จับสัญญาณเศรษฐกิจไทย ผ่านมุมมองกระทรวงการคลัง ในห้วงจังหวะรอโหวต “พิธา” เป็นนายกรัฐนตรี รวมถึงความล่าช้าของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่ยังต้องรอรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณที่เชื่อมโยงต่อการลงทุน
โดย “นายพรชัย ฐีระเวช” ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เรื่องของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ก็ยังมีงบประมาณปี 2566 ที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ขณะเดียวกันการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลก็เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
“นายพรชัย” กล่าวอีกว่า วันนี้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดี โดยภาคการท่องเที่ยวเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยมีมุมมองที่ตรงกันว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.6
และเมื่อถามว่ามุมมองนักลงทุนต่างชาติมองประเทศไทยอย่างไร ในห้วงจังหวะที่รอรัฐบาลใหม่ คำตอบที้ได้น่าสนใจ
ขณะที่ฝากฝั่งของรัฐบาลก็ออกมาย้ำถึงสภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตได้ดี โดย “นายอนุชา บูรพชัยศรี” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากภาคการท่องเที่ยวโดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น
รวมทั้งการส่งออกสินค้าก็มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่าแม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับลดลงและระบบการเงินโดยรวมของประเทศมีเสถียรภาพที่เข้มแข็ง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องมีการติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักที่ยังมีความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและปรับการดำเนินการต่าง ๆ ให้สอดคล้องและทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้ายฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุว่า ปัจจัยภายนอกดูดีขึ้น หลัง World Bank ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ 2566 เติบโตขึ้นอีก 0.4% เป็น 2.1% โดยไทยถูกปรับขึ้น 0.3% เป็น 3.9% จากเดิม 3.6% สูงกว่าสำนักอื่นๆ อย่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่คาดเติบโต 3.6%
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังมีแรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน พ.ค. 2566 ที่ออกมา 0.53%YoY ต่ำกว่าคาดที่ 1.6% มาก น่าจะเป็นแรงกดให้เงินเฟ้อไทยเดือนถัดไปอาจชะลอตัวต่อได้ รวมถึงตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 56.6 สูงสุดในรอบ 53 เดือน ถือเป็น Sentiment ที่ดีต่อตลาดหุ้นไทย
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการขับเคลื่อนจัดตั้งรัฐบาลใหม่อย่างใกล้ชิด เพราะทุกการขับเคลื่อนย่อมมีผลต่อเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews