Home
|
ข่าว

นายกฯ ย้ำการเข้าถึงวัคซีนโควิดทั่วถึงคือปัจจัยสำคัญ

Featured Image
นายกฯ ย้ำที่ประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย การเข้าถึงวัคซีนและยาต้านโควิด-19 อย่างทั่วถึง คือปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหาและฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 18 ผ่านระบบการประชุมทางไกล? พร้อมผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน และนายกรัฐมนตรีนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย

กล่าวว่า อาเซียน-อินเดียเป็นความร่วมมือที่แนบแน่นแม้จะประสบความท้าทายจากโควิด-19 ซึ่งอินเดียยินดีให้ความร่วมมือกับอาเซียน อินเดียมีความเชี่ยวชาญด้านยา และเวชภัณฑ์เพื่อให้ภูมิภาคผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ตลอดจน อินเดียให้ความสำคัญกับความเป็นเเกนกลางของอาเซียนในนโยบายมองตะวันออกของอินเดีย โดยเห็นว่าควรเพิ่มความร่วมมือด้านความเชื่อมโยงในระดับประชาชน เพื่อเสริมความเข้มเเข็งให้กับห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจน ส่งเสริมการค้า ในภูมิภาค ทั้งนี้ อินเดียยืนยันพร้อมร่วมมือกับอาเซียนเพื่อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย

ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทาย อาเซียนและอินเดียต่างเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ได้ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ ในปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่ยุคหลังโควิด-19 โดยเชื่อมั่นว่า อาเซียนและอินเดียจะสามารถร่วมกันสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้คนในรุ่นหลังต่อไปได้ โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้ “มองไปข้างหน้า” มากขึ้นผ่านการส่งเสริมความร่วมมือใน 3 ประเด็น ดังนี้

ประการแรก การส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนและยาต้านโควิด-19 อย่างทั่วถึง เป็นธรรม และรวดเร็ว นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด และยินดีที่อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตยาและวัคซีนแหล่งสำคัญของโลก ประกาศที่จะส่งออกวัคซีนอีกครั้ง

ประการที่สอง การส่งเสริมความเชื่อมโยงเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบและเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อทำให้การค้าการลงทุนขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการทางหลวงสามฝ่าย ที่จะช่วยเติมเต็มเส้นทางเชื่อมโยงทางบกระหว่างอาเซียนกับอินเดีย และขยายไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้และกลุ่ม BIMSTEC ซึ่งไทยจะเป็นประธานในปี ค.ศ. 2022 – 2023 รวมทั้ง ควรให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยงในระดับประชาชน โดยเฉพาะการฟื้นฟูการท่องเที่ยว

ประการที่สาม การส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อก้าวสู่ยุคใหม่ที่ดีกว่า โดยไทยในฐานะผู้ประสานงานของอาเซียนในเรื่องนี้ พร้อมผลักดันความร่วมมือกับอินเดียในด้านการเติบโตสีเขียว เศรษฐกิจภาคทะเลที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เกษตรอัจฉริยะ และพลังงานหมุนเวียน เพื่อร่วมกันพัฒนา “จุดแข็ง” และรักษา “สมดุล” ระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

นายกรัฐมนตรี? เน้นย้ำการส่งเสริมความร่วมมือแบบ “มองไปข้างหน้า” เป็นกุญแจสำคัญที่จะกำหนดทิศทางความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับอินเดียในอนาคต โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2565 ที่อาเซียนและอินเดีย จะฉลองโอกาสความสัมพันธ์ครบรอบ 30 ปี นอกจากนี้ การรับรองแถลงการณ์ร่วมอาเซียน-อินเดีย ว่าด้วยความร่วมมือต่อมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก ในครั้งนี้ จะส่งเสริมความร่วมมือภายใต้มุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก กับ ข้อริเริ่มมหาสมุทรอินโด-แปซิฟิกของอินเดีย

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube