ตำรวจปราบปรามยาฯ รวบ? 9 เครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ ยึดยาบ้า 14 ล้านเม็ดและไอซ์ 1.2 ตัน ยึดทรัพย์กว่า 2 ล้านบาท
วันนี้?(4? มี.ค. 67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายขนยาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 19 – 26 กุมภาพันธ์ 2567 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1, 3 ,4 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ได้สกัดกั้นและจับกุม ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติด ลักลอบลำเลียงยาจาก แนวชายแดนภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 22 ราย ตรวจยึดยาบ้ารวมกว่า 14 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 1,250 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบสวน รวบข้อมูลการข่าว วางแผนล่อซื้อและติดตามจับกุมขณะผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติด พบว่าบางส่วนซุกซ่อนไว้ในรถโดยสารส่วนบุคคลปะปนกับพืชผลทางการเกษตร โดยมีคดีสำคัญคือ การจับกุมผู้ต้องหาเครือข่าย ‘เอก สายใต้’ ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ขับรถจำนวน 2 คัน ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดเชียงใหม่ไปยังภาคใต้ ใช้เส้นทางจังหวัดลำพูนมุ่งหน้าจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังติดตามและเข้าตรวจค้นรถที่จอดไว้บริเวณอำเภอด่านช้างจังหวัดสุพรรณบุรี พบยาบ้า 488 มัด หรือจำนวนกว่า 976,000 เม็ดซุกซ่อนในรถ พร้อมขยายผลตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหาในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบยาบ้าฝังดินไว้ข้างคอกไก่หลังบ้านเพิ่มอีก 5,600 เม็ด โดยสำหรับทุกคดีเจ้าหน้าที่จะขยายผลสืบสวนและดำเนินมาตรการยึดทรัพย์ต่อไป
คดีที่ 2 จับกุมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดเชียงรายไปส่งให้กลุ่มผู้จำหน่ายในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯโดยสามารถตรวจยึดยาบ้าจำนวน 5 กระสอบรวม 1 ล้านเม็ด
คดีที่ 3 จับกุมเครือข่ายยาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือส่งต่อให้กับกลุ่มนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลางโดยตรวจยึดไอซ์ 1,200 กิโลกรัม
คดีที่ 4 สืบทราบมาว่านายตี๋หรืออภิชาติแซ่ห่อเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาจะทำการจำหน่ายยาไอซ์เป็นจำนวนมากจึงวางแผนเข้าติดต่อซื้อขายเมื่อไปถึงจุดนัดพบจึงแสดงตัวเข้าจับกุมลูกน้องของนายตี๋พร้อมไอซ์ 2 กระสอบน้ำหนัก 50 กิโลกรัม
คดีที่ 5 เจ้าหน้าที่จับกุ้งเครือข่ายยาเสพติดลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนส่งในพื้นที่ตอนในตรวจพบกระสอบต้องสงสัยเป็นยาบ้าจำนวน 200,000 เม็ด
คดีที่ 6 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบมีเครือข่ายยาเสพติดลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนนำส่งต่อให้กับกลุ่มรับค้ายาเสพติดในพื้นที่อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่หลังจากแสดงตัวเข้าจับกลุ่มตรวจสอบพบยาบ้า 7,920,000 เม็ด
คดีที่ 7 สืบสวนพบเครือข่ายยาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางไปส่งในภาคใต้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดกั้นบริเวณเพื่อจับกุมผู้ต้องหาพบยาบ้า 1,600,000 เม็ดทุกซ่อนอยู่ภายในรถแต่ไม่พบผู้ขับขี่จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณพงหญ้าในพื้นที่ใกล้เคียงจนสามารถปรับปรุงผู้ต้องหาได้
คดีที่ 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังตั้งด่านบริเวณริมถนนเพชรเกษมพบรถยนต์ต้องสงสัยขับผ่านมาในระหว่างตรวจค้นผู้ขับขี่และผู้โดยสารมาด้วยมีอาการพิรุธจึงได้ตรวจสอบสารเสพติดและนำรถยนต์เข้าเครื่องเอกซเรย์เพื่อตรวจค้นอย่างละเอียดพบยาบ้า 706,000 เม็ด
คดีสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมภาพผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนไว้ 800 มัดรวม 1,600,000 เม็ดจากนั้นผู้ต้องหาให้การสารภาพว่านำยาบ้าไปทิ้งไว้บริเวณป่ามันใกล้บึงบอระเพ็ดตำรวจจึงเข้าทำการตรวจสอบพบยาบ้า 200 มัดรวม 400,000 เม็ดรวมยาบ้า 2 ล้านเม็ดและยึดทรัพย์ของกลางได้มากกว่า 2,200,000 บาท
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ย้ำว่า จากนโยบายการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดฐานยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, และ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรม การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดยเฉพาะการดำเนินคดีฐานสมคบฟอกเงินและยึดทรัพย์สิน ทำให้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสามารถยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบได้แล้วกว่า 600 ล้านบาท และมั่นใจว่ามาตรการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดจะทำให้เครือข่ายค้ายาเสพติดลดลง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
