fbpx
Home
|
ข่าว

“ปานปรีย์”ดูจุดริเริ่มส่งช่วยเหลือมนุษยธรรมไทยเมียนมา

Featured Image
“ปานปรีย์” ลงพื้นที่ดูจุดริเริ่ม ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมชายแดนไทยเมียนมา ประสานลงตัว คาด? 1 เดือนเห็นเป็นรูปธรรม ยืนยัน ไม่ใช่ศูนย์ลี้ภัย เชื่อเจตนาต้องการช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ลั่น ไม่ใช่เรื่องการเมือง ไม่ขอแทรกแซง

 

 

 

 

 

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตากเพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจและสาธารณสุขชายแดนที่อาคารด่านศุลกากรแม่สอด สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย-ตองยิน แห่งที่ 2 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม อาทิ นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พลตรีณรงค์ฤทธิ ปาณิกบุตรผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ร่วมประชุม จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและคณะจะเยี่ยมชมจุดผ่านแดนถาวรไทย-เมียนมาบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และพิธีการศุลกากรที่อาคารด่านศุลกากรแม่สอด

 

 

โดยนายปานปรีย์ กล่าวภายหลังการรับฟังการบรรยายสรุปว่า คิดว่าจะผลักดัน ให้เป็นรูปธรรมได้ภายใน 1 เดือน ในการตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา โดยจุดนี้เป็นจุดแรก ที่จะส่งความช่วยเหลือเข้าไป โดยได้มีการประสานกับ รัฐบาลเมียนมาในลำดับแรกและได้รับการตอบรับด้วยดี และส่งทีมมาพูดคุยยังประเทศไทย

 

 

ขณะเดียวกัน นายปานปรีย์ ยังระบุอีกว่า รัฐบาลไทยมีความพยายามในการประสานกับชนกลุ่มน้อยต่างๆซึ่งมีจำนวนมาก ซึ่งในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ผ่านมา ได้ตั้งนายอรุณ แก้วมา ประสานงานนำร่องไปเจรจาและไทยก็พยายามประสานอยู่ ซึ่งคาดว่าเมื่อทุกฝ่ายสามารถร่วมมือกันช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้ จะเกิดการพูดคุยกัน ที่จะนำไปสู่การพูดคุยหรือที่เรียกว่า dialog ซึ่งเชื่อว่าหากสามารถพูดคุยกันได้ก็จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมียนมา และอาจจะทำให้มีการหยุดยิง

 

 

นำไปสู่การเจรจาเพื่อสันติภาพต่อไป จึงคิดว่าข้อริเริ่มที่ไทยดำเนินการ อาจนำไปสู่การพูดคุยได้เพราะเป็นเรื่องกับประชาชนโดยตรง ไม่มีเรื่องของการเมือง ดังนั้นทุกฝ่ายน่าจะเห็นด้วยกับแนวทางนี้ที่อาเซียนเสนอมาตั้งแต่ต้น พร้อมกับเชื่อว่าทุกฝ่ายในเมียนมาต้องการความสงบสุข และกลับไปสู่สันติภาพ

 

 

และทางเดียวที่ทำได้คิดว่าการที่ทุกฝ่ายจะต้องหันมาพูดคุยกัน ภายใต้นโยบายด้านความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งนี้นายปานปรีย์ ยืนยันว่า ไม่ได้ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ทำเพื่อประชาชนชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบ และสิ่งที่ทำก็อยู่ภายใต้ฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน และขอยืนยันว่าเป็นคนละเรื่องกับการตั้งศูนย์รับผู้ลี้ภัยแต่อย่างไรก็ตามไทยก็ได้มีการเตรียมความพร้อมหากมีกรณีที่เกิดเหตุความรุนแรง แต่กรณีนี้ เป็นเรื่องของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยจะเป็นลักษณะที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว และอยู่ในฝั่งของเมียนมา

 

 

 

ส่วนที่มีข้อกังวลถึงการประสานกับสภากาชาดของเมียนมาในการ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ขออย่ากังวล การทำงานจะต้องมีจุดเริ่มต้น เมื่อเริ่มต้นมาถึงจุดนี้แล้ว ก็จะต้องนำสภากาชาดของประเทศไทยและเชื่อว่าทุกคนให้การยอมรับแต่มีข้อสงสัยว่าสภากาชาดของเมียนมานั้นเป็นกลางหรือไม่? ได้มีการร้องขอให้ AHA Center และกาชาดสากลรับปากจะเข้ามา ซึ่งหน่วยงานกลางของอาเซียนเข้าสังเกตการณ์ด้วย เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับทุกฝ่ายว่าการลำเลียงสิ่งของ
โดยยืนยันไม่มีเรื่องการเมือง แต่เป็นการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนที่มีใครเป็นกังวลหรือไม่ตนชื่อว่ากาชาดของเมียนมามีเจตนาที่จะช่วยเหลือประชาชนเช่นเดียวกัน

 

 

 

ส่วนการแจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือ นายปานปรีย์ กล่าวว่า สิ่งของที่จะนำไปช่วยเหลือในเบื้องต้น กับกลุ่มคนประมาณ 20,000 คนจะต้องมีการ สังเกตการว่า มีการแจกจ่ายทั่วถึงหรือไม่ มีปัญหาตรงไหนก็ต้องนำกลับมาแก้ไขซึ่งวันนี้จะให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ 100% คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ในเมียนมาวุ่นวายมาก ต่างคนต่างไม่มีใครยอมใคร ดังนั้นจึงต้องทำตรงนี้ให้เป็นขั้นตอน ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นว่าน่าจะเรียบร้อยดีที่สุด พร้อมย้ำว่าตรงนี้เป็นจุดแรกค่ะประสบความสำเร็จ

 

 

 

ได้รับความสนับสนุนจากทุกฝ่าย ก็เชื่อว่าจะขยายยังจุดอื่นต่อไป ซึ่งจากการที่ไปร่วมการประชุมทั้งในอาเซียน? EU และอาเซียนอินโดแปซิฟิก ก็ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งEUยืนยันว่าหากศูนย์นี้เกิดก็พร้อมให้การสนับสนุนในวงเงินที่สูงมาก ถึง 20 ล้านยูโร ขณะที่ในวันพรุ่งนี้นายปานปรีย์ จะพบปะผู้ประกอบการรายย่อยที่ริมเมย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ข้ามแม่น้ำเมย-ตองยิน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube