Home
|
อาชญากรรม

“ทนายด่าง” โต้ ราชทัณฑ์ เปิดข้อมูลเวชระเบียนของ “บุ้ง”

Featured Image

 

 

“ทนายด่าง” ตั้งข้อสังเกตุการรักษาพยาบาล “บุ้ง” ของ รพ.ราชทัณฑ์ พร้อมเผยข้อมูลเวชระเบียน จาก รพ.ธรรมศาสตร์ฯ จ่อเดินทางไปรับรายงานการรักษาพรุ่งนี้

 

 

 

วันนี้(19 พ.ค. 67) นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนก่อนพิธีเคลื่อนศพ “บุ้ง” ภายหลังจากที่กรมราชทัณฑ์ออกหนังสือชี้แจงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาโดยยืนยันว่าทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีการรักษาพยาบาลให้กับ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง ทะลุวัง ตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเต็มที่

 

ทนายกฤษฎางค์ กล่าวถึงข้อสังเกตุในการรักษาพยาบาล กู้ชีพ และนําตัวส่ง ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า ตั้งแต่เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แจ้งว่า น.ส.เนติพร มีอาการหมดสติ ไม่มีสัญญาณชีพและได้รับการทำ CPR เพื่อฟื้นคืนชีพ ตั้งแต่เวลา 06.23 น. ก่อนจะส่งตัวผู้ป่วยมารักษาต่อที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เลิมพระเกียรติ ในเวลา 09.30 น. ซึ่งข้อมูลการรักษาก่อนหน้าเกิดอาการระหว่างการกู้ชีพรวมถึงระหว่างการส่งตัวมาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังไม่มีการเปิดเผยเอกสารตามที่ทางทนายความได้ทำเรื่องขอเพื่อความกระจ่างในการรักษา

 

โดยสาเหตุการตายจากการชันสูตรพลิกศพแพทย์ลงความเห็นไว้ว่า เกิดจาก ภาวะหัวใจล้มเหลวโดยเฉียบพลัน ภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ ภาวะหัวใจโต ส่วนผลการตรวจหาสารพิษ อยู่ระหว่างการรอผลตรวจจากห้องแล็ป และจากข้อมูลการรักษาเวชระเบียน หรือบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษร ที่แสดงข้อมูลของผู้ป่วยและกระบวนการดูแลผู้ป่วยตั้งแต่ แรกรับจนสิ้นสุดการรักษาที่ได้จากทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ระบุว่า แรกรับช่วงเวลา 09.30 น.พบว่าไม่มีสัญญาณชีพ คลื่นไฟฟ้าหัวใจแรกรับ ไม่มีคลื่นไฟฟ้าของหัวใจห้องข้างล่าง ฟังปอด ไม่พบเสียงลมในปอด แต่ได้ยินเสียงลมบริเวณลิ้นปี เมื่อตรวจดูด้วยอุปกรณ์ใส่ท่อช่วยหายใจที่มีกล้องติดอยู่ที่ปลาย พบว่าท่อช่วยหายใจอยู่ในหลอดอาหาร โดยค่าอีทีซีโอทู (ETC02) วัดค่าได้เท่ากับ 0 มิลลิเมตรปรอท แพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯจึงทำการใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ที่ห้องฉุกเฉิน หลังจากนั้นได้ยินเสียงลมเข้าปอดทั้งสองข้างและวัดค่าอีทีซีโอทู ได้ 10 มิลลิเมตรปรอท

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าการใส่ท่อช่วยหายใจลงในหลอดอาหารเป็นสิ่งที่พบได้ แต่ตามมาตรฐานวิชาชีพ การตรวจสอบเพื่อยืนยันตำแหน่งท่อช่วยหายใจทันทีเป็นเรื่องพื้นฐาน หากไม่แน่ใจต้องมีวิธีการในการยืนยันเพื่อให้แน่ใจว่าตำแหน่งท่อช่วยหายใจอยู่ในที่ที่ถูกต้อง แม้การใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่งและตรวจสอบไม่ได้อาจไม่ได้เป็นสาเหตุการเสียชีวิต แต่เป็นหนึ่งในอีกความผิดพลาดร้ายแรง ที่ทำให้โอกาสการคืนชีพของบุ้งน้อยลงจนหรือแทบไม่มีโอกาสรอดชีวิต

 

โดยทนายกฤษฎางค์ ระบุว่า ตนเอง ครอบครัว และเพื่อน จึงต้องตั้งคําถามกับทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่การดูแลก่อนการเสียชีวิตขณะกู้ชีพและจนถึงระหว่างการส่งตัวเพื่อรักษาต่อเพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและทราบถึงมาตรฐานการรักษาของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ผิดพลาดเช่นนี้อีกในอนาคต

 

นอกจากนี้ทนายกฤษฎางค์ ยังเปิดเผยด้วยว่า เมื่อวานตนได้มีโอกาศคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับเอกสารรายงานการรักษาของบุ้งจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งตอนแรกจะขอให้นํามาวันนี้เลย แต่ท่านบอกว่าติดวันหยุดราชการ ดังนั้นพรุ่งนี้เวลา 9.30 น. ทนายความพร้อมเพื่อนของบุ้งจะเดินทางไปขอรับเอกสารรายงานการรักษาของบุ้งที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังถูกเลื่อนมาถึง 7 ครั้ง และเชื่อไปครั้งนี้ก็คงไม่ได้

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube