Home
|
ข่าว

ธงนำข่าว | “นายก”คนละครึ่ง!!

Featured Image

           “โครงการคนละครึ่ง” เป็น มาตรการบรรเทาค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ของ รัฐบาล “ลุงตู่” ได้รับความนิยมและเข้าถึงชาวบ้านค่อนประเทศซึ่งระหว่างนี้อยู่ขั้นดำเนินการต่อเนื่อง เฟส5.. มาถึง “นายกคนละครึ่ง” การเสนอแนวคิดให้ “พรรคพลังประชารัฐ”(พปชร.) เสนอ 2 ชื่อ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ในนาม พรรค  “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาถูกวางตัวให้ดำรงตำแหน่งนายกฯครึ่งแรก 2 ปีกว่า จนครบกำหนด 8 ปี ตาม ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสิน..ครึ่งหลัง เป็นวาระของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นลักษณะ สมบัติพลัดกันชม มรดกตกทอดมาจากเทือกเขาเหล่ากอ “คสช.”..

          เนื่องจาก “250สว.ลากตั้ง” ยังมีสิทธิ์โหวตเลือกผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯในรัฐสภาได้..สว.จึงเป็นขุมกำลังหลัก ให้ฝ่าย พปชร.สามารถกำหนดตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี”ได้หลัง การเลือกตั้งใหญ่ ที่จะมีขึ้น เพียงแต่จะเสนอชื่อบุคคลใดเป็น แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคระหว่าง “ลุงตู่”และ”ลุงป้อม”หรือทั้ง2ลุง ตามแนวคิด “นายกคนละครึ่ง”ซึ่งเป็นการ “โยนหินถามทาง” คำคุ้นปาก เพื่อตรวจสอบความชัดเจนภายใน พปชร.เป็นกลอุบายของ “ลูกพรรคบางกลุ่ม” ซึ่งเนื้อแท้ยังต้องการ “ลุงตู่” คุมบังเหียน เป็น “จอมทัพ” เข้าต่อกรกับ ฝ่ายตรงข้าม ยังมอง “ลุงป้อม”เป็นคนเก่าในโลกใหม่ ไม่เหมาะสมจะเป็นผู้นำด้วยสังขาร บุคคลิคและด้วยประการทั้งปวง..

           “นายกคนละครึ่ง” เป็นการปิดโอกาสการดำรงตำแหน่ง “นายกฯครึ่งหลัง” ของ “ลุงป้อม” อย่างสิ้นเชิง ด้วย ไทม์ไลน์ “250สว.” ซึ่งเป็น คะแนนหนุนหลัก จะสิ้นสุดลง ครบวาระ 5 ปี หลังโหวตเลือก “นายกฯลุงตู่”ได้เพียงปีเดียว..2 ปีกว่าหลัง “นายกลุงตู่” ครบ 8 ปีรัฐสภาไร้ซึ่ง “250สว.” ลากตั้งชุดนี้ ที่จะโหวตเลือก”ลุงป้อม”เป็น “นายกฯครึ่งหลัง” เว้นแต่ สูตรพิสดาร ผสมข้ามฝั่งกับ เพื่อไทย “นายกคนละครึ่ง2ป.” ส่งผลให้สภาพภายใน พลังประชารัฐ ยามนี้อึมครึมไร้ทิศทาง สส.อยู่ในท่าที เหยียบเรือสองแคม กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง ด้วยเงื่อนไข สังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน

          ยุทธวิธี “นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว” ของจอมทัพ “ลุงตู่” ศึกสนามนี้ใช้ได้ผล การใช้ ความสงบนิ่ง เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลง เพื่อกำหนดยุทธศาสต์การต่อสู้ทางการเมือง ของ “ลุงตู่” ดูฉลาดหลักแหลม การใช้ความเปลี่ยนแปลง เป็น บททดสอบ ความมั่นคงของสติปัญญา การไม่พูดไม่แสดงอาการทำให้ “ลุงตู่”เป็นบุคคลน่าค้นหา น่าเกรงขามจาก ฝ่ายตรงข้าม 

          กระทั่ง ฝั่งพันธมิตร ที่ออกมาการขับเคลื่อนหวังให้ “ลุงตู่”หลุดแผนกรำศึกสนามเลือกตั้งใหญ่ เผยไต๋การเมือง ก็ยังเป็น กลวิธี ที่ล้มเหลว โดยเฉพาะกับ “จอมยุทธ” ที่มีขุมกำลังเหนือกว่าหลายเท่าตัวด้วย “250สว.” อุดมการณ์ของ แต่ละพรรคการเมือง ก็หวังแค่สบโอกาสได้เข้าร่วมรัฐบาลเข้าบริหารแสวงหาผลประโยชน์ ถอนทุนคืน ซึ่งเป็น อุดมคติของทุกพรรค..  

          จะอย่างไรก็ตามการต่อสู้ในสนามเลือกตั้งก็ว่ากันไปตามครรลองกรอบกติกา แต่คงเป็น ตราบาปข้ามภพข้ามชาติ หากใครยังสะสมเสบียงกรังเป็นกำลังทุนการเมืองสกปรก หวังผลเพียงชัยชนะจากเม็ดเงินวงการนรก ยุคองค์กรอาชญากรเฟื่องฟู เกิดปม ตำรวจ ติดการพนัน ขโมยปืนหลวงขายแก๊งโจร กินทวนน้ำเรียกสินบนเป็นมัดยาบ้าแลกผู้ต้องหา กินตามน้ำ เปิด “ผับศูนย์เหรียญ” ผุด “แหล่งอบายมุข” ซุกนักเที่ยวต่างด้าวชนิด “ฝากยา” ได้เหมือน “ฝากเหล้า” ปล่อย “อาชญากร” ล้นเมือง “คนมีสี” ร่วมก่อคดีอัปยศ เกี่ยวข้องพัวพันกระทั่งดำเนินการ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เยาวชนคนในชาติตกเป็นทาสยาเสพติด ซื้อขาย เสพ หลอน คลั่งก่อเหตุ จับกุมจนล้นคุก ปล่อยออกมาเข้าสู่สังคมยาเสพติดวนไป เป็นวงจรอุบาทว์..

          ทั้งหมดทั้งมวลเป็นความรับผิดชอบในการบริหาร ของ “นักการเมือง”หรือไม่ หรือเป็นเพียง “ผู้ใหญ่”สร้างภาพ เบื้องหน้าน่านับถือ แต่ความเป็นจริงซ่อนอยู่เบื้องหลัง.. “คบเด็กเลวพังบ้าน-คบผู้ใหญ่พังเมือง”..

พบกับคอลัมน์ธงนำข่าวโดย บก.พี่ลุง ได้ทุกวันพฤหัสบดี แล้วร่วมติดตามอนาคตประเทศไทยไปพร้อมกัน

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube