fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“ดีเอสไอ” แถลงเปิดคอนเทนเนอร์หมูเถื่อน 161 ตู้

Featured Image
DSI แถลงกรณีเปิดตู้คอนเทนเนอร์หมูเถื่อน 161 ตู้ เตรียมทำลายฝังกลบดิน พร้อมยืนยันไม่มีหมูสูญหายระหว่างตรวจสอบ-ขนส่ง

 

 

วันนี้ ( 12 ก.ค. 66) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ นางสาวพิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบตู้สินค้า (ตู้คอนเทนเนอร์) ที่มีการนำเข้าซากสัตว์ และสุกรเถื่อนแช่แข็งผิดกฎหมาย (ของกลางในคดีพิเศษที่ 59/2566)

 

 

นางสาวพิทยาภรณ์ กล่าวว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นคดีพิเศษที่ 59/2566 นั้น หลังจากที่ได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เร่งดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด

 

โดยได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ ทำการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อตรวจสอบ โดยปัจจุบันได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วทั้งหมดจำนวน 135 ตู้ จากทั้งหมดจำนวน 161 ตู้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ (วันพุธที่ 12 กรกฎาคม 2566) ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีจำนวน 4 ตู้ที่เครื่องทำความเย็นเสีย ทำให้เนื้อสุกรภายในตู้เน่าเสีย

 

โดยการเปิดตู้เนื้อสุกรแช่แข็งดังกล่าวเป็นการตรวจสอบเพื่อยืนยันจำนวนการนำเข้าและเพื่อตรวจยืนยันว่าผู้ใดเป็นผู้นำเข้าเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดี โดยสินค้าประเภทสุกรแช่แข็งจำนวน 161 ตู้ดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากกรมปศุสัตว์ว่าเป็นสินค้าที่ไม่ผ่านการตรวจโรคตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ฯ การนำเข้ามาโดยไม่ผ่านการตรวจโรคดังกล่าว จึงเป็นการนำเข้าโดยฝ่าฝืน ม.31 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ฯ

 

ซึ่งตามกฎหมาย ในการนำเข้าจะต้องผ่านการตรวจโรคจากกรมปศุสัตว์และต้องสำแดงการนำเข้าให้ถูกประเภท พฤติการณ์ดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงข้อจำกัดตามมาตรา 244 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และเนื้อสุกรแช่แข็งดังกล่าว ถือเป็นของอันพึงริบตามมาตรา 166 ของกฎหมายดังกล่าวด้วย ซึ่งหากสำแดงถูกต้อง รัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีอากรได้เป็นเงินจำนวนกว่า 460 ล้านบาท

 

 

ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรวดเร็ว รัดกุม รอบคอบ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่นำเข้าชิ้นส่วนหมูเนื้อหมู รวมถึงขยายผลไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระทำความผิด เพื่อเป็นการตัดวงจรความเสี่ยงที่จะเกิดโรคระบาดต่อสุกรที่เลี้ยงในเมืองไทย และคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนั้นยังเป็นประโยชน์กับผู้เลี้ยงสุกรในเมืองไทยที่ลดคู่แข่งที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อกฎหมาย สร้างสมดุลให้กับตลาดค้าเนื้อหมูชิ้นส่วนหมูที่เกษตรกรเลี้ยงกันภายในประเทศ

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube