fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ส่องขุมกำลัง สร้างอนาคตไทย

ส่องขุมกำลัง สร้างอนาคตไทย

 

“อุตตม-สนธิรัตน์” เปิดตัวขุนพล ”พรรคสร้างอนาคตไทย” ระบุยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดปัญหาบ้านเมือง ขออาสาทำงาน เป็นหนึ่งทางเลือกให้ประชาชน โวนโยบายเข้าถึงได้

 

“พรรคสร้างอนาคตไทย” ร่วมสร้างอนาคตไทย ฟื้นเศรษฐกิจ สร้างอนาคตประเทศ นำโดยนายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะผู้ก่อตั้งร่วมแสดงเจตจำนงร่วมกัน เพื่อเข้ามาทำงานการเมือง แก้ปัญหาประเทศ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาเดินต่อไปได้

 

โดยได้เปิดวิดีทัศน์ สะท้อนปัญหาวิกฤติโควิด-19 และปัญหาสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้ และแนะนำคณะผู้ก่อตั้งพรรคกว่า 20 คน ทั้งจากภาคธุรกิจ, ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คนรุ่นใหม่ ภาคสังคม วิชาการ ภาคการเมือง ภาคประชาสังคม เช่น นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์, นายสุพล ฟองงาม และนายสันติ กีระนันท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือ ครูเป็ด อดีตกรรมการบริหารพรรคกล้า และนายวัชระ กรรณิการ์ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

โดยนายอุตตม ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ได้กล่าวจุดประสงค์ของการตั้งพรรค เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ โดยระบุว่าสถานการณ์ประเทศไทยขณะนี้มีความน่าเป็นห่วง ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตและปากท้องของประชาชน และยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดของปัญหา ที่บั่นทอนความหวังของคนไทย ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ออกจากรัฐบาล ตนและทีมงานมีโอกาสได้รับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน หนึ่งในนั้นอยากเห็นสมการการเมืองที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น อยากเห็นพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นจากการร่วมกลุ่มคนในหลายภาคส่วน ระดมสมองแก้ไขปัญหาของประเทศ เพื่อสร้างอนาคต

 

ด้านนายสนธิรัตน์ ระบุว่า วันนี้ต้องการแสดงเจตนารมณ์ต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยพรรคนี้เกิดขึ้นเพราะปัญหาของบ้านเมือง ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าเพียงพอแล้วกับงานการเมือง แต่เราสองคนและทีมงานได้เจอกับปัญหาต่างๆในช่วงที่ผ่าน จึงขออาสาทำงานเพื่อประชาชนบนวิกฤตของชาติ สิ่งที่ต้องการคือความหวัง ยอมรับว่าการตั้งพรรคการเมืองไม่ง่าย การจะเกิดพรรคได้นั้น ต้องอาศัยที่น้องประชาชน เชื่อว่าพรรคจะนำพาพวกเขาได้

 

อย่างไรก็ตามปัญหาขณะนี้ เป็นปัญหาที่ถลำลึกจากการบริหาร รวมกับสถานการณ์โควิด-19 จึงตัดสินใจรวบรวมผู้คน พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยน ซึ่งพบว่ายังมีคนที่มีพลัง ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง จึงได้ตัดสินใจอาสาร่วมกันพัฒนาประเทศ

 

โดยนายสนธิรัตน์ ย้ำว่าพรรคนี้ไม่ใช่พรรคของนักการเมือง แต่เป็นคนที่มาจากทุกภาคส่วน มีปราชญ์ชาวบ้าน และผู้ที่มาความรู้ ความสามารถในสาขาวิชาต่างๆ ที่ขอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาคการเมือง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ตั้งใจทำนโยบาย และแม้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ไม่ให้ประเทศถดถอยไปมากกว่านี้

 

และย้ำว่าพรรคทำงานบนอุดมการณ์เดียวกัน จะแก้ปัญหาที่จมลึก จะทำทุกทางให้บ้านเมืองนี้มีโอกาส เราเป็นเพียงคนที่เคยมีประสบการณ์ ที่เข้ามาทำงาน เพื่อให้พรรคสร้างอนาคตไทย จะเป็นเสาหลักของทางการเมืองของไทย ทั้งนี้ช่วงท้ายนายสนธิรัตน์ ระบุว่า แนวทางการสร้างพรรคไม่ใช่เพราะการเลือกตั้ง แต่ต้องการยึดโยงกับประชาชน

 

นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ยังกล่าวถึงจุดยืนในการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ ว่า การทำงานครั้งนั้น เพราะต้องการทำงานให้บ้านเมือง แต่เมื่อเงื่อนไขการเมืองเปลี่ยนตนก็ออกมา

 

วันนี้ยังคงทำงานให้บ้านเมือง และย้ำว่าตนไม่ได้ทำงานให้ใคร และพรรคก็มีกระบวนการในการสรรหา เป็นไปตามกฏหมาย ซึ่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคจะมีสามคน คือหัวหน้าพรรค และอีกสองคนที่ต้องพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมพรรค ซึ่งใครที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องผ่านการประชุมของพรรคก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่พรรคนอมินีของ พล.อ.ประยุทธ์

 

ส่วนนาย สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ยืนยันว่า จะไม่เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรค โดยพรรคจะสรรหานายก ที่จะสามารถแก้ปัญหาประเทศได้ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ที่จะสามารถเป็นที่ยอมรับ และสามารถนำพาประเทศไทยให้แข่งขันกับนาๆประเทศได้

 

แต่ส่วนการสนับสนุนใครให้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งนั้น ก็ต้องถามประชาชนให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ จากนี้ไปพรรคก็จะต้องเตรียมตัวเพื่อจะส่งผู้สมัครลงสนามการเลือกตั้งต่อไป

 

ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีมีความเหมาะสมจะเป็นหนึ่งในเเคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ นายอุตตม ระบุว่า นายสมคิด สนิทและไม่เคยทอดทิ้งพวกตน ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่นั้น ตนก็มีความเชื่อมั่น แต่ใครจะมาเป็นก็จะต้องผ่านกระบวนการของพรรคเสียก่อน

 

ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทย แตกต่างอย่างไรกับพรรคที่เกิดใหม่ นายอุตตม ระบุว่า เรามีเป้าหมาย และจุดยืนชัดเจน คือ เข้ามาฟื้นเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในวันนี้ เราแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะเน้น ระดมผู้คนจากหลากหลายภาคส่วน ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย สิ่งเหล่านี้จะปรากฏออกมาให้ประชาชนได้เห็นว่า พรรคสร้างอนาคตไทย สามารถรวบรวมผู้คน นำเสนอชุดความคิดใหม่

 

 

โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า พรรคเรามีความแตกต่างแน่นอน เพราะพรรคนี้จะฟื้นเศรษฐกิจ เป็นพรรคที่มีความมุ่งมั่นในการฟื้นเศรษฐกิจ มีประสบการณ์ มีคนทำงาน มีผู้เชี่ยวชาญ มั่นใจว่า จุดแตกต่างคือ พรรคเรามุ่งหน้าฟื้นเศรษฐกิจคือภารกิจหลัก

 

ทั้งนี้นายสนธิรัตน์ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีพรรคสร้างอนาคตไทย ตั้งเป้าหมายจะได้จำนวน ส.ส.เท่าไหร่ โดยระบุว่า อยู่ที่ประชาชน วันนี้ตนขอทำงานก่อน และความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพราะวันนี้พึ่งเริ่มต้น

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitterhttps://twitter.com/innnews

Youtubehttps://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTokhttps://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account@innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube