ศาลแพ่งสั่งเรียกคืนมาสด้า 2 ดีเซล รุ่นปี57-61
ศาลแพ่งกรุงเทพใต้สั่งเรียกคืนรถมาสด้า 2 ดีเซล รุ่นปี 2557-2561 หลังผู้บริโภค รวมตัวฟ้องจนชนะ สามารถเรียกค่าซ่อมคืน ค่าเสียผลประโยชน์เพราะไม่ได้ใช้รถ
วันนี้ (29 มี.ค.) กรณี เพจ “สภาองค์กรของผู้บริโภค” ได้โพสต์ระบุข้อความว่า “ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้มาสด้าเรียกคืนรถ Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซล ปี 2014-2018 ทุกคัน หลังผู้บริโภค 9 คน ยื่นฟ้องมาสด้า เนื่องจากพบปัญหาเรื่องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสั่น หรือเครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น นั้น
คดีดังกล่าวศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลพิพากษาว่า ให้บริษัทบจก.มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 52,600 บาท แก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 118,403.98 บาท แก่โจทก์ที่ 3 จำนวน 90,400 บาท แก่โจทก์ที่ 4 จำนวน 57,000 บาท แก่โจทก์ที่ 5 จำนวน 54,400 บาท แก่โจทก์ที่ 6 จำนวน 119,800 บาท แก่โจทก์ที่ 7 จำนวน 37,200 บาท แก่โจทก์ที่ 8 จำนวน 54,800 บาท และแก่โจทก์ที่ 9 จำนวน 68,700 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 29 มีนาคม 2561) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยที่ 1 จัดการประกาศและรับรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า รุ่นมาสด้า 2 สกายแอคทีฟ เครื่องยนต์ดีเซล ที่ผลิตระหว่างปี 2557 ถึงปี 2561 (ก่อนเปลี่ยน รูปร่างภายนอกและภายใน) เพื่อทำการแก้ไขภายในสองปีนับแต่วันพิพากษา โดยค่าใช้จ่ายของจำเลยที่ 1 เอง
ห้ามจำเลยที่ 1 จำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวที่ผลิตในช่วงปี 2557 ถึงปี 2561 (ก่อนเปลี่ยนรูปร่างภายนอกและภายใน) ที่เหลืออยู่ และให้เรียกเก็บรถยนต์รุ่นที่ผลิตในช่วงเวลาดังกล่าว ที่ยังไม่ได้จำหน่ายแก่ผู้บริโภคหากมีกลับคืนจนกว่าจะได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสินค้าดังกล่าวให้มีความปลอดภัย กับให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าฤชาธรรมเนียมต่อศาล ในนามของโจทก์ทั้ง 9 เฉพาะในทุนทรัพย์เท่าที่โจทก์ทั้ง9 ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความ 100,000 บาท และให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่ทนายความฝ่ายโจทก์ทั้งเก้า 150,000 บาท รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ตามบัญชีค่าใช้จ่ายที่ทนายความโจทก์ทั้งเก้ายื่นต่อศาลฉบับลงวันที่ 22 มีนาคม 2556 เป็นเงิน 294,744 บาท ให้แก่ทนายความฝ่ายโจทก์ทั้งเก้า คำขออื่นนอก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





