fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก” มั่นใจหลักฐานแน่น คดีฆ่าหั่นศพ “ฮันส์ ปีเตอร์”

Featured Image
“บิ๊กโจ๊ก” เผยจับตัวการสำคัญคดีฆ่าหั่นศพ “ฮันส์ ปีเตอร์” แล้ว 2 ราย ยันชนวนเหตุคือประสงค์ต่อทรัพย์ มั่นใจหลักฐานแน่น พร้อมสั่งกวาดล้างมาเฟียต่างชาติ

 

 

วานนี้(11 ก.ค. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภาค 2 , พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รรท. ผบก.ภ.จ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันประชุม ที่ สภ.เมืองพัทยา คดีฆ่าหั่นศพ “ฮันส์ ปีเตอร์” นักธุรกิจชาวเยอรมัน และประชุมกวาดล้างกลุ่มแก๊งมาเฟียต่างชาติที่มาอาศัยในพื้นที่โดยรอบเมืองพัทยา

 

โดยภายหลังใช้เวลาประชุมเกือบ 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ขอชื่นชมการทำงานของตำรวจภูธรภาค 2 ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และตม.ชลบุรี ซึ่งใช้เวลาสืบสวนเพียงวันกว่าๆ ก็พบศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ นักธุรกิจชาวเยอรมัน อายุ 62 ปี ส่วนผู้ต้องหาที่ศาลอนุมัติหมายจับ 3 ราย ขณะนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 2 ราย คือ นางเพธา อายุ 54 ปี และ นายโอลาฟ อายุ 52 ปี ซึ่งเหลืออีก 1 ราย และน่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้

 

ในส่วนของผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว ทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมไปเช่นเดียวกับเจ้าของบ้าน เรื่องการเคลื่อนย้ายซ่อนเร้นศพ ส่วนตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ที่จับได้แล้วนั้น เบื้องต้นยังไม่ให้การใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะให้การหรือไม่ให้การเราไม่หนักใจเพราะมีพยานหลักฐานต่างๆ เต็มไปหมด ทั้ง ดีเอ็นเอ ร่องรอยคราบเลือดต่างๆ ถึงแม้จะเป็นวิธีการเดิมๆ ในการหั่นศพ คือ เอาศพไปแช่แข็งไว้แล้วนำมาหั่นจะได้ไม่มีเลือด

 

ซึ่งจริงๆ แล้วการหั่นศพทุกครั้ง ยังไงก็ต้องมีเลือดกระเซ็น และต้องมีร่องรอยหลักฐานหลงเหลืออยู่ เพราะฉะนั้นตำรวจมั่นใจยังไงก็ไม่รอดเพราะตำรวจทำงานเร็ว แต่หากช้ากว่านี้หลักฐานอาจจะหายไปหมด ส่วนเหตุจูงใจนั้นยืนยันว่าเป็นเรื่องของการประสงค์ต่อทรัพย์ โดยพฤติกรรมของ นายโอลาฟ จะทำตัวเป็นมาเฟีย และผู้มีอิทธิพลให้กับคนต่างชาติ ที่มีสัญชาติเดียวกัน ใครจะมาทำธุรกิจในเมืองไทย ต้องมาจ่ายค่าคุ้มครอง เมื่อไม่จ่ายและรู้ว่าใครมีทรัพย์ ก็จะใช้ นางเพธา เป็นคนหลอกมา แล้วทำการฆ่า ซึ่งหลักการคือประสงค์ต่อทรัพย์ ไม่มีเรื่องอื่น โดยตนได้เชิญตำรวจประสานงานประจำสถานทูตเยอรมันประจำประเทศไทย ทางสถานทูตก็ชื่นชมการทำงานที่สามารถรักษาชีวิตภรรยากับลูกเขาได้ปลอดภัย

 

แต่สิ่งหนึ่งที่ทางประเทศเยอรมันมีข้อมูลของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เราก็จะเอาข้อมูลจากเขามาทำงานในประเทศไทย ด้วยการประสานข้อมูลกันในการทำงาน โดยจะเร่งทำข้อมูลให้เสร็จในสัปดาห์หน้า

 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุด้วยว่า หลังจากนี้ต้องไล่ความเชื่อมโยงว่ามีคนไทยเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ซึ่งหัวหน้าขบวนการหลักคือกลุ่มแก๊ง “เอาน์รอ” ซึ่งมี นายโอลาฟ เป็นตัวการหลัก และเมื่อหลายปีที่แล้วก็กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เบื้องต้นได้สั่งการร่วมกับ ผบช.ภาค 2 ในการส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจในพื้นที่หนองปรือและพัทยา ซึ่งขบวนการเหล่านี้ถือเป็น “อาชญากรข้ามชาติ” ที่มาปักหลักอาศัยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง พัทยา ภูเก็ต และ เกาะสมุย และหากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสมาที่ตนเองหรือ ผบช.ภาค 2 และ รรท.ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เพื่อถอดวีซ่า พร้อมผลักดันออกนอกประเทศแล้วทำแบล็กลิสต์ เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดแต่ละครั้งสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศเป็นอย่างมาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube