Home
|
เศรษฐกิจ

สสว. ส่งซิกเตือนSMEรับมือผลกระทบรัสเซีย-ยูเครน

Featured Image
สสว. ส่งสัญญาณเตือนเอสเอ็มอีไทยกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับเทียม ผลไม้สดแปรรูป ข้าวและธัญพืชเตรียมรับมือผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน

 

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์และวิเคราะห์เตือนภัยเอสเอ็มอี เกี่ยวกับการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่า สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก เนื่องจากรัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าสำคัญและเป็นประเทศเป้าหมายที่ไทยต้องการขยายความสัมพันธ์ทั้งด้านการค้าการลงทุน เพราะเป็นประตูที่จะขยายการค้าไปสู่กลุ่มประเทศในภูมิภาคยูเรเซีย

 

ขณะที่ยูเครน เป็นประเทศที่ไทยมีมูลค่าการส่งออกรวม 134.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นส่วนของเอสเอ็มอี 15.10 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30% สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ และราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการประกอบการในทุกวิสาหกิจให้เพิ่มสูงขึ้น

 

ฃในปี 2564 ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี มีการส่งออกสินค้าไปรัสเซียและยูเครนอยู่ในอันดับที่ 29 และอันดับที่ 70 ตามลำดับ สินค้าส่งออกได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับเทียม ผลไม้สดและแปรรูป ข้าวและธัญพืช โทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสาร ฯลฯ แม้ว่าโดยภาพรวมจะยังไม่เห็นผลกระทบทางตรงที่ชัดเจนนัก นอกเหนือจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวม 565 ราย ที่มีการส่งออกไปยัง 2 ประเทศ ต้องเตรียมการรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาจากภาวะวิกฤติดังกล่าว

 

ทั้งนี้ เมื่อประเมินผลกระทบในมิติด้านการค้าระหว่างไทยกับรัสเซีย พบว่า ประเทศไทยขาดดุลการค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 ไทยส่งออกสินค้าไปรัสเซียมูลค่ารวม 1,028 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

นอกจากนี้รัสเซียเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวไทยโดยในปี 2562 ก่อนวิกฤติ COVID-19 นักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนถึง 1,481,837 คน สร้างรายได้จากท่องเที่ยวจำนวน 102,895.03 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากวิกฤติการณ์สู้รบครั้งนี้ มีตั้งแต่การส่งออกสินค้า รวมถึงการค้าการลงทุนที่จะชะลอตัว ขณะที่การนำเข้าสินค้าทั้งด้านวัตถุดิบ ด้านการเกษตรและพลังงานจะยากลำบากขึ้น เกิดภาวะเงินเฟ้อ

 

โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี จะได้รับผลกระทบด้านราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น และหากสถานการณ์มีความยืดเยื้อ อาจกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศข้างเคียง ได้แก่ โปแลนด์ เบลารุส ฮังการี มอลโดวา สโลวาเกีย และ โรมาเนีย ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ส่งออกและนำเข้าสินค้าจากรัสเซียและยูเครนจะต้องเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ทีเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถรับมือและแก้ปัญหาได้ทันการณ์

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube