ว๊ายเรื่องไม่จบ! ฝ่ายชายโต้กลับ”หญิงลี”ปมโลก2ใบ หนังคนละม้วน ลั่นทำตนเสียชื่อ
ว๊ายเรื่องไม่จบ! ฝ่ายชายโต้กลับ”หญิงลี”ปมโลก2ใบ หนังคนละม้วน ลั่นทำตนเสียชื่อ ยันไม่ได้ขโมยกล้อง
เรียกว่าเหมือนเรื่องไม่จบง่ายๆนะสิสำหรับ ปมโลก2ใบของนักร้องสาว”หญิงลี ศรีจุมพล”ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวออกมาเคลียร์ดราม่าดังกล่าว ซึ่งต่อทางด้านฝ่ายชายที่ถูกกล่าวถึงได้ออกมาชี้แจงว่า
“ส่วนตัวบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้เป็นแบบที่หญิงลีพูดเลย
แล้วมีสิ่งที่พาดพิงตนเยอะ ทำให้รู้สึกไม่ดี ทำให้คนรอบข้างและคนที่รู้จักมองตนในแง่ลบ
คือตนรู้จักกับหญิงลีมาประมาณ 3 ปีแล้ว ทำอาชีพฟรีแลนซ์ รับจ้างถ่ายภาพในวันนั้น หลังจากรู้จักกันเมื่อ 3 ปีก่อน ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ต่อมาเมื่อปีที่แล้ว ผมไปเก็บภาพคอนเสิร์ต ไปเจอฝ่ายหญิงลียกมือสวัสดี แล้วเขาบอกให้ผู้จัดการมาบอกว่าให้ไปรอหลังเวที
หลังเขาถ่ายภาพกับแฟนคลับเสร็จแล้ว เขาเดินมากอดพักสักจนผู้จัดการมาสะกิดบอกว่ามันดูไม่ดีแล้วนะ เขาจึงบอกให้ผู้จัดการมาขอเบอร์และขอไลน์ตนเอาไว้ ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแค่ว่าเผื่อมีงาน มีคอนเนกชันอะไร ผมก็เลยให้เบอร์และไลน์กับฝั่งผู้จัดการของหญิงลีไป
วันรุ่งขึ้นหญิงลี ได้มีการทักแชตไลน์มาสอบถามว่าผมทำงานอะไร ทำอาชีพอะไร ผมก็เล่าให้ฟัง จากนั้นเขาก็ถามผมว่าเงินพอใช้ไหม ผมก็บอกไปว่า พอที่จะประคองตัวได้ จากนั้นเขาโอนเงินมาให้ผม 5,000 บาท
หลังจากวันนั้นเขาติดต่อให้ไปหาเพื่อจะคุยงาน เนื่องจากเขาต้องขึ้นคอนเสิร์ต พองานจบเขาชวนไปทานข้าว จากนั้นก็พูดคุยกันมากขึ้น ต่างคนต่างมีใจให้กันและฝ่ายหญิงบอกว่าตามหาคนแบบตนมานานแล้ว การที่เราได้มาเจอกันถือว่าเป็นพรหมลิขิต
จากนั้น 2-3 วัน ฝ่ายหญิงชวนผมให้ไปอยู่ที่บ้านกับฝ่ายหญิงไหม ในฐานะคนรัก แต่ช่วยเหลือในการทำงานให้ด้วย โดยให้ดูแลในเรื่องของการขับรถให้ ดูแลเรื่องที่พัก รวมถึงการเดินทางไปคอนเสิร์ต ฝ่ายหญิงให้เงินเดือนผม 20,000 บาท
ตอนนั้นตนรู้อยู่แล้วว่าฝ่ายหญิงเคยมีคนคุยมาก่อน ซึ่งตนก็ได้มีการสอบถามจากฝ่ายหญิงแล้วว่าฝ่ายผู้ชายคนอื่นที่คบหากันคืออะไร ฝ่ายหญิงบอกว่าจบไปแล้ว เคลียร์ไปแล้ว ตนจึงมั่นใจว่าจะเข้าไปอยู่ในบ้านของเขาโดยที่ไม่ต้องปิดบังอะไร
จากนั้นคบหาดูใจกันพักใหญ่ ฝ่ายหญิงเดินทางไปที่รีสอร์ตบ่อยมาก ตนจึงเกิดความสงสัยว่าทำไมต้องไปรีสอร์ตที่บุรีรัมย์บ่อยมาก เขาบอกว่าไปเคลียร์ปัญหากับคนเก่า สาเหตุที่ไปเพราะเรื่องของการทำงาน ซึ่งตอนนั้นตนยอมรับว่าตนหึงหวงจริงๆ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐาน จากนั้นทะเลาะกันมาตลอด
วันรุ่งขึ้นเขามีการคุยโทรศัพท์ในห้องนานถึง 2 ชั่วโมง สักพักเขาเดินออกมาหน้าตาตื่นแล้วบอกว่าผู้ชายคนหนึ่งจะเข้ามานะ ค่อยๆ คุยนะ ใจเย็นๆ ตนก็บอกว่าไม่อยากจะมีปัญหา ไหนบอกว่าคุณเคลียร์ไปแล้ว คุณก็ต้องไปคุยเอง
หลังจากนั้นฝ่ายชาย (ไม้) มาถึงบ้าน ซึ่งตนก็อยู่ในบ้านด้วย เลยมีปากเสียง ปะทะคารมกัน ฝ่ายชายมาบอกว่ามึงจะหยุดไหม ถ้าไม่หยุดกูจะหยุดมึงเอง แล้วก็ชักปืนขึ้นมาจ่อที่หัวผม
หลังจากนั้นเจ้าของบ้านโทรศัพท์ไปหาตำรวจ พอตำรวจมาฝ่ายชายเอาปืนไปแอบบนบ้าน พอตำรวจไปค้นก็พบปืนพร้อมกระสุนเต็มแม็ก สาเหตุที่ไม่ดำเนินคดีเนื่องจากฝ่ายหญิงขอร้องเอาไว้
หลังจากนั้นตนก็จับได้ว่าฝ่ายหญิงไปคุยกับผู้ชายคนเก่าในทำนองว่าให้ฝ่ายชายรอ กำลังเคลียร์กับผมอยู่ แต่สิ่งที่ฝ่ายหญิงคุยกับผมก็คือเคลียร์กับฝ่ายชายไปแล้ว ทำให้ตนรับไม่ได้ และตกลงกันว่าตนจะออกจากบ้านไป วันที่ 19 เมษายน (2566) แต่สุดท้ายตนตัดสินใจออกจากบ้านมาในวันที่ 16 เมษายน ฝ่ายหญิงเข้ามาถามตนว่าทำไมรีบไป ทำไมไม่อยู่เก็บเกี่ยวความสุขกันก่อน แต่ตนบอกว่าไม่แล้ว รู้สึกอึดอัด หลังจากนั้นฝ่ายหญิงก็บอกให้เอาโทรศัพท์ของตนไปให้เขา ซึ่งตนไม่ยอมให้ ขณะเดียวกันเขาก็ให้คนในบ้าน 2 คนมาทำร้าย มาทุบที่ท้ายทอยแล้วแย่งโทรศัพท์มือถือไป จากนั้นฝ่ายหญิงไปแจ้งความตนในข้อหาว่าผมบุกรุกบ้านเขา ทั้งๆ ที่ตนเองพยายามจะออกมา แต่ฝ่ายหญิงแจ้งว่าบุกรุก แล้วตนอยู่บ้านนั้นมาตั้งหลายเดือน
ในส่วนของข้อมูลเรื่องกล้อง ที่มีการกล่าวอ้างว่าลักทรัพย์ เจ้าตัวบอกว่า ไม่ทราบสาเหตุที่หายไปจริงๆ เพราะบางครั้งก็มีเอาไปปล่อยเช่า ตนไม่ได้เป็นคนเอาไป
หลักฐานมันอยู่ในเครื่องนั้นหมดเลย ในโทรศัพท์มีข้อความแชตที่บอกว่าตนอยากทำอะไร บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ใครก็มีกุญแจ สามารถเข้า-ออกกันได้เรื่อยๆ ถ้ามีหลักฐานว่าตนเอาไปมาจับตนได้เลย
ส่วนเรื่องแชต ยอมรับมีคุยจริงกับอดีตแฟน เมื่อเขารู้ก็ได้โทรไปหาอดีตคนเคยคุยของตน แล้วบอกให้เลิกติดต่อตน แล้วในแชตที่คนเคยคุยของตนตอบมา เหมือนเป็นการประชดประชันว่าชอบกอบโกยฝ่ายหญิง คืออดีตแฟนตนตอบมาด้วยความโมโห”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
