“ชัชชาติ” ร่วมเปิดตัวงานBANGKOK NARUEMIT PRIDE 2022 ยอมรับความหลากหลายทางเพศ พร้อมอำนวยความสะดวกการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตยหากทำได้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวงาน BANGKOK NARUEMIT PRIDE 2022 จัดโดยคณะทำงานบางกอกไพรด์ และเครือข่ายนักกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศ ที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในหน้าประวัตศาสตร์ ขบวนพาเหรด PRIDE ครั้งแรกใจกลางกรุงเทพมหานคร จากวัดแขกสู่ถนนสีลม งานจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 เวลา 16.00 น. ประสานกับทางภาครัฐให้อำนวยความสะดวก
โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพฯมีความหลากหลาย สิ่งสำคัญคือการยอมรับ และความเข้าใจถึงความหลากหลายที่มี อาจจะไม่ใช่มิติทางเพศอย่างเดียวแต่ยังมีอีกหลากหลายมิติ ซึ่งถ้าหากทุกคนยอมรับในความหลากหลายได้ก็จะเป็นสังคมที่มีความสุขมากขึ้น
สำหรับเรื่องพื้นที่จัดงานตนมองว่าพื้นที่สาธารณะมีเยอะแยะ ซึ่งหากว่าตนได้รับการรับรองแล้วก็ต้องมาพูดคุยกับกลุ่มผู้จัดงานว่าความต้องการเป็นอย่างไร ทางกทม.ก็พร้อมสนับสนุนอำนวยความสะดวกเท่าที่ขอบเขตของกทม.จะทำได้ เช่นเรื่องพื้นที่ อำนวยความสะดวก ประสานงานกับคนในพื้นที่ รวมถึงการป้องกันโควิด-19 ด้วย
งานในครั้งนี้ นอกจากจะมีเรื่องความหลากหลายทางเพศแล้วยังมีในส่วนของความเป็นนักกิจกรรมที่ถูกจับกุมอยู่บ่อยครั้ง เมื่อจัดกิจกรรมชุมนุม ตนเห็นว่าในส่วนของการชุมนุมกทม.จะอำนวยความสะดวกในดูแลของการชุมนุมอะไรที่ กทม.จะดูแลได้ก็จะดูแลให้ดีที่สุดและจะมีการอะลุ่มอล่วยให้ได้มากที่สุด อะไรที่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นคอขาดบาดตายหรือไม่ดี ก็ไม่ควรไปกีดขวางการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยสุดท้ายแล้วไม่ควรเอากฎหมายไปเป็นเครื่องมือในการจำกัดการแสดงออกของประชาชน
นอกจากนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงนโยบายที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ ว่า ในแง่ของกรุงเทพฯ จะต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แม้จะมีความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งสำหรับกลุ่มหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQ+ ก็มีนโยบายที่จะดูแลกลุ่มนี้ เช่น การให้บริการในสิ่งที่กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการ ทั้งศูนย์บริการสาธารณสุข รวมถึงการให้ความรู้ในสถานศึกษา เพื่อยอมรับความแตกต่างเพราะชีวิตคนเราไม่ใช่แค่ 0 กับ 1 หากยอมรับความแตกต่างเหล่านี้ได้ และมองว่าไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาด คนในสังคมก็จะเข้ากันได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนอีกนโยบายคือเรื่อง 12 เทศกาล 50 อัตลักษณ์เขต เรื่อง Pride Month ก็เป็นหนึ่งนโยบายด้วย เพราะ Pride Month มันมีอยู่ทั่วโลก ซึ่งกทม.สามารถช่วยสนับสนุนในเรื่องนี้ได้เพื่อสร้างความเข้าใจ ความหลากหลายทางเพศมากขึ้น ซึ่งหลายเมืองทั่วโลกจัดกิจกรรมนี้ก็ไม่มีเหตุผลที่กรุงเทพฯจะจัดกิจกรรมนี้ไม่ได้
ส่วนการพลักดันให้มี พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมนั้น ส่วนตัวเห็นด้วยและสนับสนุน เพราะจะได้สวัสดิการเหมือนเช่นบุคคลทั่วไป ส่วนเรื่องที่ในสังคมยังมีการเลือกปฏิบีติอยู่บ้างนั้น ตนมองว่า อคติต่างๆเกิดจากความไม่เข้าใจ ซึ่งถ้าหากจะเริ่มก็ต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจก่อน ข้าราชการกทมก็ต้องเข้าใจในเรื่องนี้ ตนเชื่อว่าถ้าเริ่มจากความเข้าใจอคติก็จะลดลงได้
สำหรับนโยบายต่างๆที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศตนคิดว่า สามารถทำได้ทันทีแต่ในส่วนของสาธารณสุขก็จะต้องมีการปรึกษาหารือกันก่อน เพื่อให้ทราบถึงความต้องการของกลุ่ม LGBTQ+ ส่วนเรื่องการแต่งกายของข้าราชการนั้น ตนมองว่า แต่งกายอย่างไรไม่เป็นไร ขอให้บริการประชาชนให้ดี ดูแลประชาชน และไม่ทุจริตคอรัปชั่น ถ้าหากให้ข้าราชการแต่งกายอย่างที่ตนเองมีความสุข อาจจะดูแลประชาชนได้ดีขึ้น
พร้อมกันนี้ นายชัชชาติ กล่าวถึงรถไฟฟ้าสายสีเทา ที่มีการตัดผ่านรถไฟฟ้าหลายสายนั้น ส่วนตัวคิดว่าควรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดูแล เพราะมีค่าแรกเข้าหลายครั้ง อีกทั้งงบของ กทม.ก็ไม่ได้เยอะ มีเพียง 2.5% ของรัฐบาลใหญ่ และงบของกทม.ต้องดูแลในเรื่องอื่นๆ เช่น ทางระบายนำ ถนน ถ้าเอางบมาลงทุนเงินที่จะใช้ส่วนอื่นก็จะน้อยลงและมีหนี้มากขึ้น รถไฟฟ้าส่วนใหญ่ดูแลโดยรัฐบาล ถ้า ให้กทม.กู้เงินสุดท้ายค่าโดยสารแพงก็ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ดังนั้นควรให้รฟม.รับไปดูแล กทม.ก็จะดูแลในส่วนอื่นๆ สุดท้ายแล้วอยากให้มีเจ้าของคนเดียวทั้งระบบตั๋วรถก็จะถูกลงได้ แต่ทั้งหมดก็ต้องไปหารืออีกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
