึง “ตึกชิน3”และ “ทำเนียบฯ”ต้องจำใจใช้บริการ “คณะกรรมการกฤษฎีกา”เข้ามาช่วยคัดกรอง “รัฐมนตรี”จากแต่ละพรรค ในชั้นสุดท้าย
โดยปรากฎการณ์ สลัด พปชร.ที่เปรียบเหมือนเป็นการ ปิดสวิตส์3ป. อย่างที่ “อุ๊งอิ๊งค์” เคยประกาศในช่วงหาเสียง เพราะ “ลุงป้อม”เป็นคนสุดท้ายในพี่น้อง3ป. ที่ยังอยู่ใน “สมการการเมือง” ยังถูกมองเป็นการ “เช็คบิล”ใครบางคน กับ บรรดาตัวละครการเมือง ที่มีบทบาทอยู่ใน องคพายพการนำไปสู่การโค่นล้มอำนาจ “ระบอบทักษิณ”อย่างแกนนำ กปปส.หรือ “ม็อบลุงกำนัน” ที่ ครม.อิ๊งค์1 หนนี้ก็มีชื่อของ “ขิง-เอกณัฎ พร้อมพันธ์”เลขาพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) อดีตโฆษก กปปส.จะเข้ามาเป็น รมต.จนเกิดเอฟเฟ็กต์ถูก “แจ๊ค-วัชระ”ออกมาปูดเรื่องไปเป็นพยานคดี112ให้ “ทักษิณ”
ในขณะที่การแต่งขันหมากการเมืองไปสู่ขอ “พรรคปชป.”ของ “เพื่อไทย”เพื่อร่วมหอลงโลงที่เป็นปรากฎการณ์ที่แม้แต่นักข่าวที่ติดตามการเมืองยังบอกว่าไม่คิดว่าจะ“ทันได้เห็น” เพราะทั้ง2 พรรคถูกมองมีอุดมการณ์คนละขั้วเหมือนน้ำกับน้ำมัน มีมวลชน “สีฟ้า”และ “สีแดง” ที่ต่างได้รับบาดแผลในเส้นทางที่ผ่านมาในอดีต จนถูกวิเคราะห์ถึง“ความไม่จำเป็น” ที่จะต้อง “รวมเสียง”จากปชป.แม้ตัด “พปชร.”ไปแบบยังมี “ส.ส.กลุ่มผู้กองนัส”เป็นการ “เช็คบิล” เอาคืน “นายหัวชวน”ผู้อาวุโสแห่ง ปชป.ที่ยืนหยัด “หลักการ”เช่นเดียวกับการ “เอาคืน” “ลุงป้อม”แห่ง พปชร.
แม้จะรับรู้ว่าผลที่ตามมาจะต้องมี “ราคาต้องจ่ายเพิ่ม”เช่นกันกับทั้ง “มวลชนแดง”ที่เคย“เอาเสื้อแดง”มาเผา หลังเพื่อไทยทิ้งก้าวไกลมาแต่งกับ “พรรค2ลุง”ไปแล้ว เช่นกันกับ “เอฟเฟ็กต์”จาก “คนบ้านป่า” อย่าง “ลุงป้อม”อย่างที่เริ่มเห็น ปฏิกริยาผ่าน“นักร้องสายบ้านป่า”อย่าง”เรืองไกร” รวมถึง “นักร้องนิรนาม”ออกมาร้องทั้ง “ยุบพรรคเพื่อไทย”และร้องตรวจสอบการถือหุ้น21บริษัทของ “นายกฯอิ๊งค์” รวมถึง“เอฟเฟ็กต์”จากกรณี ปชป.ที่อาจไปสะท้อนผ่าน “คดีคนชั้น14”
ที่ “ผู้อาวุโสปชป.”เกาะติดมอนิเตอร์รวบรวมหลักฐานขนานไปกับคดีที่ถูกตั้ง จาก กสม.เอาผิดบรรดาข้าราชการ ที่อาจมี “พยานปากเอก”เป็น “บิ๊กตำรวจ”เข้ามาแจมเพื่อเชื่อมไปยัง “ผู้ป่วย”ชั้น14
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
