fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ยํ้าทําตามยุทธวิถี – ภาพ คฝ. ยิงกระสุนยางเป็นภาพเก่า

Featured Image
โฆษก กอร.เผย ผบ.ตร.เสียใจที่สื่อมวลชนบาดเจ็บจากเหตุปะทะในการชุมนุมเมื่อวานนี้ พร้อมย้ำว่าทำตามยุทธวิธีทุกขั้นตอนหลังผู้ชุมนุมฝ่าฝืนออกนอกพื้นที่ -ชี้ภาพ คฝ.ยิงกระสุนยางเป็นภาพเก่า

 

 

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ในฐานะโฆษกกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมเอเปค 2565 (โฆษกกอ.ร่วมฯ) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องในช่วงการประชุมเอเปค และมีการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถนนดินสอเมื่อวานนี้ว่า ยืนยันว่าตำรวจปฏิบัติตามขั้นตอนและยุทธวิธีในการสลายการชุมนุม เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเคลื่อนขบวนออกจากพื้นที่ที่กำหนดไว้

 

ซึ่งผิดเงื่อนไข และตำรวจก็ได้แจ้งเตือนด้วยเครื่องขยายเสียงอยู่ตลอดเวลา แต่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับใช้ลวดสลิงขึงเพื่อดึงทำลายแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ รวมถึงมีการทำร้ายร่างกายและขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจพยายามหลีกเลี่ยงการใช้กำลังมาโดยตลอด แต่สถานการณ์ในขณะนั้น ตำรวจจำเป็นต้องเข้ายับยั้งตามยุทธวิธีหรือเหตุการณ์ซึ่งหน้าที่เกิดขึ้น

 

ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับลำดับการใช้ยุทโธปกรณ์หรือระยะเวลาการควบคุมสถานการณ์ แต่ขึ้นอยู่กับความอันตรายของสถานการณ์ ณ เวลานั้น เช่น มีการใช้ท่อนไม้ตีประชิดตัวเจ้าหน้าที่ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์เพื่อระงับเหตุ เป็นต้น

ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนและผู้ร่วมชุมนุมได้รับบาดเจ็บ พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ และร่องรอยบาดแผลว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย พร้อมระบุว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสียใจต่อกรณีที่สื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเมื่อวานนี้ และไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็มีการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด

 

ส่วนกรณีที่แกนนำผู้ชุมนุมบางคนโพสต์ประกาศตั้งค่าหัว ให้รางวัล 1 หมื่นบาทกับประชาชนที่มีเบาะแสตำรวจควบคุมฝูงชนที่ปรากฎภาพยิงกระสุนยาง หรือทำร้ายประชาชนนั้น โฆษกกอ.ร่วมฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ภาพดังกล่าวไม่ใช่เหตุการณ์ที่ถนนดินสอเมื่อวานที่ผ่านมา แต่เป็นภาพเก่าที่เกิดขึ้นในการชุมนุมครั้งก่อนหน้านี้

 

แต่ตำรวจก็ยังไม่ทราบว่าเป็นภาพจากเหตุการณ์ช่วงเวลาใด ซึ่งขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้หารือกับฝ่ายกฎหมายตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวแล้วว่า จะเข้าข่ายโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ยั่วยุ หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ หากเข้าข่ายก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมฝากถึงประชาชนให้ใช้ดุลพินิจในการติดตามข่าวสารต่างๆ

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube