Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ตม.ผนึกกำลัง ททท. ดูแลนักท่องเที่ยวคริสต์มาส-ปีใหม่ 69

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เดินหน้ายกระดับการดูแลและอำนวยความสะดวกด้านพิธีการเข้าเมืองในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2569 เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัย และสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางถึงประเทศไทย

 

การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พลตำรวจโท ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมเชิงรุกในทุกมิติ สอดรับกับนโยบายรัฐบาลด้านการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้น “คุณภาพมากกว่าปริมาณ ภายใต้แนวคิด “Stay Focus” ทำงานอย่างมีเป้าหมาย ใช้ข้อมูลเป็นฐาน และบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนอย่างมืออาชีพ

 

พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี โฆษก สตม. เปิดเผยว่า สตม. ได้จัดทำแผนและมาตรการรองรับการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการเข้าเมืองในช่วงเทศกาลสำคัญ ภายใต้หลักความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ โดยมีการปฏิบัติตามแผนป้องกันและสกัดกั้นอาชญากรรมควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง ช่วงเวลาการดำเนินการครอบคลุมตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ถึง 5 มกราคม 2569

 

ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเข้า–ออกประเทศเฉลี่ยมากกว่า 166,000 คนต่อวัน ผ่านท่าอากาศยานหลักของประเทศ ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่

 

สำหรับ มาตรการสำคัญประกอบด้วย

-จัดกำลังเจ้าหน้าที่เต็มอัตราทุกช่องตรวจในช่วงที่มีเที่ยวบินหนาแน่น เพื่อเร่งระบายผู้โดยสารให้แล้วเสร็จภายใน 30 นาที
-ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่งดการลาพักผ่อนตลอดช่วงเปิดใช้แผน เพื่อให้กำลังพลเพียงพอและต่อเนื่อง
-บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารอย่างรอบด้าน

 

พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่าในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ปีนี้ ทาง สตม.ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ในสังกัด เพื่อคัดกรองบุคคลที่เข้าออกประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่ได้รับอนุมัติฟรีวีซ่า เนื่องจากประเทศต้นทางไม่ได้ตรวจสอบประวัติและคัดกรองบุคคลก่อนจะเข้าประเทศไทย ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาเที่ยวประเทศไทยจริงหรือไม่ หรือใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน หรือเข้ามาก่ออาชญากรรมในไทย

 

จึงมุ่งเน้นตรวจสอบบุคคลกลุ่มดังกล่าวเป็นพิเศษตามหลักสากล เกี่ยวกับแผนการเดินทาง ที่พัก มีตั๋วเครื่องบินเดินทางไปและกลับ ตลอดจนเบี้ยยังชีพที่ใช้ขณะอยู่ในประเทศไทย

 

 

อีกทั้งยังยอมรับว่าโครงการฟรีวีซ่า ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งมีสถานการณ์ที่อยู่ในภาวะไม่ปกติอย่างเช่นปัจจุบัน ที่มีการสู้รบกันระหว่างไทย-กัมพูชา จึงต้องมีความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลในกลุ่มนี้มากขึ้นไปด้วย แม้ว่าโครงการฟรีวีซ่านั้นจะเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวก็จริง แต่ก็เหมาะสมกับในสถานการณ์ปกติมากกว่า

 

ส่วนกรณีที่มี กระแสข่าวว่ามีทหารรับจ้างจากทางยุโรปตะวันออกเดินทางเข้ามาประเทศไทย ก็มีการเฝ้าระวังและคัดกรองเป็นพิเศษ รวมถึงชาวกัมพูชาที่เข้าออก และอยู่ในประเทศด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube