สภาเริ่มพิจารณาแก้ รธน.จับตาปิดสวิตซ์ส.ว.
สภาพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ “วิสาร” ชี้บทบัญญัติสิทธิเสรีภาพหลายมาตราไม่ชัดเจน “ชลน่าน” เสนอแก้ไข ที่มาของนายกฯ “สมชัย” ชูตัดอำนาจส.ว.
การประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้ มีวาระการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายฉบับ โดยทางฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ได้มีการเสนอให้แก้ไขเนื้อหาที่มาของนายกรัฐมนตรี โดยที่มาของนายกรัฐมนตรีนั้นต้องมาจากการเป็น ส.ส. ในขณะที่เนื้อหาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญของทาง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่าด้วยประเด็นหน้าที่ของส.ว. ซึ่งมีการเสนอแก้ไขให้ยกเลิกให้ส.ว.มีส่วนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
โดยเริ่มอภิปรายที่ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ จากเพื่อไทย เสนอแก้ไขว่าด้วยเรื่องของสิทธิเสรีภาพ ซึ่งรัฐธรรมนูญที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้มีบทบัญญัติหลายมาตราที่เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนคนไทย มีความไม่ชัดเจนในหลายประเด็นโดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม ทั้งเรื่องของการปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา
รวมถึงเสรีภาพในการชุมนุมที่ชอบอ้างเรื่องของข้อจำกัด ทำให้รัฐธรรมนูญที่ตราขึ้นมานี้มีกรอบที่จำกัดในการดำเนินการของกลุ่มต่างๆตามสิทธิเสรีภาพ นอกจากนี้ยังมีสิทธิเรื่องของการประกันสุขภาพโดยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีภาคบังคับในเรื่องของการให้การช่วยเหลือจากภาครัฐว่าด้วยการประกันสุขภาพ และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ
จากนั้น นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว จากพรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยเนื้อหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นเรื่องที่มานายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ส.ให้ความเห็นชอบบุคคลในการเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้มีการกำหนดคุณสมบัติว่าต้องเป็น ส.ส. ถือว่าไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่ผ่านๆมาที่นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. จึงจำเป็นต้องเพิ่มรายละเอียดดังกล่าวขึ้นมา
ซึ่งการแก้ไขนี้ยังคงสาระเดิม คือ ให้พรรคการเมืองเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 3 ชื่อและต้องได้รับความยินยอมจากคนที่ถูกเสนอชื่อ แต่คนที่ได้รับการเสนอชื่อนี้ต้องได้รับความมั่นใจว่าจะเป็นผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็น ส.ส.เขตหรือบัญชีรายชื่อ ต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับก่อนที่จะต้องมาจากลำดับที่ 1 ของบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในฐานะตัวแทนภาคประชาชนที่เสนอแก้ไขเนื้อหาว่าด้วย การเปลี่ยนอำนาจหน้าที่ ส.ว.เลือก นายกรัฐมนตรี โดยเปลี่ยนแปลงบางข้อความ เพื่อยกเลิกอำนาจ ส.ว.ในการร่วมลงมติเรื่องนายกรัฐมนตรีในบทเฉพาะการ และคงกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีจากคนนอกเหมือนเดิม แต่ขั้นสุดท้ายให้มาเลือกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น
เพราะเมื่อใดก็ตาม หาก ส.ว. สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าหากนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองก็ถือได้ว่า ส.ว.ไม่มีความเป็นกลาง และอาจเกิดข้อครหาต่อประชาชนได้ ส่วนประเด็นที่ว่าหากจะแก้ตรงนี้ต้องกลับไปทำประชามติอีกหรือไม่นั้น เห็นว่า การทำประชามติมีประเด็นเพียงแค่ หมวดที่ 1 และ 2 เท่านั้น หรือต้องทำในเรืาองที่เกี่ยวกับ อำนาจหน้าที่ของ ศาล หรือ องค์กรอิสระ
และยังเห็นว่าการแก้ไขบทบาทหน้าที่ของ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องแก้ไขหลังครบรายละเอียดบทเฉพาะการในการเลือกนายกรัฐมนตรีเพราะทุกปีมีความหมาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





