fbpx
Home
|
บันเทิงไทย

ความลับกว่า 30 ปี ! “เชฟป้อม” ที่เก็บไว้ในใจคนเดียว

Featured Image
ความลับกว่า 30 ปี ! “เชฟป้อม” ที่เก็บไว้ในใจคนเดียว กับคำพูดที่ทำให้น้ำตาตกในวันแต่งงาน ??

 

 

เชฟป้อมหรือ หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษ ในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เผยความลับที่เก็บไว้ในใจคนเดียวกว่า 30 ปี กับคำพูดที่ทำให้น้ำตาตกในวันแต่งงาน ??

เชฟป้อม : พอเด็กทำมีขี้หึงก๊องแก๊งก็รำคาญก็เลยคิดว่าคนอย่างเราต้องได้คนเป็นผู้ใหญ่แรกๆก็คุยกันรู้เรื่องเพื่อนคุณพ่อแหละ คือ เรื่องของเรื่องตอนที่เป็นนักร้องเยาวชน มันก็มีรูปลงหนังสือพิมพ์ ก็เลือกรูปเดียวไปลงมีประวัติอะไรอย่างนี้ทางคุณพ่อเขาก็ส่งรูปนี้ไปให้ลูกชายอยู่เมืองนอก และก็มาคุยกันตอนที่คุยกันข้อแรกเป็นผู้ใหญ่ เขาอายุมากกว่าเรา 15 ปี สบายแล้วอายุเด็กกว่าน่าจะพูดรู้เรื่องเจอกัน 7 วันเขาก็ขอหมั้น ก็หมั้นก็หมั้น 7 วันคือเพื่อนตกใจหมดทั้งประเทศ แต่หลังจากนั้นพ่อดึงเชิงพ่อบอกน่าเกียจลูกจะหมั้นเลยแต่งเลย เดี๋ยวเขาหาว่าผิดพลาดทางเทคนิค ดึงยืดไปอีกประมาณ 6-7 เดือนกว่าจะแต่ง

ถาม แต่ตอนนั้นนอกเหนือจากความเหมาะสมใดๆแล้วแปลว่าเราก็ต้องรักเขา
เชฟป้อม : เราก็รักเขามากเหมือนกันค่ะ แต่ว่าอันนี้ ป้อม จะมาเล่าสารภาพให้ฟังอันหนึ่งว่าวันแต่งงาน ป้อม น้ำตาตกเลย ป้อม จำได้ว่าตอนนั้นทำบุญตอนเช้า ก็มีถ่ายรูปใช่ไหมคะ ช่างภาพก็บอกว่าใกล้ๆกันนิดหนึ่งให้ดูรักกันหน่อย เขาก็หันพูดอยู่ข้างหูเราก็ไม่ได้รักนิ ในวันแต่งงาน แต่อันนี้ ป้อม ต้องโทษตัวเองเลยว่า … ด้วยความที่วันนั้นป้อมอายุ 23 ปี ป้อมไม่กล้าทำอะไรเรายังห่วงหน้าตาพ่อแม่เขา พ่อแม่เรา

ถาม ถ้าย้อนกลับไป ณ วันนั้นมันมีการจีบกันไหม??
เชฟป้อม : ก็มีจีบกันนะคะ เขาก็มารับไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ แต่เช้าในวันแต่งงานได้ยินประโยคนั้น ใจร้ายมากเราเจอประโยคแบบนี้แล้วเราก็ไม่ได้กล้าพอที่จะ ลุกขึ้น !! เลิฟ ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้สิคะ แน่นอนเลย มาเลย คิดว่าเขาตั้งใจพูดค่ะ เพราะอยู่ตรงหูเนี่ยแล้วยืนอยู่ตรงนี่ ตอนนั้นก็คิดว่าลืมๆมันไป มันไม่มีใครได้ยิน ได้ยินกันสองคน แต่ก็อยู่มามีลูกสามคน

ถาม เรื่องนี้ได้เล่าให้ที่บ้านฟังไหม
เชฟป้อม : ไปเลยค่ะ เก็บไว้ในใจคนเดียว ไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยมันฝังอยู่คนเดียวนะคะ ถ้าให้คนได้ยินอย่างในรายการเนี่ยที่นี่ที่แรก อยากจะบอกให้คนที่ได้ฟังได้รู้ว่าอะไรจะเกิดจัดการมันซะไม่ต้องไปต่อ มันเป็นสัญญาณอันตรายอยู่แล้ว

ถาม ซึ่งตอนที่เราแต่งงานเราไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยคือต้องไปอยู่ที่อเมริกาเลย
เชฟป้อม : แต่งงานได้สองอาทิตย์ก็ไปที่อเมริกา ป้อมเป็นแม่บ้านเต็มตัว ช่วยดูเรื่องธุรกิจบ้างอะไรบ้าง ซึ่งก็ดูเหมือนดีเพราะเราอยู่ที่อเมริกา มีแต่ครอบครัวเราสภาพแวดล้อมไม่มีการดึงอะไรทั้งสิ้น ไม่มีเพื่อนเขา ไม่มีเพื่อนเรา ครอบครัวไม่มีกันเลย การทะเลาะเบาะแว้งมันน้อยมาก อย่างหน้าหนาว 4-5 โมงก็มืดแล้ว มันก็ไปไหนไม่ได้ก็กลับมากินข้าวบ้านอยากเล่นกีฬาก็ออกไปสองคน

ถาม ความอดทนที่คุ้มค่า ตัดสินใจหย่าสามี??
เชฟป้อม : จำได้ว่าห้องรับแขกยังไม่ได้กินข้าวเลย ทำไมเลือกเวลานั้นก็ไม่รู้เดี๋ยวกินข้าวก็คืนกันไม่ลงหรอกก็นั่งคุยคำแรกก็บอกว่า .. ที่มาวันนี้ ป้อม อยากจะขอชีวิตคืน ทุกคนก็อึ้ง !! เพราะว่าอันนั้นเรานับเวลาแล้วชีวิตแต่งงาน 20 ปี เขาก็บอกว่าก็เขาไม่อยากอยู่บ้านป้อมขี้บ่น พี่สาวเขาก็ตอบเลยว่าเคยอยู่ฟังเขาบ่นด้วยเหรอ พี่สาวเขาก็เข้าใจทุกอย่างนะ แต่วันนั้นก็คือกินข้าวกันกลืนไม่ค่อยลง แต่ว่าวันนั้นป้อมบอกเลยว่าที่ป้อมพูดเนี่ยนะ ขอชีวิตคืน ป้อมไม่ได้บอกว่าป้อมจะหย่าเลย ถ้าคิดว่าป้อมและลูกยังเหมาะที่จะอยู่ในชีวิตเขา ก็ 1 ปีนะที่บ้านเข้าก็จะมีแฟลต คืออยู่ที่บ้านนะคะแล้วก็จะมีแฟลตให้เช่าเธอไปอยู่ข้างหน้าหนึ่งห้อง แล้ว 1 ปี กลับมาคุยกันว่าจะไหวไหม เหมือนแยกกันอยู่สักพักหนึ่ง แต่ก็อยู่ข้างหน้าข้างหลัง พ่อลูกก็ยังได้เจออะไรอย่างนี้ค่ะ จำได้ว่าคุยเดือนมกราคมพอเดือนมีนาคมต้นเดือนเขาก็มาบอกเลย เขาบอกว่าเขาดีแล้วไม่มีอะไรต้องปรับปรุง หย่าเลย ชัดเจนไหมคะ

ถาม แต่ต่อให้เราซ้อมมา 10 ปี วันที่เขาบอกว่าเขาจะหย่าเราเองมีความรู้สึกเหมือนกันว่าก็ไม่ได้คิดถึงขั้นนี้
เชฟป้อม : ในความเป็นผู้หญิงคนหนึ่งธรรมดาๆค่ะ เรื่องอย่างนี้เศร้าแต่ไม่ร้องไห้แล้ว มันหมดน้ำตาร้องแล้วก็แบบนี่เราไม่มีค่าเลยเหรอ ในที่ทำมาทั้งหมด 20 ปี เรื่องที่คิดว่าจะยากคือการคุยกับลูก คือคุยกับหมอแล้วเขาก็บอกว่า คนที่ 2 เนี่ยเป็น Daddy’s boy คือชอบเล่นกอล์ฟชอบอะไรตลอดเวลาตลอดเวลา เดี๋ยวค่อยคุย ให้คุยกับหนึ่งสามก่อน แล้วเอาลูกคนที่หนึ่งกับลูกคนที่สามเป็นพวก เพื่อที่จะคุยกับคนที่สอง เราปรึกษาคุณหมอเลยเพราะเราก็ห่วงลูกเราอยู่ค่ะ ไม่ใช่ทำอะไรโดยภาระการคุยกับลูกคนที่หนึ่งกับคนที่สาม เชื่อไหมคำแรกที่บอกว่าน่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ เขาพูดว่าก็ไม่เห็นเป็นไรเลยคุณแม่ เราก็อยู่ของเราอย่างนี้มาตลอดเวลา มันคือรางวัลของการอดทน 10 ปีที่แล้วกลัวว่าลูกเราจะไม่ไหว โดยเฉพาะคนเล็กเหมือนกันเขาอายุน้อยสุด เขาพูดคำนี้มาเราโล่งเลย แล้วรางวัลยิ่งไปกว่านั้นก็คือพอคุยกับคนที่สอง มันตั้งแต่เมื่อไหร่คุณแม่ ทำไมคุณแม่ไม่พูดอะไรสักคำเดียว คุณพ่อเขาพูดตลอดเวลาเลยนะ ว่าคุณแม่ยุ่งกับชีวิตลูกแล้วทำไมคุณแม่ไม่ว่าอะไรสักคำ ทั้งสองเคสที่พูดกับลูกคนที่หนึ่งกับคนที่สาม แล้วก็พูดกับคนที่สองเนี่ยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เพราะเขาเห็นมาตลอดมันคือความอดทนที่คุ้มค่า กับการที่ลูกได้อยู่กับเรามาตลอด สัมผัสว่าเราได้ทำอะไรให้เขา

ถาม ได้มาตามสเปก ใช่ว่าจะอยู่ด้วยกันได้
เชฟป้อม : บอกเลยนะ บอกสาวๆทุกคนเลย อย่ามีสเปกเพราะการมีสเปก ไม่ใช่ว่าคุณได้มาตามสเปกแล้วจะอยู่ด้วยกันได้ เพราะลึกๆแล้วมันต้องมีความเข้าใจ แล้วอยู่ด้วยความเป็นตัวเรา ความเป็นตัวเขา สเปก .. อย่าบอกว่าชอบค่ะ หน้าตี๋ออกเกาหลีหน่อยๆ แต่พอมาอยู่แล้วกลายเป็นผู้ชายหยาบคาย คุณอยู่ด้วยได้ไหม สเปกคือสิ่งที่เราแค่ชอบแต่ไม่ได้การันตีว่าจะอยู่ด้วยกันได้ไหม

ถาม ตอนนี้ พี่ป้อม บอกว่าไม่แล้วสเปกไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของวัย / อายุ
เชฟป้อม : ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของอายุ เด็กกว่าก็โอเคถ้ามีความเป็นผู้ใหญ่พอ

ถาม ถามตรงๆตอนนี้ พี่ป้อม โสดไหมเอ่ย
เชฟป้อม : สถานะตอนนี้ก็คือเหมือนอยู่คนเดียวนะคะ แต่มีคนคุยก็ไม่ได้ปิด แต่ป้อมก็ไม่ได้ประกาศ หลังจากมาทำงานแบบนี้แล้ว มันก็มีคนจับตา เราก็มีทั้งคนรักและคนไม่รัก ถ้าเขารู้ว่าเราคบใครอยู่กับใครเนี่ย ผลที่ตามมามันคืออะไร แล้วป้อมไม่อยากให้เขาเสียพื้นที่ส่วนตัว ความสงบจะหายไป

ถาม พี่ป้อม มีมุมหวานๆไหม ?? แบบอย่างจะเสียงโหดกับคนอื่น แต่จะมีเสียฃสองเสียงสามอะไรอย่างนี้ไหม??
เชฟป้อม : ก็มีเสียงพูดธรรมดา แล้วก็มีคะขาบ้าง

ถาม สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นความรักลูกอยู่ มีอะไร ที่ตอนนี้เรายังเป็นห่วงเกี่ยวกับเขาบ้าง
เชฟป้อม : คนโตมีให้ห่วงเพราะความใจเย็นเกินไป คนที่สองมีให้ห่วงเพราะความใจร้อนเกินไป ซึ่งเหมือนแม่มากค่ะ และคนที่สามเป็นความพอดีๆ แต่ว่าอายุยังน้อยนะคะ ต้องทำไปตามขั้นตอนในการทำมาหากินของเขา ก็เป็นความห่วงที่ไม่ได้กังวลใดๆมากมาย ข้อหนึ่งที่สอนลูกเสมอว่าห้ามโกหก ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะดีจะเลวแค่ไหนก็ห้ามโกหก เพราะว่าแม่จะเป็นคนแรกที่ร้องไห้ แต่แม่ก็จะเป็นคนแรกที่ให้อภัย และเข้าไปหาทางแก้ไขให้ แม่ไม่ได้แก้ให้ผิดเป็นถูก แต่แม่จะแก้ให้สถานการณ์นั้นดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แม่อาจจะทำให้ลูกมีบาดแผลในเรื่องของการแต่งงานแต่ลูกก็ต้องเลือกใช้ชีวิตของตัวเอง แต่การแต่งงานคือลูกต้องเอาชีวิตอีกอย่างน้อยหนึ่งชีวิต มาอยู่ในการดูแลเพราะลูกเป็นผู้ชายลูกต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลเขา ถ้าทำไม่ได้อย่าเอาลูกเขามา ลูกเขาจะต้องสุขเสมอหรือดีกว่าที่อยู่กับพ่อแม่ของเขา

ถาม พูดถึงลูกมาเยอะมากให้ลูกพูดถึงแม่บ้าง !!
ลูกชายคนโต (เชฟป้อม) : คุณแม่ดุไหมดุครับ แต่เวลาใจดีก็ใจดี เวลาดุก็ดุ แต่เวลาคุณแม่ดุเวลาเขาดุก็ดุแบบมีเหตุผล ดุในเรื่องที่เราสมควรโดนดุนั่นแหละ ผมจะเป็นเรื่องเดิมๆก็คือแบบชอบทำบ้านรก เจอกันทีไรเขาก็ดูเรื่องนี้ทุกครั้ง โตแล้วยังโดนอยู่เลย แม่หวงลูกชายไหม ไม่เลยครับอิสระมาก มีประโยคหนึ่งนะที่แม่เคยพูดไว้ว่า .. มีใครสักคนอย่าไปทำให้เขาลำบากมีเมื่อพร้อม ผมก็เลยไม่มีใครเลย ถ้ามีผู้ชายเข้าหาแม่ห่วงไหม ไม่ห่วงครับกลั่นกรองดูหน่อยว่าแบบ คนนี้โหงวเฮ้งได้หรือเปล่า รักแม่นะครับอยากให้แม่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยที่ไม่ต้องห่วงพวกเรามาก แม้บางทีทำตัวให้น่าห่วงไปหน่อยก็เถอะ
เชฟป้อม : (ยิ้ม) นี่เป็นคนโตที่เย็น เห็นไหมเขาพูดเขาก็เรื่อยๆใจเย็นของเขาไปแบบนี้

สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :



 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube