fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

5 ดาวดังสู่ดาวดับปี 66

ในแวดวงการเมืองปี 2566 มีดาวรุ่งพุ่งแรงชายหญิงหลายราย ที่ก้าวเข้ามาในฐานะผู้รับใช้ประชาชน แต่ในทางกลับกัน ดาวดังคับจอเฉิดฉายหลายรายเมื่อต้นปี กลับมาต้องกลายเป็นดาวดับอับแสงหลังศึกเลือกตั้งใหญ่

 

 

 

 

 

 

เมื่อเดือนพ.ค. จากอำนาจเปลี่ยนมือ หมดสมัยขุนทหาร เข้าสู่ยุคผู้นำพลเรือนเต็มสูบ โดยปี66 จะพบดาวดับ 5 ราย คนแรกเขาคือ “แรมโบ้ เสกสกล อัตถาวงศ์”สังกัดมาแล้ว 8พรรคการเมือง อดีตเสื้อแดงตัวพ่อ อดีตสส.เพื่อไทย สู่ ตัวตึงสุดๆยุคลุงตู่

 

 

 

 

ต่อมาลมเปลี่ยนทิศ “แรมโบ้ “ที่ซุกฝั่งปีกขวาจัด ไม่ประสบความสำเร็จกลับมาเป็นสส.ได้อีกครั้ง ทั้งที่ช่วงหาเสียงนั้นฟุ้งน้ำลายไว้มากมาย แต่พอสนามจริงพ่ายหมดรูป ทำให้เขากระอักเลือดหนัก ต้องเก็บงำในมุมมืดหลายเดือน จนโลกโชเชี่ยลประกาศหาตามหาคนหายกันเลยทีเดียว แต่ต่อมาเขาได้ถูกเรียกให้บริการอีกครั้ง ได้เป็น1 ในทีมที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

 

 

 

 

แต่กลับไม่ปรากฎตัว ไม่ออกสื่อหรือแอ็คชั่นอะไรเลย จึงกลายเป็นดาวดับโรยราไปแล้ว คนที่2 “ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ” ฉายา ‘ส.ส.เอลวิส’ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุตรดิตถ์เขต 2 โด่งดังมาจากสไตล์การปราศรัยที่ดุดัน แต่ที่เด็ดสุดคือการที่เคยด่าลุงตู่แบบฝีไม่เผาเงาไม่เหยียบ แต่ต่อมากลับมาซบค่ายรวมไทยสร้างชาติ เป็นการกลับตัวย้ายค่ายแบบสวิงสุดขั้ว แต่ต่อมาเขาพ่ายในศึกเลือกตั้ง 2566 และจากนั้นเขากลับมาอีกครั้งเมื่อการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 3 ตุลาคม 2566 ได้รับแต่งตั้งให้เขาเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่ก็แทบไม่ปรากฎชื่อออกสื่อเลย

 

 

 

 

คนที่ 3.”ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ”หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ เบอร์ใหญ่คับทำเนียบในสมัยลุงตู่คุมประเทศ ซึ่งก่อนเลือกตั้ง ลุงป้อมถูกจับแต่งตัวใหม่ปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยหวังส้มหล่นขึ้นเสพสมอำนาจในฐานะผู้นำประเทศสักครั้งในชีวิต แต่ชายชราต้องฝันค้างเมื่อลูกพรรคทำไม่ได้ตามเป้าหมาย และแม้สุดท้ายจะเกาะขบวนรถไฟอำนาจได้เข้าร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย แต่บทบาทของลุงป้อมก็ค่อนข้างโลว์โปรไพล์ ประชุมสภาก็ไม่เห็นหน้า ข่าวคราวก็เงียบหาย แต่ช่วงก่อนหมดปี2566 ได้ไม่นาน ลูกหาบในพรรคก็ออกมาปล่อยข่าวว่า ประวิตรคัมแบ็กการเมืองหลังปีใหม่ จัด พลังประชารัฐสัญจร’ เริ่มที่จังหวัดเพชรบูรณ์ 8 ม.ค. 2567

 

 

 

 

คนที่4 “อู๊ดด้า-จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์”หัวหน้า’ประชาธิปัตย์’ คนที่8 พรรคการเมืองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย โดยในช่วงที่หัวหน้าอู๊ดด้าครองอำนาจในสำนักสีฟ้า มีเหล่าสมาชิกทยอยลาออกเกือบครึ่งร้อยราย และในช่วงดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในยุคลุงตู่จะมีผลงานเด่นๆอย่างเดียวคือโครงการประกันราคาสินค้าเกษตร ข้าว ยาง ปาล์ม และหลังศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุดจากจำนวนสส.ค่ายสีฟ้.าจาก 52ราย เหลือ25 รายทำให้จุรินทร์ ไม่ทีทางเลือกต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค และจากนั้นก็ไม่ค่อยมีบทบาทอะไรมากนัก กลายเป็นดาวโรยอย่างเต็มรูปแบบไปแล้ว

 

 

 

 

 

คนที่5 .”เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น” สส.ชลบุรี 2 สมัย หัวหน้าซุ้มใหญ่เมืองชล อดีตลูกน้องกำนันเป๊าะตั้งแต่อายุ 25 ปี อดีตมือขวาลุงตู่ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยสมัยเป็นเสนาบดีในยุคลุงตู่ จัดเป็นคนแรงๆ ใครด่ามา ด่ากลับแบบไม่โกง ตามสไตล์นักเลงภูธร ต่อมาเมื่อย้ายมาซบค่ายรวมไทยสร้างชาติแล้วล้มหล่นได้เข้าร่วมรัฐบาล ช่วงแรก”เสี่ยเฮ้ง”เป็นตัวเต็งที่จะกลับเข้ามาเสวยอำนาจอีกครั้ง แต่ทว่า ต้องพ่ายให้กับแรงเสียดทานพิเศษ จึงหลุดโควต้าไป

 

 

 

 

จากนั้นเขาก็ไม่มีตำแหน่งแห่งหนอะไร และค่อยๆเฟดตัวเองลดบทบาทลง กลายเป็นดาวร่วงไปอีกราย อย่างไรก็ตาม เป็นวัฏจักรอำนาจ ที่มีขึ้นก็ต้องมีลง มีฉายแสง ต้องมีลาร้าง มันขึ้นอยู่ว่าช่วงที่มีตำแหน่ง มีบารมี สร้างผลงานอะไรเป็นที่น่าจดจำ และให้ชื่นชมได้หรือไม่ เพราะทุกผู้ทุกนาม หัวโขนที่สวมใส่ วันหนึ่งก็ต้องถอด เหลือแต่คุณงามความดีที่จะติดตัวไปตลอดนั้นเอง!

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube