Home
|
ข่าว

ผลงานนายกฯ ผลักดันกม.5ฉบับจนสำเร็จ

Featured Image
โฆษกอวยผลงานนายกฯ ผลักดันกฎหมายสำคัญ5ฉบับจนสำเร็จ เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน

 

 

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญและติดตามผลงานการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของรัฐบาล ตามนโยบายของรัฐบาล ที่หน่วยงานฝ่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้มีการปรับปรุงประมวลกฎหมายหลักของประเทศและกฎหมายอื่น ๆ ที่ล้าสมัย ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องกับความตกลงระหว่างประเทศ และเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

 

โดยในห้วงเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ทำงานเชิงรุกแก้ไขกฎหมาย 5 ฉบับที่เป็นปัญหาโครงสร้างมาเป็นเวลานาน โดยกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ รัฐบาลผลักดันจนสำเร็จเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ประกอบด้วย

 

 

1. พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการฯ เป้าหมายเพื่อให้ประชาชนสะดวก ประหยัด และลดขั้นตอนวุ่นวายโดยไม่จำเป็น พร้อมปิดช่องทางทุจริตรับสินบนใต้โต๊ะ
2. พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 มีเป้าหมายเพื่อการปรับโครงสร้างปรุงวิธีการทำงานของภาครัฐ ด้วยการตรากฎหมายกลางเพียงฉบับเดียว เพื่อรับรองความชอบด้วยกฎหมายของการปฏิบัติราชการและการอนุมัติอนุญาตของภาครัฐตามกฎหมายทุกฉบับ

 

3. พ.ร.ก.แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2564 ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ จากเดิมที่คิดในอัตรา 7.5% มาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวนั้นสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมาก ซึ่งการเรียกดอกเบี้ยผิดนัดสูงมากเช่นนี้ เป็นการซ้ำเติมลูกหนี้และทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากความเป็นหนี้ได้ยาก และยังทำให้เจ้าหนี้ยื้อคดีความเพื่อหวังส่วนต่างดอกเบี้ย มีคดีอยู่ที่ศาลเป็นอันมาก
4. พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 กฎหมายนี้สอดคล้องกับมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ใช้โทษอาญาเพียงเท่าที่จำเป็น ซึ่งโทษปรับนั้นถือเป็นโทษอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา และระบบกฎหมายไทยแต่เดิมมาก็ใช้แต่โทษอาญา ทั้งเรื่องใหญ่ร้ายแรงและเรื่องเล็กเรื่องน้อย

 

5. พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลปัญหาของลูกหนี้กองทุน กยศ. จำนวน 6 ล้านคน แล้วได้สั่งการในคณะรัฐมนตรีให้คณะกรรมการพัฒนากฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอแก้ไขกฎหมายเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้รับฟังความเห็นของภาคส่วนต่าง ๆ แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กยศ.

 

 

โดยการปรับลดเพดานทั้งอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา และอัตราดอกเบี้ยผิดนัดให้มีความเหมาะสม ปรับปรุงงวดการจ่ายชำระหนี้ให้ถี่ขึ้นจาก งวดปี เป็น งวดเดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ให้ยาวขึ้นจาก 15 ปี เป็น 30 ปี พร้อมกำหนดให้เมื่อผู้กู้จ่ายชำระหนี้เข้ามาให้นำไปตัด “เงินต้น” ก่อน เพื่อช่วยให้ปลดหนี้ของผู้กู้หมดเร็วขึ้น ทั้งยังยกเลิกให้ไม่ต้องมี “ผู้ค้ำประกัน”

 

รวมถึงการปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่จะเอื้อให้ กยศ. สามารถดำเนินภารกิจได้คล่องตัวในการปล่อยกู้ได้หลากหลายเช่น กู้ยืมไป Reskill หรือ Upskill เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาและความต้องการแรงงานยุคใหม่

 

 

นายกรัฐมนตรี ยินดีที่รัฐบาลสามารถผลักดันกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ ที่เป็นปัญหาโครงสร้างมาเป็นเวลานาน จนสำเร็จเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอำนวยความสะดวกในการอนุญาตของทางราชการที่เปิดเผยขั้นตอนและระยะเวลาการทำงานทุกกระบวนงานของหน่วยงานของรัฐ ลดภาระประชาชน และสกัดทุจริตในระบบราชการ กฎหมายการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่อัพเกรดระบบทำงานทันโลกยุคใหม่ กฎหมายแก้ไขดอกเบี้ยผิดนัดมหาโหด และวิธีคิดดอกเบี้ยไม่เป็นธรรมที่ใช้มาเป็นเวลายาวนาน

 

 

เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม การคลอดกฎหมายปรับเป็นพินัยเพื่อสางปัญหาการเอาโทษอาญาไปข่มขู่ประชาชน รวมทั้งยกเครื่องกฎหมาย กยศ. ช่วยเด็กไทยอีกกว่า 6 ล้านคน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลกำหนดให้ปัญหาการทุจริตคอรัปชันเป็นวาระแห่งชาติ ปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยการมีกฎหมายที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของสากล จะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย อีกด้วย

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube