fbpx
Home
|
อาชญากรรม

อัจฉริยะ จี้ ปส. ขอหมายจับ สว.ดัง

Featured Image
“อัจฉริยะ” มอบหลักฐาน เร่ง บช.ปส. ออกหมายจับ สว.ชื่อดัง สมคบยาเสพติด-ฟอกเงิน รวมถึงจะดําเนินคดีกับการไฟฟ้า

 

 

วันนี้(27 ม.ค. 66) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นําหลักฐานการสมคบยาเสพติดและฟอกเงินของ สว. ชื่อดัง ยื่นต่อ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด

 

 

นายอัจฉริยะ เผยว่า มีหลักฐานตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน พบมีการซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าแม่สายส่งข้ามไปยังบ่อนพนันในประเทศเพื่อนบ้าน และเอาไฟฟ้าที่ซื้อไปจากไทยไปปล่อยให้กับชนกลุ่มน้อย ใช้ผลิตยาเสพติดและยาเสพติดนั้นได้กระจายกลับมาสู่ประเทศไทย ซึ่งเงินที่การไฟฟ้าได้มานั้นเป็นเงินจากบัญชีม้าของขบวนการค้ายาเสพติด

 

โดยคู่สัญญาของการไฟฟ้าคือบริษัทอัลลัวร์ที่นายอุปกิจไปลงทุน และตอนนี้กําลังโดนตั้งข้อหาสมคบยาเสพติดและฟอกเงิน แต่พบยังมีการจ่ายเงินให้การไฟฟ้าทุกเดือน เดือนละ 50 ล้านบาท ผ่านบัญชีม้า ซึ่งหากปล่อยไว้เช่นนี้ ก็จะทําให้ยาเสพติดไหลทะลักเข้าสู่ประเทศไทยต่อไปเรื่อยๆ

 

นายอัจฉริยะ กล่าวเพิ่มว่า ตนทราบว่าจะมีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่ทําคดีนี้ทั้งหมด ซึ่งผิดสัยเพราะนี้ถือเป็นคดีสําคัญ อีกทั้งมีหมายจับออกมาล้อมรอบตัวนายอุปกิจถึง 8
ถูกจับไปแล้ว 4 หมาย เหลืออีก 4 หมาย ซึ่งทุกคนที่เชื่อมโยงกับนายอุปกิจทั้งสิ้น

 

 

ก่อนหน้านี้นายอัจริยะ ได้ไปยื่นเรื่องดังกล่าวที่กระทรวงยุธรรมและเลขาฯ ป.ป.ส. แล้ว ซึ่งทั้งสองบอกว่าหากทาง บช.ปส.ออกหมายจับจะสามารถยึดอาทรัพย์กว่า 15,000 ล้านบาท ได้ทันที แต่นายอัจฉริยะ ตั้งข้อสังเกตุหลังพบว่ามีอดีต ผบ.ตร 2ท่านที่เกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะพบมีการลงทุนกับนายอุปกิจ รวมถึง อดีต ผบ.ทบ. ที่รู้เกี่ยวกับเรื่องของการฟอกเงินรวมไปถึงตึกพรรครวมไทยสร้างชาติที่เจ้าของตึกคือนายอุปกิจ ตรงนี้อยากให้ทางนายพีระพันธุ์ ออกมาชี้แจงว่ารู้หรือไม่ว่าเจ้าของตึกมีคดีติดตัวเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย เพราะสาเหตุเหล่านี้หรือไม่จึงทําให้ บช.ปส. ไม่กล้าดําเนินการต่อ ทั้งๆที่นอมินีหรือบัญชีม้าของนายอุปกิจ รับสารภาพแล้วว่าเงินทั้งหมดจํานวนกว่า 2 พันล้านบาทเป็นของนายอุปกิจ

 

ด้าน พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 บช.ปส. กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้ดูแลคดีนี้ และจะเร่งนัดหมายพนักงานอัยการเข้าร่วมในการสอบสวนรวมถึงจะเชิญนานอัจฉริยะเข้าสอบพยานด้วย โดยทาง บช.ปส. ได้ดําเนินการตามหมายจับไปแล้ว 9 คน จาก 10 คน ซึ่งเหลืออีก 1 คน คือตัวนายอุปกิจ โดยต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนจึงจะออกหมายจับต่อไปได้

 

ทั้งนี้นายอัจฉริยะ มั่นใจว่าหากเรียกตนสอบปากคํา จะทําให้เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับนายอุปกิจได้ทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube